หรือซื้อเพียง 2021 Honda City SV รองท็อปก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องซื้อ RS ให้เปลือง 74,000 บาท

คิดว่าหลาย ๆ คนคงจะชอบ และคิดจะซื้อ 2021 Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) ด้วยหน้าตาที่ไม่ขี้เหร่ ราคาดี เครื่องยนต์เหมาะใช้งานในเมือง

แต่ก็ยังไม่รู้จะซื้อรุ่นไหนดี ระหว่างรองท็อปอย่าง SV หรือไปให้สุดกับ RS เพิ่มงินอีก 74,000 บาท วันนี้เรามาดูกันว่าแค่รุ่นรองท็อปก็เพียงพอแล้ว

ราคา

ระหว่าง Honda City SV และ RS มีราคาที่ห่างกัน 74,000 บาท จากในเว็บไซต์ Honda (ฮอนด้า) แคมเปญที่คุ้มสุดคือ ดอกเบี้ย 2.29% พร้อมฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 1,000 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 12,000 บาท เมื่อดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน

เมื่อเทียบผ่อนต่อเดือน SV ดาวน์น้อยกว่า 18,500 บาทและผ่อนต่อเดือนถูกกว่า 1,262 บาท เอาเงินส่วนนี้ไปเติมน้ำมันได้สบาย ๆ

สิ่งที่แตกต่างกัน

นอกจากราคาที่ต่างกันแล้ว แน่นอนว่ารุ่นท็อปก็ต้องมีของมากกว่า ใน ฮอนด้า ซิตี้ RS มีการตกแต่งเพิ่มขึ้นมาจาก SV ดังนี้

• ไฟหน้า LED
• กระจังหน้า, สปอยลอร์ สีดำ
• ชุดแต่งกันชน, กระจังหน้า
• ไฟตัดหมอก
• กระจกมองข้างสีดำ
• ล้ออัลลอย 16 นิ้ว
• ภายในเย็บด้ายสีแดง
• มาตรวัดสีแดง
• ช่อง USB ด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
• Paddle Shift
• แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจก
• พนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว
• ลำโพง 8 ตัว
• Honda Connect

ซึ่งเหล่านี้ต้องยอมรับว่าเป็นออพชั่นเพิ่มความสวยงาม ตามความต้องการของแต่ละคนที่จะมองว่าคันไหนคุ้มค่า

เพราะออพชั่นที่ดูสำคัญอย่าง Paddle Shift และ Honda Connect คงเป็นออพชั่นที่ได้ใช้กันไม่บ่อย จะมีประโยชน์ในการเตือนต่อภาษี หรือเรียกเข้าศูนย์บริการ ซึ่งก็สามารถไปติดตั้งกล่องเพิ่มได้ในราคา 8,900 บาท

ส่วนประโยชน์ของ Paddle Shift หลัก ๆ ก็คือการช่วยเพิ่มเกียร์ หรือการตบเกียร์ลงเพื่อทำการเอนจิ้นเบรก แต่ในรถธรรมดาที่ใช้งานกันในประจำวัน ก็ไม่ได้ส่งผลให้เห็นได้อย่างชัดเจนขนาดนั้น นอกจากเป็นรถที่ต้องการทำความเร็วมาก ๆ ใช้แค่คันเร่งกับแป้นเบรกก็เพียงพอแล้ว

ออพชั่นความปลอดภัย

ในด้านของความปลอภัย สิ่งหนึ่งที่ ฮอนด้า ซิตี้ RS คุ้มกว่า SV ก็คือ ม่านถุงลมด้านข้าง ที่จะคุ้มค่ากว่าเล็กน้อย ซึ่งหลายคนอาจบอกว่าไม่ได้ช่วยอะไรมาก แต่ไว้ก็ดีกว่าไม่มีครับ

แต่ที่มีเหมือนกันทั้งคู่ แล้วโดยส่วนตัวมองว่าดีก็คือ กล้องหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ที่ก็เพียงพอแล้ว

แล้วแต่ความคุ้มค่า

หากมองดูแล้ว Honda City SV รองท็อป ก็ออกจะคุ้มค่ากว่าเล็กน้อย ถูกกว่าเกือบ 80,000 บาท แถมออพชั่นก็ไม่ขี้เหร่

สุดท้ายแล้ว ความคุ้มค่าของแต่ละคนแตกต่างกันไป ไม่ต่างจากโทรศัพท์ ที่ราคาต่างกัน แต่ใช้ได้เต็มทุกฟังชั่นหรือเปล่า คันที่คุ้มก็คือคันที่คุณซื้อนั่นแหละครับ

เงินถึงก็ไป e:HEV

หรือถ้าใครเงินถึง จะขยับไปเล่น Honda City e:HEV (ฮอนด้า ซตี้ อีเอชอีวี) ราคา 839,000 บาทกันเลยก็ได้ แพงกว่าเดิม 100,000 บาท

ทั้งแรงกว่า ประหยัดกว่า เคลมว่ามีอัตราการประหยัดน้ำมัน 27 กม./ล. จากรุ่นเดิมที่เคลมไว้ประมาณ 23 กม./ล.มีเบรคมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Brake Hold  เพิ่มแอร์หลัง ดิสก์เบรค 4 ล้อ

รวมถึงเพิ่มระบบ Honda Sensing ให้มั่นใจมากขึ้น

• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก 
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน 
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ 
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ 
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
• ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)