ผู้สืบทอดน้องเล็ก Mercedes-Benz A-Class เวอร์ชั่น EV อาจมาเร็ว ๆ นี้ในปี 2025 ขนาดเล็กกว่า EQA

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน Mercedes-Benz ได้ออกมากล่าวถึงการลดการผลิตรถยนต์ที่มีขนาดเล็กหรือคอมแพคต์ จาก 7 ตัวถังให้เหลือ 4 แล้วเปลี่ยนไปตั้งชื่อว่า “Entry Luxury”

ซึ่งจากรายงานล่าสุด ตัวถัง 5 ประตูแฮทช์แบ็คของ A-Class ก็จะยังได้ไปต่อ ในฐานะทางเลือกที่เล็กกว่า EQA compact SUV

สำหรับบรรดาเหล่ารถคอมแพคต์รุ่นใหม่จะใช้แพลทฟอร์ม MMA ที่จะให้ข้อดีในด้านเทคโนโลยีและสมรรถนะ ซึ่งแม้จะใช้กับเครื่องยนต์สันดาปด้วย แต่ก็จะมุ่งเน้นไปที่ไฟฟ้าก่อน

นั่นทำให้อาจจะออกมาดีกว่า EQA และ EQB ปัจจุบันที่ยังใช้แพลทฟอร์ม MFA2 พื้นฐานจากเครื่องยนต์สันดาปอยู่

จากการรายงานของสำนักข่าว Autocar การมาถึงของแฮทช์แบ็คไฟฟ้าขนาดเล็กนั้นแน่นอนว่าจะต้องใส่แบตเตอรี่ขนาดเล็กกว่าเดิม แต่ก็จะมาเพิ่มในความหนาแน่นของพลังงาน เมื่อรวมกับแอโรไดนามิกส์และความเบาของตัวรถแล้ว ก็ยังจะมีระยะการวิ่งที่แข่งขันได้แม้เป็นรุ่นเล็กสุด

ผู้ผลิตยังมีการคอนเฟิร์มอีกว่า จะมีการนำเทคโนโลยีในคอนเซปท์ Vision EQXX มาใช้ และผู้สืบทอด A-Class ก็จะเป็นหนึ่งในนั้น รวมถึง Mercedes-Benz C-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส) ไฟฟ้าในอนาคต

สำหรับการออกแบบ A-Class หรือ EQA hatchback อาจจะมีตัวถังเตี้ยกว่าเดิมด้วยแพคแบตเตอรี่แบบบางใต้ท้องรถเพื่อไม่ให้พื้นที่ห้องโดยสารหายไป

รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้มีความเป็นไปได้ที่จะมาในตัวถัง 5 ประตูเท่านั้น เนื่องจากมีข่าวลือออกมาว่าจะมีการรวม A-Class ซีดาน 4 ประตูเข้ากับ Mercedes-Benz CLA ให้เป็นรุ่นเดียวกัน

ระบบความบันเทิงสุดไฮเทค

มีการคาดเดาว่าจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Mercedes-Benz Operating System (MB.OS) ใหม่ ที่จะมีหน้าจอใหญ่ขึ้น และมีความสามารถในการเชื่อมต่อที่มากกว่าเดิม

รวมถึงวัสดุภายในระดับพรีเมี่ยม และระบบช่วยเหลือคนขับ ADAS ต่าง ๆ ที่อาจจะไปถึงการขับขี่อัตโนมัติ Level 3 กันเลยทีเดียว

คู่แข่งยังไม่มี

ในปัจจุบัน ผู้ผลิตสายหรูคนอื่น ๆ อย่าง Audi (อาวดี้) หรือ BMW (บีเอ็มดับเบิ้ลยู) ยังไม่มีแฮทช์แบ็คไฟฟ้าขาย นั่นทำให้จะมีเพียงคู่แข่งที่ค่อนข้างนอกกระแส

อย่างเช่น VW ID.3, Cupra Born, และฝาแฝดที่กำลังจะเปิดตัว Peugeot e-308 กับ Opel Astra-e รวมถึง Lancia Delta EV ในปี 2028

A-Class ไฟฟ้านั้นคาดว่าจะมาเปิดตัวในปี 2025 เพราะเป็นช่วงเวลาที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ต้องการที่จะมีรถยนต์ไฟฟ้าในทุกเซกเมนต์

ซึ่งก็ต้องบอกว่าความเป็นไปได้ที่จะนำมาขายในประเทศไทยด้วยนั้นมีไม่น้อยเลย ด้วยความที่เป็นรุ่นเล็กสุด ราคาถูกสุดอยู่แล้ว การจะนำมาเป็นตัวเลือกให้ลูกค้าที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าหรูในราคาที่ไม่แพงก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากนัก

แถมในสายนี้กยังไม่มีคู่แข่งด้วย ก็ยิ่งหน้าจับตามอง