2022 Honda HR-V และ BR-V คว้า 5 ดาว จากทดสอบการชน ASEAN NCAP แม้ไม่ใช่รุ่นท็อป

• Honda HR-V ได้ 81 เต็ม 100 คะแนน
• Honda BR-V ได้ 77 เต็ม 100 คะแนน
• มี Honda SENSING เป็นตัวช่วย

การทดสอบการชนล่าสุดของภูมิภาคอาเซียนอย่าง ASEAN NCAP ได้ทดสอบรถที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้อย่าง 2022 Honda HR-V (2022 ฮอนด้า เอชอาร์-วี) และ 2022 Honda BR-V (2022 ฮอนด้า บีอาร์-วี) พบว่า ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว 

ASEAN NCAP คือ การทดสอบเพื่อวัดสมรรถนะด้านความปลอดภัยของยานยนต์รุ่นใหม่ที่วางจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (New Car Assessment Program for Southeast Asia) โดยมีหลักเกณฑ์การประเมินที่ประกอบด้วยการทดสอบการชนจากด้านหน้า การชนจากด้านข้าง และการประเมินเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย

2022 Honda HR-V ได้ 81 เต็ม 100 คะแนน

สำหรับ 2022 Honda HR-V นั้น ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว ด้วยคะแนนรวม 81.38 จาก 100 คะแนน โดยได้รับคะแนนในแต่ละด้าน ทั้ง 4 ด้าน จากทั้งหมด 120 คะแนน ประกอบด้วย 

• การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ (Adult Occupant Protection: AOP) 28/32 คะแนน 
• การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นเด็ก (Child Occupant Protection: COP) 45.43/51 คะแนน
• เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย (Safety Assist Technologies: SATs) 19.50/21 คะแนน 
• ความปลอดภัยต่อผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ (Motorcyclist Safety: MS) 8/16 คะแนน 

โดย Honda HR-V ยังคงรักษามาตรฐานจากเจเนอเรชั่นก่อนหน้านี้ที่ได้ความปลอดภัยระดับ 5 ดาวด้วยเช่นเดียวกันในปี พ.ศ. 2558

Honda BR-V ได้ 77 เต็ม 100 คะแนน

Honda BR-V เจเนอเรชันที่ 2 ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว ด้วยคะแนนรวม 77.02 เต็ม 100 คะแนน โดยได้รับคะแนนในแต่ละด้าน ทั้ง 4 ด้าน จากคะแนนเต็ม 120 คะแนน ประกอบด้วย 

• การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ (Adult Occupant Protection: AOP)  26.98/32 คะแนน 
• การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นเด็ก (Child Occupant Protection: COP) 44.53/51 คะแนน 
• เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย (Safety Assist Technologies: SATs) 16.50/21 คะแนน และ
• ความปลอดภัยต่อผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ (Motorcyclist Safety: MS) 8.10/16 คะแนน

โดย 2022 Honda BR-V ก็เป็นรถอีกรุ่นของฮอนด้าที่ยังคงมาตรฐานความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วย Honda BR-V รุ่นก่อนหน้าก็ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวเมื่อปี พ.ศ. 2558 เช่นเดียวกัน

มี Honda SENSING เป็นตัวช่วย

เหตุผลสำคัญที่ทำให้ 2022 Honda HR-V และ 2022 Honda BR-V นั้นผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว คือ การติดตั้งระบบความปลอดภัย Honda SENSING มาให้ทุกรุ่นย่อย 

โดยระบบนี้จะทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้าในการตรวจจับสภาพแวดล้อมบนถนน และช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้หลีกเลี่ยงและลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ ประกอบด้วย 6 ฟังก์ชันการทำงานหลัก ได้แก่

• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) 
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) 
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) 
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) 

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยเพิ่มเติมที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่นย่อย ได้แก่ 

• ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) 
• ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) 
• กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) 
• ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Front Passenger and Rear Seat Belt Reminder) 
• ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)

ทั้งสองรุ่นมียอดขายที่น่าพอใจ

หลังจากที่ 2022 Honda HR-V เปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน นั้นมีความนิยมอย่างมากจากตลาด 9 ประเทศในภูมิภาค ด้วยยอดขายกว่า 25,000 คัน (พ.ย. 2564 – 31 ก.ค. 2565) และการเปิดตัว 2022 Honda BR-V เมื่อไม่นานมานี้ มีการส่งออกจากประเทศที่ผลิตอย่างอินโดนีเซียไปยังประเทศในภูมิภาคกว่า 1,500 คันแล้ว

สำหรับการทดสอบการชน 2022 Honda HR-V และ 2022 Honda BR-V จาก ASEAN NCAP นั้นแสดงถึงความปลอดภัยของรถ และยังแสดงถึงความใส่ใจของผู้ผลิตรถยนต์ต่อลูกค้า ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญปัจจัยหนึ่งในการเลือกซื้อรถหนึ่งคันอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม : หัวหน้าทีมพัฒนา 2022 Honda HR-V เฉลย “เอสยูวี” กับ “ครอสโอเวอร์” ต่างกันอย่างไร