Mazda มาสด้า เครื่องยนต์โรตารี Rotary engine

• แนวคิดในการพัฒนารถยนต์รูปแบบใหม่
• แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
• ลุ้นมาสด้ายอมผลิตคันจริงใกล้เคียงนี้

ยังมีคำถามมากมายที่เกิดขึ้นกับหนึ่งในค่ายรถยนต์ชั้นนำของโลกอย่าง Mazda (มาสด้า) ที่แน่นอนว่าจะต้องเดินหน้าเอาตัวรอดในตลาดโลกด้วยการพัฒนารถยนต์ที่เป็นที่ต้องการของตลาด ขณะเดียวกัน บรรดาแฟน ๆ ก็ถามไถ่กันเป็นระยะว่า มาสด้านั้นจะเอาอย่างไรกับตลาดที่โด่งดังแต่มียอดขายจำกัดอย่างรถสปอร์ตขนาดเล็ก

มาสด้านั้นโด่งดังจากการทำตลาดโรดสเตอร์ขนาดเล็กอย่าง Mazda MX-5 (มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5) ที่สร้างทั้งชื่อเสียงและยอดขายไปทั่วโลก ขณะเดียวกัน เครื่องยนต์โรตารี่ของพวกเขาก็เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดในโลกมาหลายยุค แต่คำถามคือ มาสด้าจะผลักดันสิ่งเหล่านี้ ท่ามกลางของการเติบโตของเครื่องยนต์ลูกผสมในตลาดโลกอย่างไร

เอาจริง ๆ มาสด้าเองก็คงคิดเรื่องนี้อยู่มากเหมือนกัน จะเห็นได้จากตัวอย่างสิทธิบัตรที่พวกเขาจดเอาไว้เมื่อเกือบขวบปีที่ผ่านมา และเพิ่งจะหลุดออกมาสู่สาธารณชน จะพบว่ามาสด้านั้นคิดถึงการพัฒนารถยนต์สปอร์ตที่ใช้เครื่องยนต์ลูกผสม ที่สามารถเอาใจกลุ่มลูกค้าที่อยากได้การขับขี่แบบสปอร์ต แต่ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน

อ่านเพิ่มเติม: หากมี 2027 Mazda 9 ขึ้นจริง จะเป็นรถคูเป้ 4 ประตูแข่งยุโรปได้ไหม

เครื่องยนต์โรตารี่ ระบบปลั๊กอินไฮบริดและ AWD

จากภาพสิทธิบัตรที่ออกมาจะพบว่ามาสด้าเลือกใช้ระบบไฟฟ้าเข้ามาติดตั้งกับเครื่องยนต์โรตารี่ของพวกเขา ก่อนที่นำมาติดตั้งให้กับรถรูปทรงสปอร์ต โดยติดตั้งเครื่องยนต์ที่ตำแหน่งด้านหน้าของตัวรถ มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ติดที่ล้อคู่หน้าให้กำลัง 23 แรงม้าและอีกตัวขนาด 36 แรงม้าติดตั้งที่ด้านหลังเครื่องยนต์ ทำให้รถมีความสามารถของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างแรงบิดที่หลากหลายรูปแบบได้ ทำให้เกิดการขับขี่ที่แตกต่างและโดดเด่น

อ่านเพิ่มเติม: Mazda MX-30 EV รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งได้ 209 กม.ที่ควรมาขายไทย

ระบบแบตเตอรี่แบบใหม่เพื่อกำลังการขับขี่สูงสุด

แบตเตอรี่ที่เลือกมาใช้ในรถเป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจน มาสด้านั้นเลือกใช้แบตเตอรี่รูปแบบใหม่ ที่เป็นการนำแบตเตอรี่โมดุลขนาด 48 โวลต์จำนวน 4 ก้อน มาพ่วงต่อกันเป็น 1 แพคเกจ ซึ่งในเวลาที่ขับเคลื่อนปกติ การใช้งานแบตเตอรี่จะเป็นแบบปกติ แต่หากต้องการกำลังสูง ๆ จะมีสวิตช์ไฟฟ้าที่สามารถเลือกจับคู่โมดุลการใช้งานเป็นคู่ เพื่อที่รีดพละกำลังจากแบตเตอรี่เพิ่มเป็น 96 โวลต์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อย และน่าะจะส่งผลดีต่อการขับขี่เมื่อใช้งานจริง

อ่านเพิ่มเติม: ซีอีโอคนใหม่ Mazda ประกาศลั่นกลยุทธ์หลักคือ “รถเอสยูวี – ลดต้นทุน”

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้ขับกันแบบนี้

แน่นอนว่าการจดสิทธิบัตรนั้นอาจจะไม่ได้หมายถึงการที่ค่ายรถยนต์จะต้องนำรถในรูปหรือแนวคิดแบบนี้ออกมาทำตลาดแบบ 100% เพราะบางทีอาจจะเป็นการจดสิทธิบัตรเพื่อกันท่าคนอื่นในเรื่องของเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่คิดค้นขึ้นมาได้ก็เท่านั้น แต่เอาจริง ๆ ก็แอบมีความหวัง เพราะหากค่ายรถรายใหญ่อื่น ๆ ต่างก็มีแผนงานที่จะพัฒนารถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้ากันทั้งสิ้น ก็อาจจะเห็นมาสด้าที่ไม่ได้เดินหน้าเรื่องอีวีเร็วนัก เข็นสิ่งที่ตัวเองเก่งจริงออกมาสู้กับเขาบ้าง

งานนี้เอาใจช่วยค่ายปีกบิน อยากเห็นจริง ๆ สปอร์ตสเปคนี้เลยนะ...