Mazda ยืนยัน MX-5 เจเนอเรชั่นถัดไปจะมาในปี 2026 พร้อมขุมพลัง “ไฟฟ้า”

Mazda (มาสด้า) ยืนยันแล้วว่า MX-5 เจเนอเรชั่นถัดไปจะมาในปี 2026 และจะมี “พลังงานไฟฟ้า” เข้ามาขับเคลื่อน โดยค่ายซูมซูมระบุสั้น ๆ ว่าระดับการขับเคลื่อนไฟฟ้าจะเริ่มตั้งแต่ไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด ไปจนถึงไฟฟ้า 100%

การยืนยันครั้งนี้ไม่ได้มีรายละเอียดมากนัก แต่ Mazda กล่าวเพียงว่าจะมีการร่วมมือกับ Rohm Semiconductor ในการพัฒนามอเตอร์ไฟฟ้า และร่วมมือกับ Envision AESC ในการทำแบตเตอรี่

มีแผนมานาน แต่ยังติดข้อจำกัดบางอย่าง

ย้อนกลับไปในปี 2019 มีรายงานระบุว่า Mazda กำลังพิจารณาให้ Miata ใหม่มีพลังงานไฟฟ้า ในช่วงเวลานั้นยังไม่มีการระบุแน่ชัดว่าจะเป็นไฟฟ้าล้วนหรือเป็นเพียงไฮบริด แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาอาจจะเริ่มที่ไฮบริดก่อนไปไฟฟ้าเต็มตัว ซึ่งเป็นไปได้ทั้งไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด

หัวหน้าฝ่ายสร้างแบรนด์และ R&D ของ Mazda ในขณะนั้นระบุว่ารถยนต์และแบรนด์จำเป็นต้องเปลี่ยนไปในทิศทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น แต่เป้าหมายหลักของ MX-5 คือน้ำหนักที่เบา ซึ่งท้าทายด้วยน้ำหนักแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า

ตั้งแต่รายงานในตอนนั้น Mazda เคยบอกว่า MX-5 จะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้มีคำยืนยันแล้วว่าจะเป็นรถของปี 2026 จึงหมายความว่าจะมีการเปิดตัวรถคันนี้ตั้งแต่กลางปี 2025  

เราทราบกันดีว่า MX-5 หรือ Miata เป็นรถที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ สำหรับ MX-5 รุ่นล่าสุดปี 2023 นั้นมีน้ำหนักเพียง 1,088 กก. เท่านั้น เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าเซกเมนต์เดียวกันอย่าง Tesla Roadster รุ่นแรกที่กล่าวกันว่ามีน้ำหนักเบาแล้ว ยังมีน้ำหนักตัวที่ 1,270 กก.

นอกจากนี้ Miata ยังเป็นรถที่มีราคาเข้าถึงได้ง่าย โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 1 ล้านบาทต้น ๆ เท่านั้น (ราว 3 หมื่นดอลล่าร์) เมื่อเทียบกับรถไฟฟ้าที่กล่าวไว้ข้างต้น รถคันนั้นมีราคาถึง 6 หลักในหน่วยดอลล่าร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว

ดังนั้น จึงเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับโจทย์นี้ โดยเฉพาะเมื่อแบตเตอรี่ EV กำลังพัฒนาให้พลังงานมีความหนาแน่นยิ่งขึ้น ทำให้เราสามารถวิ่งได้ไกลขึ้นโดยใช้พื้นที่และน้ำหนักแบตเตอรี่ลดลง ทำให้ MX-5 ไฟฟ้าดูเป็นไปได้มากขึ้น

อ่านเพิ่มเติม: Mazda ยืนยัน MX-5 โฉมใหม่จะใช้สูตรเดิมคือต้องขับสนุก, น้ำหนักเบา และอาจมีไฟฟ้าในอนาคต

ค่ายญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องเปลี่ยนถ่ายไปไฟฟ้าช้าอยู่แล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในเรื่องของการเปลี่ยนถ่ายเป็นไฟฟ้านั้น ค่ายซูมซูมยังมีความเชื่องช้าอยู่ จึงมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นรถไฮบริดก่อนไฟฟ้าล้วน

โดย Mazda ถือเป็นหนึ่งในค่ายรถที่นำเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ได้ช้าที่สุดค่ายหนึ่ง แต่ก็ถือว่าไม่ต่างกับค่ายญี่ปุ่นอื่น ๆ มากมายนัก สำหรับรถ EV รุ่นแรกของค่ายอย่าง MX-30 ไม่ได้การตอบรับที่ดีนัก โดยในสหรัฐฯ มียอดขายตอนเปิดตัวเพียง 505 คันเท่านั้น

มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้ยอดขายของ MX-30 ไม่เป็นที่น่าพอใจนัก ด้วยเหตุที่ตัวรถถูกออกแบบมาให้เป็นรถปลั๊กอินไฮบริดหรือ PHEV ส่วนเวอร์ชั่นไฟฟ้าล้วน BEV ถูกทำเพื่อสอดคล้องกับนโยบายของรัฐแคลิฟอร์เนียเท่านั้น MX-30 เวอร์ชั่น PHEV ดูเหมือนว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีกว่าเวอร์ชั่นไฟฟ้าล้วนอยู่ไม่น้อย

อ่านเพิ่มเติม: รู้หรือไม่ Mazda MX-5 เคยทำตัวถังสีส้ม เพื่อฉลองการกลับมาคืนชีพอีกครั้ง

Mazda ตั้งใจจะขายรถไฟฟ้าอยู่แล้ว

Mazda เคลมว่าต้องการขายเพียงรถ EV และไฮบริดภายในปี 2030 และเมื่อเร็ว ๆ นี้ มาสด้ากำลังกลับมายังแผนพัฒนา EV ของตัวเองโดยการเปิดตัว Vision study Concept รถต้นแบบเปิดประทุน 2 ประตูที่อาจจะเป็น MX-5 รุ่นต่อไป

รายละเอียดของรถต้นแบบดังกล่าวยังไม่มีอะไรมากนัก แต่เมื่อมองจากภายนอกนั้นก็ดูคล้าย MX-5 ไม่น้อย และรถคันนี้ก็เปิดตัวควบคู่กับการอภิปรายเกี่ยวกับแผนพัฒนา EV ของ Mazda ดังนั้น Vision study Concept ก็อาจเป็น MX-5 ที่มีพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง

MX-5 ดูจะเป็นไปได้กับไฮบริดหรือ PHEV มากกว่า

สำหรับระบบไฮบริดไปจนถึงปลั๊กอินไฮบริดนั้นซับซ้อนกว่า BEV มาก เนื่องจากมีระบบขับเคลื่อนถึงสองรูปแบบภายในรถคันเดียว อย่างไรก็ตาม การลดขนาดแบตเตอรี่อาจช่วยลดน้ำหนักรวมของตัวรถได้ และตัวรถยังคงได้รับประโยชน์จากการนำระบบไฟฟ้าเข้ามาขับเคลื่อน

ตัวอย่างเช่น การขับขี่บางช่วงอาจปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ในกรณีของ PHEV ในโหมด EV หรือมีการเร่งความเร็วที่ทันใจยิ่งขึ้นจากมอเตอร์ไฟฟ้า

สิ่งที่เราสนใจคือต้องมาลุ้นกันว่า Mazda MX-5 หรือ Miata รุ่นต่อไป จะมาพร้อมขุมพลังแบบไหน และจะยังคงเอกลักษณ์ของสปอร์ตน้ำหนักเบาไว้ได้หรือไม่

อ่านเพิ่มเติม: Mazda MX-5 EV จะเป็นไปได้จริงไหม ต้องดูภาพทีเซอร์นี้ ที่มีแผนขาย EV ทั่วโลกในปี 2030