Toyota GR Corolla รถไฮโดรเจนคันแรกในโลกจบการแข่งขัน 24 ชม.

Toyota GR Corolla (โตโยต้า จีอาร์ โคโรลล่า) เวอร์ชั่นดัดแปลงใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนกลายเป็นรถรุ่นแรกในโลกที่จบการแข่งขันเอ็นดูแรนซ์ 24 hours of Fuji ที่จัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น

ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นพัฒนารถแข่ง Corolla พลังไฮโดรเจนออกแข่งขันตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา แต่ในปีนี้ พวกเขาเปลี่ยนจากการใช้เชื้อเพลิงก๊าซไฮโดรเจนไปเป็นไฮโดรเจนเหลวซึ่งมีคุณสมบัติเด่นตรงที่ความหนาแน่นของพลังงานสูงกว่า ทำให้ขับขี่ได้ไกลกว่า  และยังมอบอัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจกว่าด้วย

ขณะเดียวกัน การเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเหลวยังง่ายกว่าด้วย ทำให้การบริหารจัดการพื้นที่พิทเลนในสนามแข่งมีประสิทธิภาพมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ รถแข่ง GR Corolla เกิดไฟไหม้ที่สนามซูซูกะระหว่างการฝึกซ้อมทดสอบสมรรถนะ ถึงแม้จะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่ตัวรถก็ได้รับความเสียหายทั้งคันจนไม่สามารถลงทะเบียนร่วมแข่งขันเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้

ปรับปรุงรถแข่งใหม่

ล่าสุด รถแข่ง GR Corolla สามารถจบการแข่งขันได้สำเร็จ รายงานข่าวระบุว่ามีการปรับปรุงห้องเครื่องยนต์ของรถใหม่ใหม่ ท่อทางเดินไฮโดรเจนถูกปรับตำแหน่งให้ห่างจากจุดความร้อน พร้อมกับเสริมความแข็งแรงของข้อต่อ และมีการติดตั้งแผงป้องกันความร้อนกั้นไว้ด้วย

นอกจากนี้ ทีมแข่งของ Toyota ยังทำการปรับลดน้ำหนักตัวรถลงอีกด้วยทำให้ตัวเลขรวมเบาลงอีก 50 กก.

รถแข่ง GR Corolla พลังไฮโดรเจนคันนี้ยังคงใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ เทอร์โบชาร์จ ขนาด 1.6 ลิตร สามารถทำเวลาต่อรอบได้ดีที่สุด 2.02:706 นาที ช้ากว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นใช้ก๊าซไฮโดรเจนซึ่งทำได้ 1.59:876 นาที

สำหรับนักแข่งที่เข้าร่วมครั้งนี้ประกอบด้วยอากิโอะ "Morizo" โตโยดะ ประธานใหญ่ Toyota ฮิโรอากิ อิชิยูระ นักแข่งรถ Super GT ยาสุฮิระ โอกุระ ประธานกรรมการ บริษัทผู้ผลิตคลัตช์ Ogura มาซาฮิโระ ซาซากิ นักแข่งรถ และยารี-แมตตี ลัตวารา อดีตนักแข่งรถแรลลี่ WRC ทั้งหมดสามารถขับรถหมายเลข 32 ได้ทั้งหมด 358 รอบ

อีกหนึ่งประโยชน์ของการใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนเหลวคือการลดจำนวนการเข้าเติมเชื้อเพลิงจาก 41 ครั้งในปีที่แล้วเหลือเพียง 25 ครั้งในปีนี้

GR Corolla พลังไฮโดรเจนจบการแข่งขันที่ 47 จากทั้งหมด 52 คัน และจบที่ 6 ในคลาส ST-Q ซึ่งเป็นรถแข่งแนวทดลอง โดยผู้ชนะเลิศในคลาสนี้คือ Nissan Z Racing Concept ซึ่งใช้เชื้อเพลิงที่เรียกว่า carbon neutral fuel (CNF) ภายใต้การจัดการของ Nismo