แม้ว่าจะยังเร็วเกินไปที่จะทำนายอนาคตยอดจำหน่ายรถยนต์ตลอดทั้งปี 2566 ว่ารถรุ่นใดจะเป็นผู้นำในตลาดโลกได้สำเร็จ แต่จากการรายงานตัวเลขยอดขายรวมของ JATO ที่รวบรวมยอดจำหน่ายรถยนต์จาก 53 ตลาดหลักทั่วโลก ที่พบว่า Tesla Model Y (เทสล่า โมเดล วาย) ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์โลกในช่วงไตรมาสแรกก็ถือเป็นตัวเลขที่มีความสำคัญไม่น้อย
เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการเก็บข้อมูลของพวกเขา ที่รถยนต์ไฟฟ้า 100% ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำไตรมาสได้เป็นครั้งแรกเหนือตลาดรถยนต์ที่ใช้งานเครื่องยนต์อยู่ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่ทำนายความสำเร็จของรถคันนี้เอาไว้ก่อนหน้านี้ ว่าโมเดล วาย จะเป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลกในปีนี้
ย้อนไปในเดือนสิงหาคม 2565 อีลอน มัสก์ได้ประกาศในช่วงของการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีว่า รถยนต์รุ่นนี้จะเป็นรถที่ขายดีที่สุดในปี 2566 อย่างแน่นอน ท่ามกลางการตั้งคำถามของผู้ที่เกี่ยวข้องหลายคน โดยเฉพาะในเรื่องของราคา แต่เมื่อเทสล่าทำการปรับราคารถรุ่นนี้ลงมาก็ทำให้ยอดจำหน่ายของโมเดล วาย นั้น เติบโตเป็นกอบเป็นกำเหนือกว่ารถรุ่นอื่น ๆ
ถือเป็นสถานการณ์ที่น่าจับตาไม่น้อยในอุตสาหกรรมยานยนต์โลกปีนี้
ในท็อป 10 ยอดขายรถยนต์ในปีที่ผ่านมา เทสล่าเข้ามาได้ 2 รุ่น แต่รุ่นท็อปอย่างโมเดล วาย นั้นเข้ามาได้ดีที่สุดที่อันดับ 3 โดยมียอดจำหน่ายใน 152 ตลาดไปรวมกันทั้งสิ้น 747,500 คัน ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 91% จากปีก่อนหน้า และเป็นการพ่ายแพ้ต่อรถที่ขายดีที่สุดของ Toyota (โตโยต้า) อย่าง Toyota RAV4 (โตโยต้า ราฟ4) และ Toyota Corolla Sedan (โตโยต้า โคโรลล่า) เท่านั้น โดยแพ้ด้วยช่องห่าง 268,000 คันและ 244,000 คันตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม หลังการปรับแผน โดยเฉพาะเรื่องของราคาจำหน่ายช่วงปลายปี เทสล่ามียอดขายโมเดล วาย ในไตรมาสแรกของปีนี้ที่ 267,200 คัน เติบโต 69% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน โดยมีตลาดที่แข็งแกร่งอย่างจีน สหรัฐอเมริกาและยุโรปเป็นฐานหลัก ที่น่าสนใจก็คือท็อป 5 ที่เหลือล้วนแล้วแต่เป็นโตโยต้าทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นโคโรลล่า (256,400 คัน) Toyota Hilux (โตโยต้า ไฮลักซ์ 214,700 คัน) ราฟ4 (211,000 คัน) และ Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี่ 166,200 คัน) ตามลำดับ
แม้จะเป็นแค่ไตรมาสแรกเท่านั้น แต่หากไปดูในรายละเอียดของยอดขายแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่โตโยต้าต้องกลับไปทำการบ้านเหมือนกัน โดยเฉพาะในส่วนของโคโรลล่า ที่เป็นเจ้าของสถิติยอดขายดีที่สุดในโลกติดต่อกันมาหลายปี ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ พวกเขามียอดขายที่ลดลงไปจากเดิม โดยเฉพาะในตลาดจีนที่มียอดจำหน่ายหายไป 29% และในสหรัฐอเมริกาที่หายไป 10% ขณะที่ราฟโฟร์นั้นก็มียอดจำหน่ายในจีนที่ลดลงเช่นเดียวกัน ทำให้ต้องติดตามกันต่อไปตลอดทั้งปี
หรือปีนี้โตโยต้าจะเสียแชมป์รุ่นที่ขายดีที่สุดในโลกให้รถยนต์ไฟฟ้าจริง ๆ นะ...
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}