Toyota (โตโยต้า) ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์โลกในปี 2565 เมื่อรายงานล่าสุดของ JATO Dynamics เปิดเผยตัวเลขยอดจำหน่ายและรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลกในปีที่ผ่านมา และพบว่าพวกเขาสามารถพารถยนต์เข้ามาในท็อป 10 ได้มากถึง 5 รุ่น โดยรุ่นที่ขายดีที่สุดได้แก่ Toyota RAV4 (โตโยต้า ราฟ4) ที่ไม่มีขายในประเทศไทย และเป็นรุ่นเดียวในโลกที่มียอดขายทะลุ 1 ล้านคัน
Tesla (เทสล่า) เป็นค่ายรถอีกค่ายที่สามารถพารถเข้ามาในลิสต์นี้ได้เกิน 1 รุ่น พร้อมทั้งยังคว้าตำแหน่งค่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในโลกไปครอง ขณะที่ค่ายรถยนต์จากประเทศจีนอย่าง BYD (บีวายดี) คือค่ายรถยนต์ที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก เมื่อรับจากยอดขายและส่วนแบ่งตลาดที่เติบโตเหนือกว่าใครในตลาดโลก พร้อมทั้งการเป็นผู้นำอันดับ 2 ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
จาโต้ได้เปิดเผยยอดจำหน่ายรถยนต์ทั่วโลกในปีที่ผ่านมา พบว่ามียอดจำหน่ายรวมไปทั้งสิ้น 79.4 ล้านคัน ซึ่งหดตัวลงเล็กน้อยประมาณ 2% อย่างไรก็ตาม พบว่ายอดจำหน่ายรถยนต์นั้นเติบโตขึ้นในหลายประเทศ อาทิ อินเดีย ตะวันออกกลาง อาเซียนและแอฟริกา ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดโลกประมาณ 24% และสามารถชดเชยการหดตัวในตลาดหลักอย่างอเมริกาเหนือ ยุโรปและจีนได้
แม้โตโยต้า ราฟ4 จะเป็นรถเพียงรุ่นเดียวที่ทำยอดขายได้เกิน 1 ล้านคัน (1.016 ล้านคัน) แต่ยอดจำหน่ายในภาพรวมก็หดตัวลงไปประมาณ 10% คล้าย ๆ กับ Toyota Corolla Sedan (โตโยต้า โคโรลล่า) (9.92 แสนคัน) ที่หดตัวลงไปใกล้เคียงกัน ขณะที่ Tesla Model Y (เทสล่า โมเดล วาย) (7.47 แสนคัน) กลับมายอดเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 91% นอกจากนี้ ในลิสต์ท็อป 10 ยังประกอบไปด้วย Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) (7.33 แสนคัน -18%) Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี่) (6.73 แสนคัน -1%) Toyota Hilux (โตโยต้า ไฮลักซ์) (6.32 แสนคัน +13%) Nissan Sentra (นิสสัน เซนทรา) (5.66 แสนคัน -18%) Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) (5.30 แสนคัน +221%) Ford F-150 (ฟอร์ด เอฟ-150) (5.25 แสนคัน -5%) และ Tesla Model 3 (เทสล่า โมเดล3) (4.82 แสนคัน -3%) ตามลำดับ
โตโยต้ายังเป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลกต่อไปอีกปี โดยพวกเขามีส่วนแบ่งตลาดโลกเพิ่มขึ้น 0.3% จากผลงานอันยอดเยี่ยมในตลาดจีน ซึ่งกลายเป็นตลาดใหญ่สุดแทนที่สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นไปแล้ว โดยรถยนต์ 13 คันจากทุก 100 คันในตลาดโลกจะมาพร้อมแบรนด์โตโยต้า อีกทั้งพวกเขายังขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดเอสยูวีทั่วโลกในปีที่ผ่านมา ด้วยการเอาชนะเจ้าตลาดเดิมอย่าง Volkswagen (โฟล์กสวาเกน) ซึ่งแม้จะรักษาอันดับ 2 อย่างเหนียวแน่น แต่ก็หดตัวไป 0.7% ขณะที่พันธมิตร Hyundai-Kia (ฮุนได-เกีย) กลุ่ม Stellantis (สเตลแลนติส) และ General Motors (เจนเนอรัล มอเตอร์ส) ตามมาในอันดับที่ 3-5
บีวายดีคือผู้ชนะในตลาดโลกหากดูจากส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นมากสุด ด้วยยอดขาย 9.11 แสนคัน หรือการเติบโต 184% ทำให้พวกเขาเพิ่มส่วนแบ่งตลาดไปอยู่ที่ 2.42% หรือมีการเปลี่ยนแปลงที่ 1.533% ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวที่มีการเปลี่ยนแปลงมากกว่า 1% ตามมาด้วยเทสล่าที่เพิ่ม 0.506% Chery (เฌอรี่) ที่เพิ่ม 0.470% โตโยต้า 0.351% และ Suzuki (ซูซูกิ) ที่เพิ่มมา 0.313% ขณะที่ฟากผู้เสียแชร์ในปีล่าสุด นำมาโดย Nissan (นิสสัน) ที่ส่วนแบ่งตลาดหายไป 0.811% โฟล์กสวาเกนหายไป 0.781% Honda (ฮอนด้า) ลดลงไป 0.729% กลุ่มสเตลแลนติส 0.644% และ BIAC จากประเทศจีนหายไป 0.243%
ถือเป็นสถิติที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับตลาดรถยนต์โลกในปีที่ผ่านมา...
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}