หลังจากที่ Toyota (โตโยต้า) ได้เปิดตัว 2023 Toyota Yaris Cross (โตโยต้า ยาริส ครอส) ในประเทศอินโดนีเซียเป็นที่แรกของโลกไปก่อนหน้านี้ พวกเขาได้ทำการบุกตลาดโลกต่ออย่างต่อเนื่องทันที ด้วยการประกาศการส่งออกรถยนต์รุ่นดังกล่าวไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งเวอร์ชั่นเครื่องยนต์ธรรมดาและเครื่องยนต์ไฮบริด
ยาริส ครอส ไม่ได้เป็นเพียงสินค้าที่มีความสำคัญต่อการเติบโตของตลาดรถยนต์เครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้าของโตโยต้าเท่านั้น แต่ยังมีความจำเป็นต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของอินโดนีเซีย ในฐานะฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังตลาดเอเชียและลาตินอเมริกา ซึ่งจะได้เริ่มการส่งออกกันอย่างเป็นทางการในปีนี้
ด้วยเม็ดเงินที่โตโยต้าลงทุนไปกว่า 2.5 พันล้านรูเปียร์ (ประมาณ 5.8 พันล้านบาท) เพื่อเปิดไลน์การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นที่ 2 ที่ทำการผลิตในอินโดนีเซียเพื่อตลาดในประเทศและส่งออก ต่อเนื่องมาจาก Toyota Kijang Innova Zenix (โตโยต้า กิจัง อินโนว่า เซนิกซ์) แต่คันนี้นั้นดูจะเป็นการพัฒนาสำหรับตลาดโลกมากกว่ารุ่นแรก
ความสำคัญของโตโยต้า ยาริส ครอสนั้น เป็นอย่างไร มาติดตามกัน...
ไม่ง่ายนักที่รถยนต์ 1 คันจะทำการประกอบชิ้นส่วนหลักที่มีความสำคัญเกือบทั้งหมดในประเทศ แต่โตโยต้าทำได้แล้วกับยาริส ครอส ด้วยการประกอบแบตเตอรี่ที่โรงงานแห่งที่ 2 พร้อมการประกอบเครื่องยนต์ของรถคันนี้ที่โรงงานแห่งที่ 3 ซึ่งทำให้โตโยต้าต้องเร่งมือในการหาผู้ผลิตชิ้นส่วนท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้นจากเดิม โดยมีการระบุว่ามีผู้ผลิตชิ้นส่วนหน้าใหม่ 12 จาก 116 รายเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ และทำให้สัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศอินโดนีเซียของรถรุ่นนี้สูงถึง 80%
การส่งออกยาริส ครอส ในฐานะฐานการผลิตแห่งแรกของโลก ทำให้อินโดนีเซียสามารถขยายตลาดส่งออกสำหรับรถรุ่นนี้ได้ก่อนใคร โดยพวกเขาตั้งเป้าหมายที่จะส่งออกรถรุ่นดังกล่าวทั้งเครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดจำนวนกว่า 2.2 หมื่นคัน และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการส่งออกเป็น 4 หมื่นคันในปี 2568 ซึ่งะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายตลาดส่งออกเพิ่มอีก 5% เป็น 3.16 แสนคันในปีนี้ ควบคู่ไปกับการขยายตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะในแอฟริกาที่มีการเติบโตของอุตสาหกรรมค่อนข้างสูง
ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า Toyota Yaris Cross จะเข้ามาเปิดตัวทำตลาดในประเทศไทยหรือไม่ และจะเข้ามาในฐานะรถที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน หรือจะเป็นการเข้ามาเปิดสายการผลิตในประเทศไทย แต่หากประเมินจากขนาดของตลาดที่ไม่ใหญ่มากนัก และเป็นตลาดใหม่ที่อาจจะไม่สามารถสร้างยอดขายจำนวนมากได้ในระยะเวลาอันสั้น การนำเข้าจำนวนไม่มากจากอินโดนีเซีย ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงแรกของการทดลองตลาด และน่าจะทำได้เร็วกว่าการผลิตเองอีกด้วย
แว่วว่ามีรถใหม่จะเปิดตัวอีกเพียบ ยังไงก็ต้องมีไหลมาผลิตเมืองไทยกันสักรุ่นล่ะ...
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}