Toyota Hilux Vigo มือสองเมืองไทยทำไมยังน่าใช้ วิ่งกันให้เต็มเมือง

Toyota Hilux Vigo (โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้) รถกระบะแห่งยุค ที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อต้องการเลือกซื้อรถกระบะ

Hilux Vigo มือสองในปัจจุบันก็ยังคงกระแสนิยมในตลาดรถมือสองได้เป็นอย่างดี ซึ่งวันนี้  AutoFun ได้รวบรวมข้อดี-ข้อเสีย, ราคา และรุ่นที่น่าซื้อ

รวมถึงปัญหาที่ผู้ใช้ ไฮลักซ์ วีโก้ส่วนใหญ่พบเจอมาให้พิจารณาก่อนการซื้อกัน

ข้อดีของ Toyota hilux Vigo 

1. เครื่องยนต์ทนทาน อัตราเร่งดี 

นี่คือหนึ่งในสาเหตุหลักของผู้ที่เลือกไฮลักซ์ วีโก้มือสอง เนื่องจากตัวเครื่องยนต์ไม่มีปัญหาจุกจิก ทนทานมากหากดูแลรักษาตามระยะ อีกทั้งอัตราเร่งแซงหน้าค่ายอื่นได้อย่างมั่นใจ เหยียบคันเร่งทีไรหลังติดเบาะแน่นอน 

มีเครื่องยนต์ให้เลือกมากมายคือ เครื่องยนต์ ดีเซล 4 ชนิด และ เบนซิน 1 ชนิด และเครื่อง 2.5 VN Turbo

2. ประหยัดน้ำมัน 

Vigo ยังขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดเชื้อเพลิงมากที่สุด โดยเฉพาะรุ่น Hilux Vigo Prerunner Smartcab 2.5 VN TURBO ที่ผู้ใช้บอกว่าทำได้ 15-16 กิโลเมตร/ลิตร

ขึ้นอยู่กับการบรรทุก และะการขับขี่ส่วนบุคคลด้วย แต่ก็ถือว่าทำได้ดีสำหรับในระดับเดียวกัน

3. ขายต่อได้ราคา

โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ยังเป็นรถที่ได้รับความนิยมมากในตลาดมือสองจนถึงปัจจุบัน มีหลายรุ่นแม้จะมีรุ่นใหม่ ๆ ออกมา แต่ด้วยความเป็น Toyota (โตโยต้า) จึงยังทำให้ขายต่อได้ราคาดี

ซึ่งก็จะขายกันอยู่ที่ตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท

4. อะไหล่หาง่าย

ด้วยความที่เป็นแบรนด์ที่ทำตลาดในไทยมาถึง 50 ปี เรื่องอะไหล่ยังมีสำรองทั้งใหม่แกะกล่องและเชียงกงมีให้เลือกทุกแบบ 

นอกจากนี้ยังสามารถหาได้ตามกลุ่มในโซเชี่ยลมีเดียก็ยังมีให้เลือกเยอะ

5. อู่นอกซ่อมได้

Hilux Vigo ถือว่าเป็นรถกระบะที่อู่ทั่วไป โดยเฉพาะในต่างจังหวัด สามารถซ่อมและแต่งได้ง่าย เพราะส่วนมากกลุ่มลูกค้ามักจะเป็นกลุ่มที่ใช้เพื่อการพาณิชย์ ไม่นิยมเข้าศูนย์ 

ข้อเสียของ Toyota Hilux Vigo 

1. ช่วงล่างแข็ง

แม้ว่ารุ่นหลัง ๆ จะปรับปรุงมาแล้ว แต่ผู้ใช้หลายท่านยังคงบ่นว่าช่วงล่างของ Hilux Vigo ค่อนข้างกระด้าง และไม่ค่อยเกาะถนนเเมื่อเทียบกับรถกระบะค่ายอื่น เนื่องด้วยความสูง ที่ขับเร็วแล้วลมจะเข้าใต้ช่องท้อง แต่ก็สามารถเปลี่ยนโช้คได้

2. ท้ายปัดเวลาเข้าโค้ง

หรือ Oversteer ที่เรียกกัน โดยเฉพาะรุ่น VIGO Champ จะมีอาการส่ายที่ความเร็วสูง และท้ายปัดเมื่อเข้าโค้ง แต่ถ้าขับด้วยความเร็วปกติ 80-110 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะไม่มีอาการ

โดยเฉพาะเวลาฝนตก ถนนเปียก ช่วงท้ายจะสะบัดและเกาะถนนไม่ดี อาการนี้สามารถแก้ไขได้โดย

• เปลี่ยนโช๊คอัพ 4 ตัวหน้าหลังและเสริมเหล็กกันโคลง
• เปลี่ยนยางให้เหมาะสมกับการใช้งาน และตรวจดูความดันลมยางไม่ให้มากจนเกินไป
•  ใส่เหล็กกันโคลงเพิ่ม จะช่วยลดอาการท้ายปัดให้น้อยลงได้

3. ผ้าเบรกหน้าหมดเร็ว

สำหรับประเด็นนี้ ค่อนข้างจะบอกต่อกันมา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่ของแต่ละคน เพราะรถมีอัตราเร่งดี อาจเพลินจึงต้องเบรกกันบ่อย ผ้าเบรกก็หมดเร็ว 

อีกทั้งเบรคหลังยังใช้เป็นดรัมเบรคที่มีประสิทธิภาพค่อนข้างด้อยกว่า

ราคาในปัจจุบัน

สำหรับ โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ มือสอง ที่นิยมจะมีตั้งแต่ปี 2004 – 2015 ส่วนหลังจากปี 2015 – ปัจจุบัน จะเป็นเจเนอเรชั่นที่ 8 ในชื่อ Toyota Hilux Revo

ซึ่งราคาจะอยู่ที่เริ่มต้นตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์

สรุป ยังไปได้อีกไกล

Toyota Hilux Vigo ถือเป็นรถกระบะที่น่าเลือกซื้อมือสองสำหรับใช้งานทั่วไป เครื่องยนต์อัตราเร่งดี แม้บรรทุกหนัก ไม่มีปัญหาจุกจิก อะไหล่หาง่าย

หากต้องการปล่อยขายต่อก็มั่นใจได้ว่ามีผู้รับซื้อแน่นอน ส่วนเรื่องปัญหา “ท้ายปัด” ในรุ่นก่อน Hilux Vigo CHAMP ก็สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ ซึ่งหากไม่ใช่ “ขาซิ่ง” และขับรถด้วยความระมัดระวังอยู่ตลอด ย่อมไม่เป็นปัญหาแน่นอนครับ