2022 Toyota Veloz ปะทะคู่แข่ง XL7, Xpander และ BR-V เทียบราคาสูสี บางอย่างก็ซื้อเพิ่มไม่ได้

วงการ Mini MPV ในปีนี้จะต้องลุกเป็นไฟ เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบ 18 ที่โตโยต้าโมเดลเชนจ์รถใหม่หมด ทิ้งชื่ออะวันซ่าเดิม ทิ้งพื้นฐานรถระบบเดิม เริ่มพัฒนาใหม่หมด พร้อมกลับมายืนหนึ่งในกลุ่มนี้

แต่จะทำสำเร็จหรือไม่ ในเมื่อมีคู่แข่งที่อยู่มาก่อน และมีความคุ้มค่าไม่น้อยอย่าง Suzuki XL7 ตัวท็อปสุดของ Ertiga หรือหันไปอีกทางก็เจอ 2022 Mitsubishi Xpander (มิตซูบิชิ เอกซ์แพนดอร์) ที่เพิ่งไมเนอร์เชนจ์มาใหม่ และยังมี Honda BR-V (ฮอนด้า บีอาร์วี) ที่มีจุดเด่นเรียกแขกได้อยู่ แล้วงานนี้เวลอซจะยืนอยู่ตรงจุดไหน เรามาดูเทียบกัน

เทียบราคา

ราคา 2022 Toyota Veloz นั้น จะมาด้วยกัน 2 รุ่น คือ Smart และ Premium เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว พบว่าเวลอซวางราคาอยู่ในกลุ่มกึ่งกลาง รุ่นเริ่มต้นก็แพงกว่า Ertiga อยู่ 34,000 บาท ส่วนรุ่นท็อปก็ถูกกว่า Xpander อยู่ 20,000 บาท ตามตารางราคาที่เรียงจากน้อยไปมากดังนี้

เทียบมิติตัวถัง Xpander ใหญ่สุด

Mitsubishi Xpander ยังโดดเด่นเรื่องขนาดตัวถังใหญ่โต ที่ทำให้ห้องโดยสารนั่งสบาย ซึ่งในรุ่นไมเนอร์เชนจ์นี้ ได้เปลี่ยนโช้คและสปริงขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มความสูงเป็น 220 มม.มากกว่าใคร

ส่วน Toyota Veloz ผู้มาใหม่ ก็ทำได้สูสี ต่างกันแค่ความสูงเท่านั้น ถ้าหากใครไม่เน้นลุยน้ำลึก ก็นับว่าเหลือเฟือต่อน้ำขังในกรุงเทพแล้ว

อ่านเพิ่มเติม : เทียบสเปคความสูงใต้ท้องรถ SUV, MPV ทุกรุ่นที่ขายไทยในปี 2021 มีบางตัวลุยได้มากกว่าใคร

เทียบเครื่องยนต์ BR-V ยังนำโด่ง

Toyota Veloz น้องใหม่ ยังแพ้ Honda BR-V ด้านสเปคเครื่อง แม้ว่าจะใช้แบบเบนซิน 1.5 ลิตรเท่ากัน แลกมาด้วยอัตราการกินน้ำมันเฉลี่ยดีที่สุดในกลุ่ม อ้างอิงจากผล Eco Sticker ตามตารางดังนี้

เทียบความปลอดภัย และออพชั่น

ในขณะที่ Honda BR-V Suzuki XL7 ยังมีแค่ ABS ESC VSA VSC ถุงลมนิรภัยด้านหน้าคนขับ และถุงลมนิรภัยด้านหน้าคนนั่ง แต่ทางด้าน Toyota Veloz จัดเต็มด้วยเพิ่ม เตือนมุมอับข้าง มีการเตือนรถตัดด้านหลัง และให้ถุงลม 6 ใบ ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น Veloz Smart เป็นมาตรฐาน

ออพชั่นความสะดวกสะบายในรุ่น Smart ที่เป็นรุ่นเริ่มต้นของโตโยต้า เวลอซ ประกอบด้วยสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้

• ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

• ไฟหน้า-ท้าย LED พร้อมไฟเลี้ยว Sequential

• ไฟหน้าอัตโนมัติ Follow Me home และ Leaving Home

• กระจังหน้าสีดำเงา ตกแต่งไฟตัดหมอกโครเมียม

• เสาอากาศครีบฉลาม

• กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว

• ราวหลังคา, สปอยเลอร์หลัง

• เบาะนั่งแบบผ้า สีเทา-ดำในแถว 1-2

• กระจกคนขับไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบ

• มาตรวัดขนาด 7 นิ้วแบบเรืองแสง

• หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว

• Smart Entry และ Push Start

• เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold

• ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth, Apple CarPlay, Android Auto

• ลำโพง 6 ตัว

• Wireless Charger

• กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า เก็บอัตโนมัติ

• ไฟตัดหมอกหน้า

• กล้องมองหลัง

• เซนเซอร์หลัง

• สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกระทันหัน

• เซนทรัลล็อคพร้อม Speed Auto Lock

• ABS, EBD, BA, VSC, TRC

• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน

• Blind Spot Monitor

• Rear Cross Traffic Alert

• ถุงลม 6 ใบ

• จุดยึด ISOFIX

รุ่นท็อปสุด Toyota Veloz Premium มีออพชั่นแบบเดียวกับรุ่นเริ่มต้นทั้งหมดที่กล่าวมา และมีบางชิ้นส่วนอัพเกรดใหม่ หรือใส่เพิ่มเติมอีกหลายสิ่งเข้ามาดังนี้

• ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

• กระจกมองข้างเพิ่มไฟส่องพื้น Foot Lamp

• หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว

• พวงมาลัยพร้อมปุ่มควบคุมกล้องมองรอบคัน

• กล้องมองรอบคัน

• ระบบความปลอดภัยก่อนการชน

• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ

• ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลนพร้อมดึงกลับ

• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว

• ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดวิธี

• ชุดแต่งที่ไฟตัดหมอกหน้า, ข้างประตู และสปอยเลอร์หลัง

2022 Toyota Veloz ดูเหมือนจะเพียบพร้อมทุกอย่างในราคานี้แล้ว ยังแต่ยังสู้ Mitsubishi Xpander ไม่ได้ตรงที่ความสูงใต้ท้องรถ ครูสคอนโทรล และระบบช่วงล่างใหม่ ซึ่งของแบบนี้มีเงินก็ซื้อเพิ่มไม่ได้ ดังนั้นจึงควรพิจารณาการใช้งานประจำให้ดี ที่เหลือก็จะเป็นการลองขับล้วนๆ เพื่อดูว่าความนุ่มหนึ่บของแต่ละคัน จะถูกใจแต่ละคนแค่ไหน

อ่านเพิ่มเติม : 2022 Toyota Veloz คว้าความปลอดภัย 5 ดาว แม้ยังไม่ได้ส่งรุ่นท็อปไปทดสอบ