เทียบตัวท็อป 2022 Honda BR-V ปะทะ 2022 Toyota Veloz ราคาต่างกัน 1 แสนบาท

ตลาดรถอเนกประสงค์ขนาดเล็กกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อ 2022 Honda BR-V (2022 ฮอนด้า บีอาร์-วี) เจนเนอเรชั่นใหม่เปิดตัวออกมาชนจังเบอร์กับ 2022 Toyota Veloz (2022 โตโยต้า เวลอซ)

All-New Honda BR-V ใหม่ได้รับการเผยโฉมพร้อมสเปกอย่างเป็นทางการ แต่ยังไม่มีการประกาศราคาจำหน่าย บริษัทฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ระบุเพียงค่าตัวประมาณการซึ่งมี 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น E ไม่เกิน 930,000 บาท และรุ่น EL ไม่เกิน 980,000 บาท

ราคาดังกล่าวถือว่าสูงพอสมควรเมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรงอย่าง All-New Toyota Veloz ซึ่งเคาะเริ่มต้นรุ่น Smart อยู่ที่ 795,000 บาทและรุ่นท็อป Premium อยู่ที่ 875,000 บาท

การกำหนดราคาที่ห่างกันถึง 1 แสนบาททำให้น่าสนใจอย่างยิ่งว่าคุณสมบัติของรถทั้งสองรุ่นแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด เราไปชมกันเลย

รูปลักษณ์ภายนอก

2022 Toyota Veloz มาพร้อมไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ แบบ LED พร้อมฟังก์ชั่นติดค้างเมื่อดับเครื่องยนต์ ไฟ Daytime Running Light แบบ LED Light Guiding ไฟเลี้ยวแบบซีเควนเชียล และไฟตัดหมอกคู่หน้า พร้อมกระจังหน้าสีดำ

ติดตั้งกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว มือจับเปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ บนหลังคามีเสาอากาศแบบครีบฉลามและราวหลังคา รวมถึงสปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน 17 นิ้ว หุ้มด้วยยางขนาด 205/50 R17

2022 Honda BR-V สดใหม่และโดดเด่นด้วยกระจังหน้าตกแต่งเปียโนแบล็ก กันชนหน้าและหลังตกแต่งสีเงิน ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ คิ้วตกแต่งสเกิร์ตข้างสีเงิน

นอกจากนี้ยังมีราวหลังคาตกแต่งแบบสปอร์ต เสาอากาศแบบครีบฉลาม ล้ออัลลอยใช้ขนาด 17 นิ้ว

ภายในห้องโดยสาร

เปิดประตู Veloz เข้ามาพบกับเบาะนั่งหุ้มหนังสลับผ้า ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา เบาะนั่งคนขับปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง วัสดุตกแต่งเปียโนแบล็กและโครเมียม ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบ LED พร้อมแสงไฟแอมเบียนท์ รวมถึงไฟบริเวณที่เก็บสัมภาระด้านท้าย

ชุดมาตรวัดแบบฟูลดิจิทัลสี TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชั่น Auto Brake Hold ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง หน้าจอกลางระบบสัมผัส 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ช่องเชื่อมต่อ USB และช่องชาร์จไฟ 12 โวลต์ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง  ระบบโทรออกด้วยเสียง ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย และลำโพง 6 ตำแหน่ง

ขณะที่ BR-V ใหม่ตกแต่งแบบเปียโนแบล็ก เบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ในทุกรุ่นย่อย มาพร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท

มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto  พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง ช่องจ่ายไฟสำรอง 3 ตำแหน่ง  และลำโพง 6 ตำแหน่ง

ขุมพลังขับเคลื่อน

Veloz วางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พละกำลังสูงสุด 106 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมระบบ Sequential Shift Manual Mode รองรับน้ำมัน E20

BR-V มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 16 วาล์ว ผสานกับระบบเกียร์ CVT ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที มอบอัตราการประหยัดน้ำมัน 16.1 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20

ระบบความปลอดภัย

2022 Toyota Veloz เพียบพร้อมระบบเซฟตี้มาตรฐาน เริ่มจากระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC

ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ได้แก่ ระบบเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Monitor ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Rear-Cross Traffic Alert ระบบเตือนการชนด้านหน้า Pre-Collision System ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน และ ดึงพวงมาลัยกลับ Lane Departure Alert ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดวิธี Pedal Misoperation Control และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว Front Departure Alert

นอกจากนี้ยังมีถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา Panoramic View Monitor และเซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง

ขณะที่ 2022 Honda BR-V มาพร้อมเทคโนโลยี Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก Collision Mitigation Braking System ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist System ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High-Beam ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ Lead Car Departure Notification System

ระบบความปลอดภัยยังรวมถึงระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Honda LaneWatch ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก ตลอดจนถุงลม 6 ตำแหน่ง

ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทยจะประกาศราคาและเปิดจำหน่ายของ Honda BR-V ใหม่อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 พร้อมทั้งเตรียมสัมผัสเป็นครั้งแรกในงาน BIG Motor Sale 2022 ระหว่างวันที่ 19 - 28 สิงหาคม 2565