Toyota เผยกลุ่มเป้าหมาย bZ4X ที่จะเช่าใช้งานผ่าน KINTO เหมาะสมที่สุด

Toyota Motor (โตโยต้า) กำลังเดินหน้ากลยุทธ์การพัฒนาระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอย่างเต็มตัว พร้อมกับนำเสนอบริการเช่าใช้งานระยะยาวที่เรียกว่า subscriptions เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่และคนสูงอายุ

ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นประกาศเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า Toyota bZ4X รุ่นใหม่จะพร้อมให้ลูกค้าได้ใช้งานในเดือนพฤษภาคม แต่ไม่ใช่การจำหน่ายตามปกติ หากเป็นการเช่าใช้งานระยะยาวผ่านบริการที่พวกเขาเรียกว่า KINTO

บริการ KINTO ในประเทศญี่ปุ่นบริหารงานโดยบริษัท Kinto Corp ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 ภายใต้เครือ Toyota ให้บริการเช่าใช้งานระยะยาว โดยผู้ใช้งานจ่ายค่าบริการเป็นรายเดือน กระบวนการส่วนใหญ่ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์

ทำไมถึงไม่ขายขาด?

หนึ่งในเหตุผลที่ Toyota ใช้ระบบเช่าใช้งานระยะยาวก็เพราะต้องกรให้รถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างได้ เนื่องจากการซื้อรถอีวีสักคันนั้นยังมี “กำแพง” ที่หนาและหนักที่ลูกค้าต้องข้ามผ่าน

กำแพงที่ว่าก็คือราคาจำหน่ายที่ค่อนข้างสูง Toyota bZ4X เคาะค่าตัวอยู่ที่ 6 ล้านเยน แพงกว่ารถเอสยูวีขนาดใหญ่ขุมพลังเบนซินอย่าง Land Cruiser ถึงเกือบ 1 ล้านเยนเลยทีเดียว

บริษัทรถยนต์ไม่สามารถกำหนดราคาจำหน่ายรถอีวีให้ถูกได้เนื่องจากต้นทุนสูง โดยเฉพาะการผลิตแบตเตอรี่ที่วัตถุดิบพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่องจากปัญหาด้านซัพพลายเชน

ขณะที่บริการ subscriptions มีข้อได้เปรียบตรงที่บริษัท Kinto จะคำนวณราคาค่าเช่ารายเดือนที่รวมค่าบำรุงรักษาเสร็จสรรพที่เป็นตัวเลขคงที่ตลอดการใช้งาน ทำให้ผู้ขับขี่ทราบล่วงหน้าว่าแต่ละเดือนต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าใด

บริการเช่าใช้งานระยะยาวเช่นนี้ยังช่วยขจัดความวิตกกังวลของผู้บริโภคที่อาจมองว่าราคาขายต่อของรถยนต์ไฟฟ้าจะตกลงฮวบฮาบเนื่องจากแบตเตอรี่หรือระบบอื่น ๆ ที่พวกเขาไม่คุ้นเคยอาจเสื่อมสภาพเร็วกว่ารถเครื่องยนต์สันดาป

ชินยะ โคเทระ ประธานกรรมการ Kinto กล่าวว่า การให้บริการ subscriptions หมายความว่าบริษัทฯ ช่วยแบกรับความเสี่ยงแทนลูกค้า เนื่องจากราคาขายต่อรถยนต์ไฟฟ้าอาจลดต่ำลงมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวรถถูกส่งคืนกลับหลังหมดสัญญาการเช่าใช้งาน Toyota ก็สามารถนำรถกลับไปถอดรื้อเพื่อเข้ากระบวนการรีไซเคิลได้ โดยเฉพาะการเก็บโลหะหายากในแบตเตอรี่อย่างลิเธียม โคบอลต์ และนิกเกิลที่สามารถนำไปผลิตแบตเตอรี่ชุดใหม่ได้

Kinto เชื่อว่าบริการเช่าใช้งานจะช่วย “ปลดล็อก” ความต้องการใช้งานรถยนต์ทั้งพลังงานไฟฟ้าและเครื่องยนต์สันดาป ในกลุ่มผู้ใช้อายุน้อย โดยจะเห็นได้ว่าคนในวัย 20 – 30 ปีที่เพิ่งครอบครองรถคันแรกนั้นเป็นลูกค้าของบริการนี้มากกว่า 40% เลยทีเดียว

“เรากำลังพยายามกระตุ้นความต้องการที่มองไม่เห็น” Kinto ระบุ

ด้านฟูจิ เคไซ บริษัทวิจัยตลาดระบุว่า มูลค่าของตลาดเช่าใช้งานรถยนต์จะพุ่งแตะระดับ 4 หมื่นล้านเยนภายในปี 2030

บริษัท DeNA SOMPO Carlife ที่ให้บริการเช่าใช้งานเช่นกันได้นำเสนออ็อปชั่นใหม่ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถยกเลิกสัญญาเช่าใช้งานหลัง 2 ปีโดยไม่ต้องเสียค่าปรับตามนโยบายเดิม โดยหวังว่าอ็อปชั่นนี้จะช่วยดึงดูดลูกค้าสูงอายุมากขึ้น

ชายชาวญี่ปุ่นวัย 45 ปีรายหนึ่งที่เช่าใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า Volvo C40 ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว Asahi ว่าบริการ Subscription ทำให้เขามีค่าใช้จ่ายตายตัวที่ 110,000 เยนต่อปีโดยครอบคลุมทุกอย่างทั้งภาษี ประกันภัย และบำรุงรักษา ไม่มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่ได้คาดคิดอีก

“การขับขี่รถที่ตนเองไม่ได้เป็นเจ้าของอาจทำให้รู้สึกแปลกไปบ้าง แต่ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าบริการนี้จะได้รับความนิยมมากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มคนอายุน้อยที่ไม่ค่อยชอบครอบครองสินค้าราคาแพงและมีค่าบำรุงรักษาสูง” ชายวัย 45 ปีกล่าว