Toyota เริ่มต้นพัฒนากระบะ Hilux FCEV ใช้ไฮโดรเจนด้วยเหตุผลนี้?

Toyota (โตโยต้า) ยังเดินหน้าพัฒนายานยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนด้วยการเริ่มต้นการพัฒนารถกระบะ Hilux FCEV ในยุโรป

โปรเจคต์การพัฒนารถกระบะ Toyota Hilux FCEV หรือ fuel-cell electric vehicle เกิดขึ้นภายใต้การนำของ Toyota Motor Manufacturing UK ในสหราชอาณาจักร ด้วยความร่วมมือกับบริษัทวิศวกรรมหลายรายอย่าง Ricardo, ETL, D2H และ Thatcham Research

สำหรับเงินทุนในการพัฒนานั้นได้มาจากการอุดหนุนจากรัฐบาลเมืองผู้ดี วงเงินอยู่ที่ 11.3 ล้านปอนด์หรือประมาณเกือบ 500 ล้านบาท

ทำไมต้องพัฒนาไฮโดรเจน

ฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ Toyota Motor Europe จะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการสนับสนุนด้านเทคนิค พร้อมกับมอบความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฮโดรเจนให้แก่ทีมนักวิจัยและพัฒนา

ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นระบุว่ารถต้นแบบโปรโตไทพ์คันแรกจะพร้อมทดสอบวิ่งใช้งานภายในปี 2023 โดยจะใช้ชิ้นส่วนเกือบทั้งหมดจาก Mirai รถยนต์ไฟฟ้าพลังไฮโดรเจนที่เข้าสู่เจนเนอเรชั่นที่ 2 แล้ว

Hilux FCEV จะเป็นการเปิดประตูสู่ระบบขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ในเซกเมนท์รถกระบะ เพราะไม่เคยมีค่ายรถรายใดทำมาก่อน โดยเป็นที่ทราบกันดีว่าตลาดรถกระบะมีขนาดใหญ่มากในหลายประเทศ อย่างออสเตรเลีย รวมถึงเมืองไทยด้วยเช่นกัน

เป้าหมายของการพัฒนารถกระบะไฮโดรเจนคือการลดมลพิษ “ให้เหลือศูนย์” และลดการใช้เครื่องยนต์ดีเซล

การใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนยังแตกต่างจากการชาร์จไฟของรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากการเติมเชื้อเพลิงนั้นมีความใกล้เคียงกับการเติมน้ำมันซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที ขณะเดียวกัน การดัดแปลงหัวจ่ายน้ำมันดีเซลให้มาจ่ายเชื้อเพลิงไฮโดรเจนก็ใช้เวลาเพียง 2 วันเท่านั้น ตามคำกล่าวอ้างของ Toyota

นั่นจึงทำให้การใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนกับรถกระบะเหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ปราศจากจุดชาร์จไฟ อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าเครื่องยนต์สันดาปดั้งเดิม