สไลด์รถยังไงให้ดูแพง Mercedes-Benz Rennabteilung ม้าเร็วส่งรถแข่งที่ขับได้เร็วถึง 170 กม./ชม.

เราอาจจะคุ้นเคยกับภาพรถสไลด์ในประเทศไทย ที่มีไว้ใช้ขนส่งรถยนต์หลากหลายประเภท ทั้งรถธรรมดา, รถสปอร์ต หรือรถแข่ง ซึ่งส่วนมากก็จะใช้กระบะเช่น Toyota Hilux (โตโยต้า ไฮลักซ์) หรือ Isuzu D-Max (อีซูซุ ดี-แมกซ์)

แต่ Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) เองก็เคยมีรถสไลด์เป็นของตัวเองเช่นกัน แถมยังเป็นรถที่ไม่ธรรมดาเพราะมีไว้ขนรถแข่งเท่านั้น แถมยังขับได้เร็วถึง 170 กม./ชม.

เราจะพาไปรู้จักกับ Mercedes-Benz Rennabteilung กัน

Blue Wonder

เมื่อปี 1955 รถคันนี้ได้ขอให้ถูกสร้างขึ้นโดย Alfred Neubauer หัวหน้าชุดทีมแข่ง และออกแบบโดย Rudi Uhlenhaut หัวหน้าวิศวกร เพื่อไว้ขนส่งรถแข่ง Mercedes-Benz 300 SL และ W196 “Silver Arrow”

ตั้งชื่อรถว่า Rennabteilung หรือ แผนกรถแข่ง ซึ่งมันก็ได้รับความสนใจจากผู้คนมากพอกับตัวรถแข่งเลยทีเดียว โดยดีไซน์จะมีกระบะท้ายไว้ขนรถแข่งทั้ง 2 คันนี้โดยเฉพาะ ทาสีรถด้วยสีน้ำเงินจนได้ชื่อเล่นว่า Blue Wonder

โดยจะใช้งานเหมือนกับ “ม้าเร็ว” เมื่อต้องทำเวลาการขนรถแข่งจากโรงงานไปยังสนาม และตัวรถก็สามารถรองรับได้เพราะมีการพัฒนาด้วยชิ้นส่วนของทั้งตัวแข่ง  180, 300 S และ 300 SL

อ่านเพิ่มเติม Mercedes-Benz 300 SLR Uhlenhaut Coupe ทุบสถิติรถแพงสุดในโลก

ฐานล้อยาว 3 เมตร

Rennabteilung ถูกสร้างข้นโดยใช้ชิ้นส่วนจากรถ 3 รุ่นในไลน์อัพของเบนซ์ขณะนั้น โดยแชสซีเป็นการปรับแต่งมาจากรถส่วนบุคคล 300 S มาเป็นเฟรม

เครื่องยนต์ใช้เป็นเครื่อง 3 ลิตร 6 สูบจาก W198 300SL Gullwing แบบ single overhead camshaft เพลาข้อเหวี่ยงเหล็กฟอร์จ ระบบหล่อลื่นแบบ dry-sump หัวฉีดน้ำมันจาก Bosch ให้กำลังรวมประมาณ 190 แรงม้า

ทำความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม. ถึงในปัจจุบันอาจจะดูไม่เร็วมาก แต่ในปี 1955 ก็ถืว่าแรงทีเดียว ส่วนภายในและชิ้นส่วนตัวถังมาจากซีดาน 180

ตัวรถมาในรูปแบบหัวเดี่ยว มีฐานล้อยาว 3 เมตรเสริมความแข็งแรง มีการยืดเฟรมออกเล็กน้อยเพื่อให้รองรับกับท้ายที่ยาวขึ้น ด้านล่างมีล้ออะไหล่มาให้

ด้านหน้ามีการเซทช่วงล่างใหม่ด้วยคอยล์สปริงใต้ที่นั่งคนขับเพื่อความสบาย แต่ด้านท้ายจะแข็งกว่า เพราะไม่ต้องมีคนนั่งอยู่แล้ว

เพื่อให้สามารถหยุดตัวรถที่มีน้ำหนัก 2,499 กก. ได้มีการใช้ดรัมเบรกเสริมหม้อลมทั้ง 4 ล้อ พร้อมเพิ่มดิสก์เบรกที่เพลาขับ ใช้เบรกไอเสีย (Exhaust Brake) หรือที่มักเรียกกันว่า "ช็อตเบรก" สำหรับเครื่องยนต์

เบนซ์ได้ใช้เจ้า Blue Wonder จนถึงช่วงปี 1955 ที่ Juan Manuel Fangio และ Stirling Moss ได้อันดับที่ 1 และ 2 ใน F1 Championship

น่าเสียดายที่พวกเขาหยุดลงแข่งกีฬามอเตอร์สปอร์ตลงในซีซั่น 1955 หลังจากอุบัติเหตุการชนของ Pierre Levegh ในรถ 300 SLR ที่ Le Mans เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตมากถึง 83 คน นับเป็นเหตุสูญเสียที่มากที่สุดในการแข่งขัน

ตัวรถเดิมนั้นไม่มีเบาะแสว่าหายไปไหน แต่ในปี 1993 ทาง Mercedes-Benz ก็ได้ลงทุนสร้างรถกระบะนี้ขึ้นมาใหม่เพื่อเป็นการให้เกียรติ โดยอ้างอิงจากเอกสารที่มีอยู่

พวกเขาใช้เวลากว่า 6,000 ชั่วโมง หรือปนะมาณ 250 วันจนได้เป็นรถ Replica ที่เกือบจะเหมือนรถคันจริง เว้นแต่เบรกที่ใช้เป็นแบบสมัยใหม่แล้

ซึ่งจะโชว์ตัวอยู่ในพิพิธภัณฑ์ Mercedes-Benz ในเมือง Stuttgart, Germany

อ่านเพิ่มเติม Mercedes-Benz เตรียมทำเครือข่ายชาร์จเป็นของตัวเอง