6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก

หลังจากที่ All-New Toyota Alphard และ Vellfire โมเดลเชนจ์ เปิดตัวในตลาดโลก ก็มาเปิดตัวในประเทศไทยแล้ว เป็นอีกครั้งที่โตโยต้า ประเทศไทย นำเข้ามาจำหน่ายด้วยตัวเอง พบว่า ครั้งนี้มีออพชั่นที่น่าสนใจยิ่งขึ้น สามารถสู้รถนำเข้าจากเกรย์ได้อย่างสูสี

มาพร้อม 3 รุ่นย่อย 3 สไตล์

ในการเปิดตัวครั้งนี้ Toyota Alphard และ Vellfire โมเดลเชนจ์ สเปคไทยจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่

  • Toyota Alphard 2.5 HEV Luxury ซึ่งวางเป็นรุ่นเรือธง ให้ประสบการณ์ระดับเฟิร์สคลาส ราคา 4,499,000 บาท
  • Toyota Vellfire 2.5 HEV วางตำแหน่งเป็นห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ เน้นรูปลักษณ์ที่ดุดัน ราคา 4,279,000 บาท
  • Toyota Alphard 2.5 HEV วางตำแหน่งเป็นห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ เน้นรูปลักษณ์ที่หรูหรา ราคา 4,129,000 บาท

เครื่องยนต์ไฮบริดล้วน

Toyota Alphard และ Vellfire ใหม่มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดทุกรุ่นย่อย ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รหัส A25A-FXS  4 สูบ Dual VVT-i ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 238 นิวตันเมตร 

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 138 กิโลวัตต์ (182 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่นิกเกิลไฮไดรด์ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ E-Four ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 17.9 กม./ลิตร

ตัวรถมาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ ได้แก่ EV Mode, Normal Mode และ ECO Mode

พื้นฐานแพลทฟอร์มใหม่

ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานแพลทฟอร์ม TNGA (GA-K) ซึ่งเป็นโครงสร้างใหม่ ลดแรงสั่นสะเทือนขณะโดยสารลง 30% ซึ่งเป็นผลมาจากช่วงล่างแบบใหม่และโครงสร้างเบาะนั่งแบบ Anti-Vibration

โดยช่วงล่างของรถคันนี้มาพร้อมด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบอิสระปีกนกคู่พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรคเป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ

ดีไซน์ภายนอกใหม่หมดจรด

Alphard และ Vellfire ใหม่มีความยาว 5,005 - 5,010 มม. กว้าง 1,850 มม. และสูง 1,945 - 1,950 มม. ขึ้นกับรุ่นย่อย มีระยะฐานล้อ 3,000 มม. และระยะต่ำสุดจากพื้น 150 มม. ซึ่งทำให้รุ่นใหม่นี้มีความยาวและความสูงเพิ่มขึ้นจากรุ่นปัจจุบันโดยยังมีความกว้างและระยะฐานล้อเท่าเดิม

ภายนอกมีจุดเด่นที่ไฟหน้าแบบ LED พร้อม Adaptive High Beam System และไฟเลี้ยวแบบ Sequential ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วใน 2 รุ่นบน มีฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ไฟท้าย LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential หากเป็นรุ่นท็อปจะมีสัญลักษณ์ Executive Lounge 

ภายในแบบ Executive Lounge ในรุ่นท็อป และมีให้เลือก 3 สี

สำหรับภายในของทั้ง Alphard และ Vellfire ใหม่ยังมีการจัดที่นั่งแบบ 2-2-3 เช่นเคย ที่มาพร้อมวัสดุหุ้มหนังแท้ Premium Nappa และหนังสังเคราะห์ ไฟตกแต่งห้องโดยสารมีให้เลือกถึง 64 สี

ในรุ่น Alphard 2.5 HEV และ Vellfire 2.5 HEV จะมาพร้อมเบาะแถวสองแยกอิสระ ปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง ควบคุมผ่าน Detachable Tablet ส่วนรุ่นท็อป Alphard 2.5 HEV Luxury จะมาพร้อมเบาะแถวสองแบบ Executive Lounge ปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางและควบคุมผ่าน Detachable Tablet เช่นกัน และเพิ่มโต๊ะส่วนตัวแบบพับได้เข้ามาด้วย

เบาะนั่งของรุ่นท็อป Alphard 2.5 HEV Luxury

เบาะแถวสองของทุกรุ่นย่อยจะมาพร้อมเบาะรองน่อง Ottoman Seat ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง, ระบบเบาะนวด, มี Seat Ventilator และฮีทเตอร์เบาะนั่งในส่วนของพนักพิงและเบาะรองนั่ง แต่ในรุ่นท็อปจะมีฮีทเตอร์ในส่วนที่วางแขนและเบาะรองน่องมาให้ด้วย

ส่วนเบาะแถวสามจะเหมือนกันทุกรุ่นย่อย คือ สามารถนั่งได้ 3 คน และสามารถพับเก็บแยกซ้าย-ขวาแขวนขึ้นไปได้

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่โดดเด่นภายในรถคันนี้ ได้แก่ หน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 14 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย พร้อมระบบครื่อง JBL ลำโพง 15 ตำแหน่ง มาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระ 4 โซน พร้อม nanoe X

และยังมีหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลังขนาด 14 นิ้ว, หลังคา Twin Moonroof, Smart Comfort Program และม่านบังแดดปรับไฟฟ้า 

สำหรับสีภายในจะขึ้นอยู่กับสีภายนอกและรุ่นย่อย โดยสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว Platinum White Pearl MC, สีเทา Precious Metal และสีดำ Black ให้เลือกทุกรุ่น

ในรุ่นท็อป Alphard 2.5 HEV Luxury จะมีภายในสี Sunset Brown และ Black ให้เลือก ในรุ่น Vellfire 2.5 HEV จะมีภายในสีดำให้เลือกเท่านั้น และรุ่น Alphard 2.5 HEV จะมีภายในสี Natural Beige และ Black ให้เลือก 

ระบบความปลอดภัยที่ดีขึ้นจากเดิม

ระบบความปลอดภัยจาก Toyota Safety Sense ก็มีมาให้อย่างครบครันทุกรุ่นย่อย แต่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ได้แก่ การตรวจจับของเซนเซอร์กล้องและเรดาร์ถูกขยายระยะการตรวจจับให้มากขึ้น, ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (DRCC) สามารถทำงานขณะเข้าโค้งได้แล้วพร้อมทำงานแบบ All speed และระบบความคุมไฟสูงอัตโนมัติ (AHB) ได้เพิ่มระบบการควบคุมแบบ adaptive เข้ามา 

ส่วนระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PCS), ระบบเตือนเมื่ออยู่นอกเลนและดึงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติ (LDA) รวมถึงระบบช่วยให้อยู่กลางเลน (LTA) ก็ยังมีมาให้

อุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานอื่น ๆ ก็มีมาให้อย่างครบครัน ได้แก่ กล้องมองรอบคัน ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนลมยาง, ระบบเตือนมุมอับสายตาด้านข้าง BSM และ RCTA รวมถึงระบบ Safe Exit Assist, ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, กล้องบันทึกหน้า-หลัง, เซนเซอร์กะระยะ 8 ตำแหน่งรอบคัน, สัญญาณไฟกะพริบเมื่อเบรกกะทันหัน, ระบบเบรก ABS, BA และ EBD รวมถึงระบบ VSC, TRC และ HAC

แม้ 5 สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาสำหรับ Toyota Alphard และ Vellfire ใหม่สเปคไทยจะไม่มากเท่าที่คิดเอาไว้ แต่ก็ถือว่ามีอะไรที่น่าสนใจมากขึ้น เราคงต้องดูกันว่าสเปคที่โตโยต้า ประเทศไทยนำเข้ามาเองนั้นจะต่อกรกับผู้นำเข้าอิสระได้มากน้อยแค่ไหน

อ่านเพิ่มเติม: 5 สิ่งใหม่ที่เราหวังว่าจะได้เห็นในเมืองไทย กับ 2024 Toyota Alphard และ Vellfire เมื่อเปิดตัว...

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:

ซื้อรถถูกกว่า ขายรถเร็วขึ้น

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Toyota Alphard

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดเบื้องหลังการซ่อมตัวถังรถหรูในไทย วิธีพ่นและอบสีร้อน ไม่กระทบแบต Hybrid เหมือนใหม่จากโรงงาน

เปิดดูเบื้องหลังศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังของ Mercedes-Benz ในประเทศไทย ที่ใช้เทคโนโลยีช่วยอบสีรถ ไม่กระทบกับระบบไฮบริดและแบตเตอรี่ใหม่ ศูนย์บริการของ Mercedes-Benz ที่รับซ่อมตัวถังได้ด้วย มีไม่กี่แห่งในไทย หนึ่งในนั้นอยู่ที่ชลบุรี เป็นสาขาใหม่ของ เบนซ์ไพรม์มัส ที่อำนวยความสะดวกคนอยู่ต่างจังหวัด และอยากซ่อมตัวถังกับศูนย์ที่ได้มาตรฐานแบบโรงงานผู้ผลิต เรามาดูกันว่าเบื้องหลังการซ่อมนี้ จะใกล้เคียงของเดิมจากโรงงานแค่ไหน ศูนย์บริการเบนซ์ไพรม์มัสสาขาใหม่ที่ชลบุรีนี้ รองรับงานซ่อมสี และตัวถัง เดือนละ 1

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

Toyota Alphard
เช็คทันที