1st Impression Isuzu MU-X 2021 ทำมาดีเกินคาด พร้อมฟาด Toyota Fortuner - Mitsubishi Pajero Sport

Isuzu MU-X 2021 (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์) เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเป็นที่แรกของโลกไปอย่างยิ่งใหญ่อลังการงานสร้าง พร้อมประกาศราคาที่น่าสนใจในแต่ละรุ่นย่อย ซึ่งแน่นอนว่าราคามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อเรามองจากภายนอก รถคันนี้ก็ยังมีจุดเด่นและจุดด้อยหลายจุด ที่ยังต้องรอการพิสูจน์ว่าดีกว่าคู่แข่งมากน้อยเพียงใด

ใครที่อ่านข้อมูลแล้วสงสัยตรงไหน เมื่อวานนี้ AutoFun Thailand ได้พาชมตัวรถแบบละเอียดยิบไปแล้ว และในวันนี้ เราได้รับการเชิญชวนจากตรีเพชรอีซูซุเซลส์อย่างเป็นทางการ ในการร่วมสัมผัสกับรถคันนี้เป็นครั้งแรกในโลก ซึ่งแม้จะได้ขับไม่มากมายในสนามทดสอบ แต่ก็ทำให้เรามีข้อมูลมากพอที่จะมาคุยกันมากขึ้นเกี่ยวกับตัวรถ

อย่างที่เราเกริ่นไปแล้วว่าภารกิจหลักของมิว-เอ็กซ์โฉมใหม่นี้ก็คือการกลับมาแย่งชิงความเป็นผู้นำในตลาดพีพีวีในประเทศไทยให้ได้อีกครั้ง หลังจากที่พวกเขาโดนความร้อนแรงและแคมเปญของคู่แข่ง ผลักดันให้ยอดจำหน่ายของมิว-เอ็กซ์รุ่นก่อนหน้าตกไปอยู่ในอันดับ 3 ของตลาดในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาของปี 2563

แน่นอนว่าส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะตัวสินค้าเองที่มีอายุค่อนข้างมากอยู่แล้ว ลูกค้าหลายรายที่เป็นแฟนคลับของอีซูซุก็รอที่จะได้พบเจอกับโฉมใหม่อย่างใจจดใจจ่อ ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้มีแบรนด์รอยัลตี้ ก็ไม่ได้มองว่าจะต้องซื้อรถแบรนด์ไหน อะไรที่มีอยู่ในท้องตลาดและเหมาะสมด้วยช่วงเวลาและโปรโมชั่นก็จับจองกันทันที

แน่นอนว่าการกลับมาของมิว-เอ็กซ์ น่าจะช่วยทำให้ตลาดพีพีวีที่ซบเซาในปีนี้ เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง และยังจะเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการใช้รถระดับราคา 1-1.5 ล้านบาทได้อีกต่างหาก แต่รถคันนี้จะดีพอที่จะให้จับจองเป็นเจ้าของหรือไม่นั้น มาติดตามการทดลองขับแบบสั้น ๆ ไปพร้อมกับพวกเราได้เลยครับ

รูปร่างหน้าตาเน้นหรูหราแบบพรีเมียม

วันนี้เราจะไม่พูดถึงรายละเอียดแต่ละชิ้นส่วนกันมาก แต่จะเป็นการสรุปแบบตามความคิดของผมก็แล้วกัน เรื่องแรกที่เราต้องจำไว้ก็คือรถคันนี้นั้นพัฒนามาจาก Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) โฉมใหม่ แต่มีการปรับรายละเอียดของตัวรถให้ดูมีความหรูหราพรีเมียมมากขึ้นที่ภายนอก แต่ภายในนั้นเน้นการเพิ่มอุปกรณ์เข้ามามากมายให้รถน่าใช้งานมากขึ้น

ตอนที่เป็นดีแมคซ์นั้น ตัวรถดูมีความสปอร์ต แข็งแกร่ง บึกบึน เพื่อเน้นการแข่งขันไปในทิศทางเดียวกันกับคู่แข่งอย่างชัดเจน แต่เมื่อพัฒนามาเป็นมิว-เอ็กซ์ ดูเหมือนอีซูซุจะพยายามฉีกออกมาเน้นความพรีเมียมของรถที่เหนือกว่าคู่แข่งที่ไปรบรากันในสงครามสปอร์ต ดุดันกันอยู่ เรียกว่ามองแบบภาพรวม ๆ แล้ว จะเห็นดีไซน์ที่อ่อนโยนกว่าเยอะ

การออกแบบกกระจังหน้าแบบ 3 มิติก็ดี ชุดโคมไฟหน้าที่มาพร้อมเส้นไฟแอลอีดีเล่นลายแบบสวยงาม สอดรับเป็นชุดเดียวกันกับชุดไฟตัดหมอกด้านหน้า รวมไปถึงตัวถังแบบตีโป่งบนมิติตัวถังที่ใหญ่ที่สุดในคลาส ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วลายคล้าย ๆ ดอกไม้ รวม ๆ ความมาแล้ว ทำให้รถนั้นดูออกไปในแนวเอสยูวีหรูหรามากกว่าบึกบึน

ด้านท้ายของรถนั้นให้บรรยากาศของรถเอสยูวีรุ่นใหญ่ ๆ ที่เน้นการดีไซน์ประตูบานหลังแบบกลม ๆ ป่อง ๆ แตกต่างจากมิว-เอ็กซ์โฉมเดิมที่เน้นการเล่นเส้นสายที่ตัดกันอย่างดุดัน เป็นแนวทางการออกแบบที่ถือว่าขัดตาไป หากไปเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) หรือ Mitsubishi Pajero Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต) 

การออกแบบเชิงหรูหรา ป้อม ๆ แบบนี้ ถ้าให้นึกถึงคันที่ใกล้เคียงที่สุดก็คงจะเป็น Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) ไปนู่นเลย แต่ของอีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ก็เรียบและดูหรูหรากว่า เอาเป็นว่าใครที่คิดจะซื้อรถคันนี้ไว้ออกงานกลางคืน ก็น่าเป็นรถที่ให้ภาพลักษณ์ที่หรูหราดูดีที่สุดในบรรดา งานนี้ถือว่าทีมออกแบบใจกล้าและทำงานมาได้เป็นอย่างดี

ห้องโดยสารภายในที่เน้นการใช้งานที่หลากหลาย

ด้วยการเป็นรถที่พัฒนามาจากดีแมคซ์ บรรยากาศของห้องโดยสารตอนหน้าโดยรวม ๆ ก็จะไม่ได้แตกต่างอะไรจากเจ้า Isuzu D-Max V-Cross (อีซูซุ ดีแมคซ์ วี-ครอส) สักเท่าไหร่ ตำแหน่งของเบาะที่นั่งและการจัดวางอุปกรณ์ทั้งหมดนั้น ในตำแหน่งผู้ขับขี่ถือว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงหรือต้องปรับตัวอะไรเลย กระโดดขึ้นรถมาก็ขับได้เลย

อย่างไรก็ตาม ห้องโดยสารนั้นได้รับการพัฒนาให้มีความหรูหราขึ้นมามากมายในรายละเอียด อย่างแรกเลยคือการเลือกใช้สีทองแชมเปญมาตกแต่งห้องโดยสารทำให้รถดูมีราคาขึ้นมาเยอะ รวมไปถึงเบาะที่นั่งระบายความร้อนดีสีน้ำตาลที่นำมาแมตช์ ก็ทำให้ห้องโดยสารมีโทนที่อบอุ่น เหมาะกับการใช้งานแบบครอบครัว และเหมือนจะเลอะยากด้วยนะ

คอนโซลหน้านั้น แม้จะยกมาทั้งหมด แต่ก็มีการเพิ่มดีไซน์ตรงแผงกลางให้มีขอบขึ้นมารับกับตำแหน่งการนั่งมากขึ้น ช่องเก็บของด้านบนถูกเปลี่ยนเป็นที่ติดตั้งช่องใส่ซีดี ขณะที่ด้านหลังคันเกียร์ ติดตั้งเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Hold น่าจะเป็นครั้งแรกของอีซูซุเลยก็ว่าได้ ขณะที่ดีไซน์การออกแบบอื่น ๆ ในภาพรวมก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่าง

เบาะที่นั่งแบบ 7 ที่นั่งถูกติดตั้งมาในตำแหน่งที่สูงขึ้นจากเดิมเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินเข้า-ออกห้องโดยสาร รวมถึงทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยมของผู้โดยสารทุกตำแหน่ง ตัวเบาะดูเหมือนจะบางลงนิดหน่อย เพื่อเพิ่มพื้นที่วางขาและช่องว่างระหว่างเบาะแต่ละแถว อันนี้ผมลองนั่งมาแล้วทุกตำแหน่ง ถือว่าใช้งานได้จริงทั้ง 3 แถว

ห้องโดยสารออกแบบมาเพื่อเอาใจการใช้งานสำหรับคน 7 คนจริง ๆ เบาะแถว 2 นั้น ตรงกลางสามารถดึงที่เท้าแขนที่ซ่อนที่วางแก้วเอาไว้ออกมาได้ ขณะที่เบาะแถว 3 ก็มีที่วางแก้วพร้อมช่องเก็บของสำหรับผู้โดยสารทั้ง 2 ตำแหน่ง ระบบปรับอากาศนั้นเดินท่อมาตามหลังคารถ ยังไม่ได้มีโอกาสลองความเย็น แต่คิดว่าไม่ใช่ปัญหาของค่ายนี้

พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร มีช่องเก็บของเล็ก ๆ ที่ด้านท้าย เป็นผลมาจากการเก็บล้ออะไหล่ไว้ด้านล่างตัวรถเหมือนเดิม เบาะตอน 3 นั้นสามารถพับได้อย่างรายเรียบ เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระอย่างเต็มพิกัด ใช่ครับ ย้ำอีกครั้งว่าเบาะตอน 3 นั้นพับได้เรียบ ขาดแค่ระบบพับไฟฟ้าแบบเอเวอเรสต์นั่นล่ะที่ยังไม่ได้ให้มา

แน่นอนว่าหลาย ๆ คนก็คงถามหาพวกอุปกรณ์ของเล่นต่าง ๆ ที่เพื่อน ๆ เขามีกัน ยกตัวอย่างเช่น หลังคาซันรูฟ อันนี้บอกเลยว่ายาก เพราะระบบแอร์นั้นเดินท่อผ่านหลังคามา คงปรับกันยากหน่อย ส่วนจอทีวีสำหรับผู้โดยสารตอนหลังนั้น แว่วว่าดีลเลอร์เตรียมอะไหล่ไว้ตกแต่งกันให้เพียบ หรือจะรอให้เขาไมเนอร์เชนจ์กันก็น่าจะมีมาให้เห็นในอนาคตแน่นอน

เครื่องยนต์และระบบความปลอดภัยครบครันขึ้น

เครื่องยนต์ที่นำมาใช้ยัวมีให้เลือก 2 รุ่น ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ เทอร์โบ ขนาด 1.9 ลิตร Ddi Blue Power ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,800 – 2,600 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่มาพร้อมเทรนด์ดาวน์ไซส์ซิ่ง ซึ่งพวกเขาทำตลาดมาได้สักระยะใหญ่ ๆ แล้ว

อีกรุ่นเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ Commonrail Direct Injection พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์ VGS แบบครีบแปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,600 – 2,600 รอบต่อนาที ตัวท็อปของค่ายที่โดดเด่นทั้งเรื่องพละกำลังและการประหยัดน้ำมัน

ระบบส่งกำลังนั้นมีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดาในรุ่นเครื่องยนต์เล็ก รวมถึงเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เกือบทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกเว้นตัวท็อปเท่านั้นที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เรียกว่าทางเลือกหลัก ๆ ของรถคันนี้ก็คือระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ ที่แตกต่างกันที่เครื่องยนต์และระบบอุปกรณ์ต่าง ๆ เท่านั้น

แม้จะมีรูปลักษณ์ที่เน้นความหรูหรา แต่อึซูซุก็ทำการเพิ่มสมรรถนะการขับขี่บนทางวิบากให้กับรถ ด้วยระบบกันสะเทือนแบบคอยล์สปริงพร้อมโช๊คอัพแก๊ส 4 ล้อ ช่วงล่างด้านหน้าแบบดับเบิลวิชโบน ช่วงล่างหลังแบบ 5 ลิงค์ที่มาพร้อมการปรับปรุงใหม่ เรียกว่าสามารถใช้งานได้จริงทั้งบนถนนและเส้นทางออฟโรดแบบสมบุกสมบัน

ในรุ่นบนบนของโฉมนี้ จะมาพร้อมยระบบความปลอดภัยที่เน้นป้องกันอุบัติเหตุ โดยเฉพาะระบบ ADAS หรือ Advanced Driver Assistance Systems ที่ทำงานด้วยกล้องหน้าคู่อัจฉริยะใหม่ที่แม่นยำกว่ากล้องเดี่ยวแบบรุ่นเดิม โดยระบบจะช่วยตรวจจับวัตถุด้านหน้า ทำงานร่วมกับเรดาร์ 2 จุดและ เซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคันเป็นครั้งแรกของมิว-เอ็กซ์

ระบบเด่น ๆ ที่น่าใช้งาน ก็จะประกอบไปด้วย ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดได้ด้วยตนเอง พร้อมระบบล็อกความเร็วเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติ ระบบ stop and go หยุดรถและออกตัวตามรถคันหน้าอัตโนมัติ ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ระบบตรวจจับมุมอับสายตา พร้อมด้วยระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ

ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า ทำงานร่วมกับระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดพลาดเมื่อมีสิ่งกีดขวางด้านหน้า ระบบแจ้งเตือนการจราจรตัดผ่านด้านหลังขณะถอยรถ ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ระบบช่วยจอด พร้อมถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง และระบบอื่น ๆ ที่เป็นระบบมาตรฐานดั้งเดิม

ลองขี่แบบสั้น ๆ มาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง

ต้องบอกก่อนว่าการทดลองขับสั้น ๆ ของเราในวันนี้นั้น เป็นการทดลองขับแบบสั้น ๆ ประมาณ 2-3 รอบของสนามทดสอบ ที่มีการกำหนดทางวิ่งและเส้นทางในการทดสอบชัดเจน เรียกว่าเป็นการสัมผัสกันแบบน้ำจิ้มกันหลังเปิดตัว เพื่อที่จะให้ตอบคำตอบเรื่องการใช้งานต่าง ๆ กันได้ดีมากขึ้น แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องการใช้งาน

เรื่องแรกที่เป็นที่น่ายินดีมากสำหรับผมก็คือการที่พี่ใหญ่อย่างอีซูซุนั้น พรีเซนต์ถึงโปรดักส์ใหม่ของพวกเขาโดยเน้นเรื่องของเทคโนโลยี ระบบความปลอดภัยอย่างเข้มข้น แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่เน้นเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งานของผู้บริโภคเป็นหลัก หลังจากเน้นเรื่องประหยัดน้ำมัน ดูแลรักษาไม่แพงมายาวนาน

ตัวรถนั้นยิ่งเห็นต้องบอกว่ามันดูใหญ่จริง และงานก็พรีเมียมจริง ๆ คือดูแล้วหรูหราไปเลย แตกต่างจากคนอื่น ตลอดหัวจรดท้ายของรถนั้นดูเน้นไปที่ความเรียบหรูในงานออกแบบ ที่สะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนที่ภายในที่มีการเลือกสีของวัสดุต่าง ๆ มาประกอบกันอย่างลงตัว ขอบอกว่าสีทองแชมเปญนั้นสวยงามจริง ๆ

จากเบรกมืออันใหญ่ ๆ ยุคโบราณ พวกเขาเปลี่ยนมาใช้เบรกมือไฟฟ้าพร้อมปุ่มระบบหยุดรถอัตโนมัติเมื่อจอด พร้อมด้วยแป้นเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนแบบหมุนอันใหญ่ที่ดูลงตัว หน้าจอแสดงข้อมูลขนาดเล็กที่ดูเหมือนจะเหมือนกับดีแมคซ์ ก็ได้รับการยืนยันว่ามีการปรับในเรื่องของสีสันของหน้าจอให้ดูพรีเมียมมากขึ้นเช่นเดียวกัน

กระโดดขึ้นรถแล้วกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เสียงเครื่องยนต์แบบอีซูซุนั้นครางกระหึ่ม รุ่นที่นำมาให้ทดสอบกันเป็นรุ่นท็อป เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ กดคันเร่งไปแรง ๆ ตัวรถก็ออกตัวไปแบบไม่กระตือรือล้นอะไรมาก อันนี้เป็นลักษณะนิสัยของเครื่องยนต์ตัวนี้อยู่แล้ว ผมว่าแฟน ๆ อีซูซุเองก็คงเข้าใจกับคาแรคเตอร์ของรถอยู่แล้ว

 

สิ่งที่เซอร์ไพร์สมากกว่าคือความคมของพวงมาลัยที่เซตมาได้อย่างลงตัวพอดีกับน้ำหนักรถ เรียกว่าการปาดรถไปทางซ้าย-ขวานั้นทำได้อย่างสนุกสนานไม่มีอาการโยนตัวของรถมากมาย แถมยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบเตือนรถไหลออกจากเลน ที่ใช้งานได้จริง อันนี้ถือเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยใหม่ที่น่าสนใจ

การถ่ายน้ำหนักตัวของรถทั้งด้านหน้า-หลังและซ้าย-ขวาระหว่างการขับทดสอบถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวรถนั้นมีอาการโคลงอยู่บ้างเนื่องจากเป็นรถที่สูง น้ำหนักมาก แต่ก็ไม่ได้มากอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ และการคืนตัวของรถก็ทำได้อย่างรวดเร็ว และมีความคล่องตัวในการขับขี่ที่จัดว่าดีในระดับหนึ่งเมื่อเทียบกับขนาดตัวรถ

ระบบเบรกนั้นให้การตอบสนองที่ดี หากต้องการชะลอรถที่ความเร็วปานกลาง กดแป้นไม่ต้องมาก รถก็ชะลอแล้ว แต่หากเป็นการเบรกฉุกเฉินที่มีการกดคันเร่งอย่างรุนแรง ตัวรถนั้นจะมีอาการหน้าทื่อนิดหน่อย ด้านท้ายของรถก็จะยกตัวสูงขึ้นนิดนึง อันนี้สังเกตได้จากตอนทดสอบระบบเบรกอัตโนมัติ รถนั้นจะออกอาการมากหน่อย

การดูดซับแรงกระแทกของตัวรถนั้นทำได้ดีกว่าที่คาดเอาไว้ แรงกระแทกของตัวรถนั้นเป็นไปอย่างนุ่มนวลเหมาะกับถนนทุกรูปแบบ และรองรับการเปลี่ยนเลนแบบกระทันหันได้เป็นอย่างดี การเก็บเสียงของกระจกบ้านหน้านั้นสุดยอดเหมือนเดิม เสียงที่ดังที่สุดในการทดสอบก็คือเสียงของเครื่องยนต์ที่ครางกระหึ่มเวลากดคันเร่งแรง ๆ เท่านั้นล่ะ

สั้น ๆ หลังจากขับมา 2-3 รอบ ต้องบอกว่าอีซูซุนั้นทำรถรุ่นนี้ออกมาได้ดีแบบก้าวกระโดด เพราะพื้นฐานของรถที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี มาผสานกับงานออกแบบที่ทำมาดีขึ้น ดูไปนาน ๆ แล้วจะชินตาได้ไวมาก ห้องโดยสารสะดวกสบายใช้งานได้จริง เรียกว่าน่าจะเป็นรถที่เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และก็คงขายดีอยู่เหมือนเดิม

นอกเหนือจากการทดลองการขับขี่แล้ว ในงานทดสอบ อีซูซุยังได้จัดให้มีการแสดงเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันการชนด้านหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ระบบตัดการทำงานของคันเร่ง กรณีเหยียบผิดและมีสิ่งกีดขวางด้านหน้า ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีการติดตั้งเพิ่มเติมเข้ามา

หรือแม้แต่ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ที่มาพร้อมระบบหยุดรถและเคลื่อนรถอัตโนมัติที่ทำงานในทุกย่านความเร็วเป็นครั้งแรก เอาเป็นว่าใครที่เคยบอกว่าชอบซื้อรถเพราะเทคโนโลยีสูงส่งและเคยมองข้ามแบรนด์อีซูซุไป อาจจะต้องคิดกันใหม่ เพราะมิว-เอ็กซ์โฉมนี้ จัดเต็มระบบทุกอย่างมาให้อย่างเต็มที่ แบบไม่ทิ้งความดีงามเดิม ๆ

พัฒนาการเพื่อเอาใจลูกค้าแบบสมบูรณ์แบบ

ถ้าจะให้สรุปว่า Isuzu MU-X ใหม่นั้นเป็นอย่างไร ก็ต้องบอกว่านี่คือความพยายามอีกครั้งของแบรนด์อีซูซุที่มาพร้อมกับความต้องการในการดูแลลูกค้าให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยสินค้าใหม่ที่มีความหลากหลายมากขึ้น และมีฟังชั่นส์มากมายที่จะดูแลลูกค้าได้ครบทุกกลุ่ม ซึ่งเป็นการต่อยอดมาจากความหลากหลายของ Isuzu D-Max เอง

หลาย ๆ ฟังชั่นส์นั้นถูกพัฒนามาเพื่อตอบสนองชีวิตยุคปัจจุบัน แต่หลาย ๆ อันก็มาพร้อมกับแนวคิดรูปแบบเดิม ๆ ที่ยังทันสมัยอยู่ ผมยกตัวอย่างปลั๊กเสียบไฟที่วางไว้คู่กับที่ชาร์จไฟยูเอสบี หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าไม่จำเป็น แต่ผู้บริหารหลาย ๆ คนก็ยังทำงานบนรถอยู่ และเชื่อเถอะว่าผู้ใหญ่หลายคนก็คิดว่าชาร์จแบบเสียบปลั๊กก็ดีกว่าชาร์จยูเอสบีนะ

หรือการติดตั้งเครื่องเล่นซีดีมาให้ ทั้งที่ระบบเอนเตอร์เทนเมนต์นั้นรองรับทั้งไว-ไฟ แอปเปิลคาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้ แต่ถ้าคุณไปดูในรถยนต์ของลูกค้ามิว-เอ็กซ์จริง ๆ เชื่อเถอะว่าร้อยทั้งร้อยน่าจะยังมีซีดีเหลือ ๆ อยู่ติดรถกันบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของรถที่ต้องชื่นชมว่าคนคิดคิดมาละเอียดเอาเรื่องเหมือนกัน

ใแง่ของการขับขี่นั้น แน่นอนว่าเครื่องยนต์ก็ยังเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณา เพราะผมว่าการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ไม่ได้เน้นความสปอร์ตจี๊ดจ๊าด ก็อาจจะทำให้เราอยากได้รถที่ดุดันกว่านี้นิดหน่อย แต่ถ้าคิดว่าเครื่องยนต์ไม่ใช่ประเด็นหลักในการตัดสินใจแล้วล่ะก็ ขอบอกว่ามิว-เอ็กซ์ใหม่ก็มาพร้อมออพชั่นหลายอย่างที่ทำให้ชอบมันได้ไม่ยาก

โอเคว่าทั้งหมดคือการสัมผัสรถแบบสั้นมาก ๆ ที่ได้จับพวงมาลัยกันหลักนาที เอาไว้รอให้ตรีเพชรอีซูซุพร้อมกว่านี้ เราจะยืมรถออกมาทำการทดสอบกันอีกรอบ เชื่อว่ายังมีลูกเล่นหรือจุดติติงอีกมากที่เราจะต้องพิจารณากันกับรถคันนี้ แต่หากให้ประเมินด้วยข้อมูลตอนนี้ ปีหน้าตลาดพีพีวีดุแน่นอน และที่ 3 คงไม่เพียงพอสำหรับมิว-เอ็กซ์ อีกต่อไป!!!


บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:
Pisan

หัวหน้าทีมบรรณาธิการ

Head of Content ของ AutoFun Thailand ผู้ใช้ชีวิตกับรถมาตั้งแต่สมัยใส่ขาสั้นไปโรงเรียน ทุกวันนี้รถติดบนถนนมากกว่าวันละ 2-3 ชั่...

ขายรถคันเดิมเพื่อซื้อรถมือสองคุณภาพดีได้ง่ายและสะดวก

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Isuzu MU-X

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

รีวิว 2023 Isuzu MU-X ใส่ออพชั่นใหม่เพิ่มความน่าใช้ แต่เพียงพอไหม มาลองใช้กันเถอะ | AutoFun Thailand

รีวิว Isuzu D-Max และ MU-X เพิ่มออพชั่น ปรับราคาเล็กน้อย แต่น่าใช้งานแบบไปต่อไม่รอคู่แข่ง | AutoFun

รีวิว ISUZU MU-X ตัวเริ่มต้น เกรดCD ราคาย่อมเยาว์ ดีสุดสุด

วนไป ISUZU MU-X THE ICONIC

ภาคต่อ รุ่นDVD THE NEW ISUZU MU-X

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

Isuzu MU-X
เช็คทันที