Isuzu (อีซูซุ) ค่ายรถกระบะยอดขายดีในประเทศไทย โด่งดังจากการทำรถดีเซลที่ขึ้นชื่อเรื่องทนทานและประหยัดน้ำมัน ล่าสุดนี้ได้ทำสถิติผลิตรถยนต์จากโรงงานในประเทศไทยครบ 5 ล้านคัน นับตั้งแต่ก่อตั้งโรงงานเมื่อปี 1963 เรามาดูกันว่า กว่าจะมาถึง 5 ล้านคันนี้ ที่ผ่านมาอีซูซุเคยนำรถรุ่นใดขายในไทยมาบ้าง กับรวมประวัติรถอีซูซุรุ่นดังในไทย
โรงงานพระประแดงก่อตั้งเมื่อปี 1963 ตอนแรกใช้ประกอบรถบรรทุกขาย ต่อมาในปี 1974 ได้นำรถยนต์รุ่นแรกมาประกอบโดยโรงงานนี้คือ Faster รหัส KBD เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร 84 แรงม้ากับ 94 แรงม้า ต่อมาในปี 1978 ได้ใช้เครื่องยนต์ดีเซล C190 ความจุ 2.0 ลิตร กำลัง 62 แรงม้า อันเป็นต้นแบบให้รถกระบะรุ่นอื่นๆ ทั้งหมดในไทย เปลี่ยนมานิยมใช้เครื่องดีเซลมาจนถึงปัจจุบัน
รถเก๋งขนาดกลาง ที่ทำโดยอีซูซุคิดค้นพัฒนาเอง เปิดตัวเมื่อปี 1966 มีจุดเด่นที่ความกว้างขวาง หลังคาสูงโปร่ง โดยรุ่นนี้ยังเป็นการนำเข้ามาจากญี่ปุ่น ขายบ้านเราในปริมาณน้อย
รถเก๋งที่ได้รับความร่วมมือจาก GM โดยเป็นการนำรถโอเปิ้ลรุ่นเจมินี่ มาเปลี่ยนโลโก้เป็นทรงแท่งสีแดงคู่ของอีซูซุในยุคเก่า โดยยังใช้เครื่องยนต์และเทคโนโลยีต่างๆ จากเยอรมัน แบบเบนซิน 1.6 ลิตร มีตัวถังทั้งแบบซีดาน และคูเป้ท้ายลาด
เปิดตัวปี 1981 ใช้เครื่องดีเซลที่ขยายความจุเป็น 2.2 ลิตร กำลัง 73 แรงม้า มีจุดเด่นที่ตัวถังแบบตอนครึ่งใหม่ ที่ถูกเรียกว่า Spacecab อันเป็นชื่อเรียกติดปากสำหรับรถกระบะตอนครึ่งมาจนถึงปัจจุบัน ในตอนปลายอายุตลาด ได้ไมเนอร์เชนจ์อีกครั้ง เปลี่ยนมาใช้เครื่องดีเซลใหม่รหัส 4JA1 ความจุ 2.5 ลิตร หัวฉีดตรง ให้กำลัง 85 แรงม้า อันเป็นรากฐานในการทำเครื่องยนต์ดีเซลมาจนถึงปัจจุบัน
อีซูซุ อัสก้า รถเก๋งขนาดกลางเปิดตัวในไทยเมื่อปี 1984 ที่ใช้พื้นฐานร่วมกับ Opel Ascona มีจุดเด่นตรงที่พวงมาลัยพาวเวอร์ปรับน้ำหนักได้ 3 รูปแบบ ใช้เครื่องยนต์เบนซินที่ทำด้วยตัวอีซูซุเอง แบบเบนซิน 4 สูบความจุ 1.8 ลิตร กำลัง 105 แรงม้า และเบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร กำลัง 110 แรงม้า ขายในราคาต่ำกว่าคู่แข่ง แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่นัก
อีซูซุ บัดดี้ รถตู้พื้นฐานรถบรรทุกขนาดเล็ก เปิดตัวในปี 1983 ประกอบโดยโรงงานไทยรุ่งบ้านเรานี่เอง มีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครตรงที่ให้ตัวถังหลังคาสูง และภายในกว้างกว่าใครในระดับเดียวกัน ขายมาอย่างยาวนานจนถึงปี 1990 ก็ไมเนอร์เชนจ์หน้าใหม่ ใช้เครื่อง 4JA1 ดีเซล 2.5 ลิตร กำลัง 90 แรงม้า
อีซูซุ ฟาสเตอร์ เปิดตัวในปี 1988 ได้รับรางวัลดีไซน์ยอดเยี่ยม Good Design Award (G Mark) จากญี่ปุ่น พลิกดีไซน์ตรงขอบกระบะด้านบนไม่มีร่องตะขอ ทำให้ตัวถังเรียบเนียนสวยงามเทียบเท่ารถเก๋ง นอกจากนี้ยังมีการบุกเบิกเริ่มต้นหลายอย่าง ตั้งแต่การใส่เกียร์ออโต้มาให้เลือก เพิ่มรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Rodeo เป็นครั้งแรก เครื่องยนต์ดีเซลรหัส 4JA1 ความจุ 2.5 ลิตร กำลัง 90 แรงม้า ที่มีจุดขายเป็นรถกระบะประหยัดน้ำมัน ทำยอดขายดีชนะคู่แข่งขาดลอย
รถอเนกประสงค์พื้นฐานกระบะ TFR เป็นครั้งแรกของประเทศไทย โดยครึ่งคันหลังเปลี่ยนประตูและฝาท้ายใหม่หมดจรด ออกแบบโดยสตูดิโอจากอเมริกา ดีไซน์เป็นรถ 5 ที่นั่ง ทำท้ายสั้นแบบลาดเฉียง มีเอกลักษณ์ฝาท้ายเปิดแยกส่วนเพิ่มความสะดวก ต่อมาได้เปลี่ยนโฉมเป็นรุ่น Vega ไฟหน้าตาเพชร ย้ายยางอะไหล่มาห้อยท้าย และเปลี่ยนมาใช้เครื่อง 2.8 และ 3.0 เทอร์โบ
อีซูซุ ทรูเปอร์ เอสยูวีขนาดใหญ่สุด เปิดตัวในไทยตอนปี 1994 เป็นรถนำเข้า เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 สูบรหัส 6VD1 ขนาด 3.2 ลิตร กำลัง 177-190 แรงม้า และมีเครื่องดีเซล 4JX1 แบบดีเซลคอมมอนเรลครั้งแรกในไทย ความจุ 3.0 ลิตร กำลัง 163 แรงม้า ซึ่งทำยอดขายได้น้อย เพราะมีราคาเริ่มต้น 1 ล้านกลางๆ จนไปจบถึง 2 ล้านกว่าบาทกันเลย
อีซูซุ เวอร์เท็คซ์ รถเก๋งรุ่นสุดท้ายในประเทศไทย จับมือเป็นพันธมิตรกับฮอนด้าใช้พื้นฐาน Civic โฉม Domani มาเปลี่ยนโลโก้เท่านั้น ใช้เครื่องยนต์ฮอนด้าบล็อค B16 เบนซินความจุ 1.6 ลิตร กำลัง 120 แรงม้า และรุ่นที่มี VTEC ให้กำลัง 127 แรงม้า ออกขายในปี 1996 โดยชูจุดขายที่ความหรูหรา กับการใส่ ABS และถุงลมนิรภัยมาให้ครบครัน
เปิดตัวปี 1997 ตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง ค่าเงินลอยตัว แต่ก็ได้ฉลองยอดการผลิตรถอีซูซุ(ทั้งรถยนต์และรถบรรทุก)ได้ครบ 1 ล้านคันไปพร้อมกัน โดยรุ่นนี้เป็นไมเนอร์เชนจ์ใหญ่ มีไฟหน้าตาเพชร เครื่องดีเซลใหญ่ขึ้นเป็น 3.0 เทอร์โบ 4JH1-T กำลัง 120 แรงม้า และมีการเปิดโรงงานอีซูซุแห่งที่ 2 ตรงนิคมเกตเวย์ฯ จ.ฉะเชิงเทรา
เปิดตัวปี 2002 ฉลองครบรอบการผลิตรถกระบะอีซูซุอย่างเดียวได้ครบ 1 ล้านคัน เป็นโฉมที่แนะนำชื่อดีแมกซ์ให้โลกได้รู้จักเป็นครั้งแรก และแนะนำรุ่นขับสองยกสูงเป็นครั้งแรกก่อนใครกับรุ่น Hi-Lander ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลเพิ่มระบบคอมมอนเรลมาให้เป็นครั้งแรก รหัส 4JJ1-TC ความจุ 3.0 ลิตร กำลัง 146 แรงม้า กับรหัส 4JK1-TC ความจุ 2.5 ลิตร กำลัง 116 แรงม้า
อีซูซุ มิว-เซเว่น เปิดตัวครั้งแรกปลายปี 2004 ใช้พื้นฐานของ D-Max มีการคิดค้นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 3.0 ลิตรมาใช้เป็นครั้งแรก โดยติดระบบอัดอากาศ turbo intercooler ให้กำลัง 146 แรงม้า โดยมีช่วงล่างหลังเป็นแหนบ ที่ปรับปรุงให้นิ่มกว่ากระบะ รุ่นนี้ขายได้ดีในกลุ่มลูกค้าชอบโดยสารเต็ม 7 คน เพราะเบาะหลังนั่งสบาย
โฉมโมเดลเชนจ์ของรถกระบะรุ่นดัง เปิดตัวในปี 2011 ใช้ไอเดียการดีไซน์จากรถไฟหัวกระสุนในญี่ปุ่น ใช้เครื่องดีเซล 2.5 VGS Turbo กำลัง 136 แรงม้า หรือเครื่องดีเซล 4 สูบ 3.0 VGS Turbo กำลัง 177 แรงม้า ทำยอดขายดีมาก ทำให้ในปีต่อมาต้องเปิดโรงงานที่นิคมเกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา และสามารถฉลองการผลิตรถอีซูซุครบ 3,000,000 คันได้สำเร็จในปี 2012
โฉมโมเดลเชนจ์เปิดตัวในปี 2014 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 50 ปีของบริษัทแห่งนี้ในไทย เจเนอเรชั่นที่ 2 ของรถพีพีวีค่ายนี้ เปลี่ยนช่วงล่างหลังไปใช้คอยล์สปริงเป็นครั้งแรกของอีซูซุ โดยมีราคาเปิดตัวอยู่ระหว่าง 1,044,000-1,419,000 บาท ยังใช้เครื่องเดียวกับ 2012 D-Max และต่อมาในปี 2014 ก็ได้เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ใหม่ 1.9 Ddi กำลัง 150 แรงม้า
กระบะพลานุภาพพลิกโลกเปิดตัวเมื่อปี 2019 เปลี่ยนโฉมโมเดลเชนจ์อีกครั้งในชื่อเดิม ใช้เครื่องดีเซลรหัส RZ4E-TC หรือรู้จักกันในชื่อ Blue Power ความจุ 1.9 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า โดยยังมีเครื่องดีเซล 3.0 ลิตร 177 แรงม้าเช่นเคย
2021 อีซูซุ มิว-เอกซ์ เปิดตัวเจเนอเรชั่นที่ 3 ของรถพีพีวีค่ายนี้เมื่อ 2020 มีจุดเด่นที่การใส่ระบบช่วยขับขี่มาเต็มรูปแบบ ด้วยกล้องหน้าคู่ ยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 และ 3.0 เช่นเดิม ขายในไทยด้วยราคาตั้งแต่ 1,109,000-1,579,000 บาท
ในปี 2020 เป็นปีที่ได้รับผลกระทบโรคระบาดกันอย่างถ้วนหน้า ทำให้โรงงานอีซูซุต้องหยุดชั่วคราว เพราะขาดอะไหล่จากยุโรปมาส่ง อย่างไรก็ตามในปีนี้ รถอีซูซุก็ยังสามารถฉลองการผลิตรถได้ครบ 5,000,000 คันไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับค่ายรถยนต์ที่ปัจจุบันมีรถแค่ 2 รุ่นหลักที่ทำตลาดเท่านั้น การมียอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาดกระบะ และอันดับ 2 ในวงการรถยนต์ไทยทั้งหมด ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมาก สาเหตุเพราะชื่อเสียงด้านดีเซลที่สะสมมานาน ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ของดีไม่ต้องมีใครมาอวย กาลเวลาจะช่วยบอกเองครับ
Timeline ของโรงงานอีซูซุในประเทศไทย | |
---|---|
1963 | ตั้งโรงงานประกอบรถบรรทุกที่พระประแดง |
1966 | ก่อตั้งบริษัทอีซูซุในไทยอย่างเป็นทางการ |
1974 | เริ่มประกอบรถกระบะออกขายเป็นครั้งแรก |
1985 | รถกระบะ KB เปิดตัวรุ่น Spacecab |
1988 | เปิดตัวรถกระบะ TFR |
1997 | ฉลองผลิตรถอีซูซุครบ 1,000,000 คัน |
1997 | เปิดตัวรุ่น Dragon Eye |
1997 | เปิดโรงงานแห่งที่ 2 ในฉะเชิงเทรา |
2002 | ฉลองผลิตรถกระบะครบ 1,000,000 คัน |
2002 | เปิดตัวรถกระบะ D-Max |
2004 | เปิดตัว MU-7 |
2007 | ฉลองผลิตรถอีซูซุครบ 2,000,000 คัน |
2011 | เปิดตัวรถกระบะ D-Max เจเนอเรชั่น 2 |
2012 | ฉลองผลิตรถอีซูซุครบ 3,000,000 คัน |
2013 | เปิดตัว MU-X |
2016 | ฉลองผลิตรถอีซูซุครบ 4,000,000 คัน |
2019 | เปิดตัวรถกระบะ D-Max เจเนอเรชั่น 3 |
2020 | เปิดตัวรถ MU-X เจเนอเรชั่น 2 |
2020 | ฉลองผลิตรถอีซูซุครบ 3,000,000 คัน |
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}