หลายคนชอบรถเบนซ์สปอร์ตเพราะทรงสวย แต่สภาพถนนไม่อำนวยให้ขับรถเตี้ย ดังนั้นบางคนอาจจะสงสัยว่า จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อรวม Mercedes-benz SLK เปิดประทุน เข้ากับรถลุย Mercedes-benz G-Class มีคนทำออกมาแล้วตอนนี้
หากคุณต้องการรถลุยพื้นที่โหดระดับทุรกันดาร พร้อมเดินทางไกลได้เกิน 200,000 กม.ทั่วประเทศ หลายคนอาจจะเลือกรถสมบุกสมบัน เช่น Ford Ranger raptor หรือ Toyota Land Cruiser ซึ่งมีรูปทรงที่บึกบึนและแข็งแรง แต่สำหรับคู่หูนักผจญภัยรายนี้ เขากลับเลือกความสวยงามควบคู่ไปด้วยกันดังนั้น ยานพาหนะบุกตะลุยในอุดมคติของพวกเขาคือ Mercedes-benz SLK ที่ประกับช่วงล่างรถออฟโรดเข้าด้วยกัน
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
เลือก SLK มือสอง
การสร้างสรรค์นี้พัฒนาขึ้นโดย Jim Rogers และ Paige Parker ที่ต้องการใช้รถยนต์เพื่อเดินทางรอบโลก โปรเจคนี้ไม่ได้ทำกันเองเล่น ๆ พวกเขาหันไปหาบริษัท Prisma Design International ซึ่งตั้งอยู่ในแคลิฟอร์เนีย การออกรถลุยที่มีรูปทรงตัวถังสวยงาม พวกเขาจึงใช้ตัวถังของรถสปอร์ต SLK มือสองรหัสตัวถัง R170 เพราะเป็นรถสปอร์ตตราดาวที่มีราคามือสองถูกที่สุด และยังมีรูปทรงสวยงามแบบโรสเตอร์ สาเหตุที่ต้องเป็นเบนซ์ เพราะเข้าตั้งใจมัดรวมเข้ากับแชสซีด้านล่าง บนพื้นฐานของ Mercedes-benz G-Wagen
สเปคแบบ G-class
การมัดรวมรถเบนซ์ 2 ตัวถังเข้าด้วยกันนี้ ถูกเรียกชื่อโปรเจคนี้ว่า Millennium Mercedes โดยมีสเปคทางเทคนิคแบบเดียวกับรุ่น G300d ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 3 ลิตร 6 สูบที่ให้กำลัง 177 แรงม้า เมื่อจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด รถจะสร้างแรงบิด 244 ปอนด์-ฟุตที่ 3,600 รอบต่อนาที ซึ่งขับเคลื่อนผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของ G-Wagen
ยกสูงใส่ยางใหญ่
จากนั้นโครงตัวถังของ SLK รุ่นปกติจะถูกยึดไว้ด้านบน คงรูปร่างโรสเตอร์แบบ SLK รุ่นดั้งเดิม แต่มีความสูงของรถที่ยกขึ้นประมาณหนึ่งฟุต ด้วยความสูงของใต้ท้องรถที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้รถ Millennium Mercedes มีพื้นที่ซุ้มล้ออัลลอยใหม่ Mercedes ขนาด 18 นิ้ว ซึ่งหุ้มด้วยยาง AT ของ Bridgestone Dueler พร้อมใส่บังโคลนขนาดใหญ่รับกับยางล้อรถ นอกจากนี้ยังดัดแปลงถังเชื้อเพลิงขนาด 145 ลิตร ซึ่งทำให้มีระยะทางประมาณ 1,000 กม.
ต้นแบบรถเก๋งยกสูงในปัจจุบัน
ทีมงานใช้เวลาสร้างทั้งหมดสามเดือนจึงจะเสร็จ รวมถึงการสร้างรถพ่วงสีเหลืองที่เข้าชุดกัน ซึ่งสามารถลากสัมภาระเพิ่มเติมได้จริง เมื่อรถพร้อมแล้ว เจ้าของรถก็พา Millennium Mercedes ไปผจญภัยรอบโลก ระหว่างทาง ทั้งคู่ได้เยี่ยมชมประเทศต่างๆ 116 ประเทศ ซึ่งเดินทางมากกว่า 240,000 กม. ตั้งแต่ปี 1999-2002 นับเป็นรถที่มีชื่อเสียงมาก เพราะสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลังหันเอาดัดแปลงรถเก๋งเป็นรถยกสูงในปัจจุบันนี้
อ่านเพิ่มเติม : เก๋งยกสูง เทรนด์แต่งรถบ้านให้ลุยได้ ทำได้ยังไง มีข้อเสียไหม และราคาเท่าไหร่ บอกทุกเรื่องที่ต้องรู้
คุณกัส ผู้จำชื่อรถได้หมดตั้งแต่เด็ก ขับรถเป็นตั้งแต่มัธยม ซ่อมรถใช้เองตอนปริญญาตรี สะสมรถคลาสสิคและรถหายาก ทำงานเรื่องรถมานาน 5 ปี ผ่านการอบรมขับขี่ปลอดภัยจาก Sach มีรถทดสอบผ่านมือมาตั้งแต่รถกระบะ รถเก๋ง จนถึงรถสปอร์ต งานอดิเรกก็แค่ซ่อมรถสะสมที่มีอยู่ ติดตามชีวิตคนบ้ารถได้ที่กลุ่ม
https://www.facebook.com/groups/97434297973776
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });