• เครื่องยนต์ใหม่ ใส่แบตเตอรี่ลูกใหญ่ขึ้น
• เปลี่ยนยางใหม่ ใส่ห้องโดยสารทันสมัย
• ชุดแต่ง AUTECH Japan มีให้เลือกแล้ว
• ราคาจำหน่าย 7.59-9.49 แสนบาท
• เป็นรถอีกรุ่นที่น่าสนในในเซกเมนต์

Nissan Kicks (นิสสัน คิกส์) คือหนึ่งในรถยนต์ที่ Nissan (นิสสัน) เคยหมายมั่นปั้นมือว่าจะมาสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับตลาดครอสโอเวอร์ในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีแบบใหม่ที่เรียกว่า e-POWER (อี-พาวเวอร์) ที่ได้รับความนิยมและเสียงชื่นชมอย่างมากจากหลายประเทศทั่วโลก

แต่เมื่อมาถึงตลาดปราบเซียนอย่างประเทศไทย จะด้วยเพราะการสื่อสารทางการตลาดที่ทำให้ลูกค้าเกิดความสับสน หรือแม้แต่การแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งมากหน้าหลายตา ทำให้คิกส์นั้นเรียกว่ามียอดจำหน่ายที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อยู่ในกลุ่มรั้งท้ายของเซกเมนต์มาโดยตลอด

แต่นิสสันก็ไม่ได้ยอมแพ้ และก็มุ่งมั่นที่จะเดินหน้ากันต่อไปกับการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ครั้งใหญ่ของคิกส์ ที่เปิดตัวกันอย่างเป็นทางการไปเป็นที่เรียบร้อย โดยมีการเปลี่ยนแปลงหลายเรื่องที่ดีขึ้นอย่างมาก และทำให้คิกส์กลายเป็นสินค้าที่น่าสนใจมากขึ้นกว่ารุ่นเดิมไปในทันที

มีอะไรที่พัฒนาขึ้นมาบ้างนั้น มาชมกันได้เลย...

เครื่องยนต์ปรับใหม่ พร้อมแบตใหม่ใหญ่ขึ้น

การปรับปรุงเครื่องยนต์ในครั้งนี้ ถือเป็นการปิดจุดอ่อนเดิมที่ลูกค้าเคยบ่นในเรื่องของเครื่องยนต์ทำงานมากเกินไปในรุ่นก่อนหน้านี้ โดยพวกเขาได้ทำการเพิ่มแบตเตอรี่เป็นขนาด 2.06 กิโลวัตต์ชั่วโมง เพื่อให้บรรจุไฟฟ้าได้มากขึ้น ลดการทำงานของเครื่องยนต์ลง และได้มีการปรับบาลานซ์ของรถ ด้วยการรวมอินเวอร์เตอร์และมอเตอร์เข้าเป็นชิ้นเดียวกัน ส่งผลให้มีขนาดที่เล็กลง 40% และน้ำหนักลดลง 30% ชดเชยกับน้ำหนักแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นมา เมื่อเครื่องยนต์ลดการทำงานลง ก็จะลดแรงสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนระหว่างการขับขี่ลงไปด้วยพร้อม ๆ กัน

อ่านเพิ่มเติม: รู้จักวิศวกรผู้อยู่เบื้องหลัง Nissan e-Power “สร้างขุมพลังนี้ยากกว่าที่คิด”

ปรับอี-เพดดัล สเต๊ป หยุดนิ่งไม่ได้แล้ว แต่สมูทขึ้นกว่าเดิม

นิสสันได้รับฟังเสียงบ่นเรื่องแรงกระชากของอี-เพดดัลที่ใช้ในรุ่นก่อนหน้านี้ และทำการปรับปรุงมาเป็น e-Pedal Step แบบใหม่ ที่ให้การตอบสนองที่ดีขึ้นกว่าเดิม ลดแรงกระชากเวลาชะลอความเร็วที่หลาย ๆ คนไม่ชอบลงไปได้อย่างมาก แต่แลกมากับการที่ไม่สามาถชะลอรถจนหยุดนิ่งได้เหมือนที่ผ่านมา โดยรถจะชะลอได้ถึงความเร็วประมาณ 5 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งจากที่ทดลองขับมา ต้องถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ถูกจุด เพราะมันทำให้การขับขี่ในโหมดสปอร์ตนั้น สนุกสนานและตอบสนองอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นอย่างชัดเจน

เปลี่ยนยางใหม่ นุ่มกว่าเดิม เงียบขึ้นอย่างมหาศาล

ใครที่เคยบ่นเรื่องการตอบสนองของช่วงล่างแบบแข็งกระด้าง รวมถึงเสียงที่เข้าทางพื้นห้องโดยสารค่อนข้างมาก ขอบอกเลยว่าคิกส์รุ่นใหม่ได้รับการเปลี่ยนรองเท้าใหม่เป็นที่เรียบร้อย โดยหันมาคบหาสมาคมกับยาง Continental ซึ่งทีมงานคุยโวว่าเป็นยางที่ผลิตและนำเข้ามาจากยุโรปเพื่อใช้กับคิกส์รุ่นใหม่โดยเฉพาะ ผลที่ได้ก็คือ การตอบสนองของยางที่คมกริบ ขับสนุกขึ้นกว่าเดิม และยังเก็บเสียงได้เนี๊ยบขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งนิสสันจะให้ยางชุดนี้กับคิกส์รุ่นใหม่ไปเลย แต่ไม่แน่ใจว่า เมื่อลูกค้าต้องเปลี่ยนยางอีกครั้ง มันจะราคาสักเท่าไหร่กันเชียวสำหรับยางชุดนี้

อ่านเพิ่มเติม: Nissan Kicks สามารถขับได้ 10 ปีไม่จำกัดระยะทาง โดยแบตเตอร์รี่ยังได้ประกันศูนย์

ภายนอกตกแต่งนิดหน่อย แต่ขอขายเวอร์ชั่น AUTECH

ในรุ่นมาตรฐานนั้น มีการตกแต่งภายนอกของรถแบบไม่มากนัก เรียกว่ามองผ่าน ๆ ก็เกือบจะเหมือนกับคันเดิมนั่นล่ะ แต่จุดที่สังเกตุได้ชัดเจนที่สุดก็คือด้านท้ายรถที่มีการติดตั้งแผงทับทิมสีแดงเชื่อมต่อชุดไฟท้ายเข้าหากัน เพิ่มความสะดุดตา และเป็นครั้งแรกกับการเปิดตัวเวอร์ชั่นออเทค เจแปน ที่มาพร้อมสเกิร์ตหน้า ข้างและสีเงิน กระจกมองข้างสีเงิน ล้ออัลลอยสีดำเงาขนาด 17 นิ้ว ซึ่งหากไม่ได้ต้องการความโฉบเฉี่ยวอะไรขนาดนั้น ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเลือกเวอร์ชั่นออเทคก็ได้ แค่รุ่นที่ขายอย่างวีแอลก็มีออพชั่นครบ ๆ ไม่ได้แตกต่างอะไรกันแล้ว

ห้องโดยสารปรับมาน่าใช้ หัวเกียร์ใหม่แจ่มกว่าเดิม

ห้องโดยสารยังคุมโทนด้วยสีดำเป็นหลัก และมีการออกแบบสำหรับออเทคโดยเฉพาะเหมือนเดิม กับการเดินด้ายสีน้ำเงินรอบคันรถ ที่เอาจริง ๆ ยังให้ความรู้สึกแบบขรึม ๆ มากกว่าสปอร์ตเหมือนเดิม หน้าจอกลางรองรับแอนดรอยด์ออโต้เสียที โดดเด่นเป็นพิเศษที่หัวเกียร์ที่ถูกเปลี่ยนจากแป้นทรงสูงมาเป็นแป้นเหลี่ยมแบบบาง ที่มีไฟแอลอีดีล้อมรอบดูสะอาดตา ปรับมาใช้ช่องวางแก้วแบบปรับขนาดได้ ทำให้วางได้ตั้งแต่แก้วกาแฟไซส์แกรนเดไปยันแก้วเก็บความเย็นทรงสูง ขณะที่บรรยากาศห้องโดยสารโดยรวมมีความพรีเมียมมากขึ้นกว่าเดิมพอสมควร

นอกจากนี้ ก็มีการเพิ่มระบบความปลอดภัยอย่างระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน และระบบไฟสูงอัตโนมัติ ปรับมามากมายแบบนี้ ขอให้ขายดีขึ้นเสียทีนะ...