2021 Mazda BT-50 รวม 5 เรื่องสำคัญ ก่อนเปิดตัวในไทย ระบบเบรคอัตโนมัติต้องมาแล้วงานนี้

2021 Mazda BT-50 (มาสด้า บีที 50) โฉมใหม่โมเดลเชนจ์เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 เป็นการพลิกพื้นฐานใหม่หมดจรดจาก Isuzu D-max มาเป็นพันธมิตรล่าสุด คราวนี้เรากำลังจะได้เห็นภาพคันจริงในไทย ที่กำลังจะเปิดพรีวิวรอบสื่อมวลชนวันที่ 19 ธันวาคม 

ก่อนจะถึงวันเปิดผ้าคลุมในไทยนั้น เรามาดูข้อมูลที่ขุดมาจากสเปคจำหน่ายจริงในประเทศออสเตรเลีย ที่มี 5 เรื่องสำคัญที่คนไทยจะได้พบเจอในรถคันนี้

ดีไซน์สเปคนอก

จากภาพทีเซอร์ที่ทางมาสด้าปล่อยออกมานั้น เผยให้เห็นแค่ด้านหน้าที่มีเอกลักษณ์การออกแบบ Kodo Design ตามอย่างรถเก๋งและเอสยูวีในค่าย ทำกระจังหน้าทรงห้าเหลี่ยม ใส่ลายแถบตรงแนวนอน มีไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED กับไฟตัดหมอกดีไซน์ทรงตั้ง ซึ่งเป็นสเปคเดียวกับที่ขายในออสเตรเลีย

ปกป้องคนเดินเท้าน้อยกว่าดี-แมคซ์

การทดสอบชนคนของ Mazda BT-50 ทำแต้มน้อยกว่ากระบะดี-แมคซ์ ที่เป็นฝาแฝดพื้นฐานเดียวกัน โดยทาง BT-50 ทำได้ 67% ของคะแนนเต็ม ส่วนดีแมคซ์ทำได้ 69% ของคะแนนเต็ม สาเหตุเพราะชิ้นส่วนกระจังหน้าและบานพับากระโปรงหน้า ยังซับแรงชนได้ไม่ดีนัก

ใช้เครื่องดีเซล 3.0

เครื่องยนต์ของ 2021 Mazda BT-50 ก็หยิบยืมมาจากมิตรสหายอีซูซุ เป็นบล็อกดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และอาจจะได้เกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีทั้งขับเคลื่อนล้อหลัง และขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำอัตราการกินน้ำมันอยู่ประมาณ 12.5 - 12.9  กม./ลิตร

มีตัวถังแบบแชสซีส์ให้เลือก

2021 Mazda BT-50 จะมีการทำตัวถังตอนเดียวหรือซิงเกิลแค็บ และแบบตอนครึ่งหรือเอ็กซ์ตร้าแค็บ ตามแผนการตลาดของสายกระบะ ที่ต้องเอาใจความนิยมในบ้านเรานิยม และที่น่าสนใจกว่านั้น ยังมีรุ่นเปลือยท้าย เหลือแต่แชสซีส์ ขายในประเทศออสเตรเลียเอาไปตัดแปลงใส่กระบะพื้นเรียบ หรือใส่ตู้บรรทุก ให้ความอเนกประสงค์ไปอีกด้วย

มีระบบเบรคอัตโนมัติ

BT-50 สเปกออสเตรเลียจะมีระบบความปลอดภัยมาตรฐานครบครัน โดยเฉพาะระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อพบสิ่งกีดขวางด้านหน้า พร้อมสามารถตรวจจับผู้ใช้ทางเท้าและจักรยาน นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่สุดไฮเทคดังนี้

• ระบบควบคุมความเร็วแปรผันได้

• ระบบเตือนมุมอับสายตา

• ระบบเตือนรถขวางด้านหลัง

• ระบบควบคุมรถอยู่ในเลน

ราคาจำหน่ายอาจจะยังไม่มีการเปิดออกมาในตอนเผยโฉมครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าราคาน่าจะสูงกว่ากับฝาแฝด Isuzu D-max อยู่เล็กน้อย ตามสไตล์มาสด้าที่ไม่ลงไปแข่งขันด้านราคา แต่ชูภาพลักษณ์ความหรูและไฮเทคมาโดยตลอด และในการเปิดตัวรถกระบะครั้งนี้ เราอาจจะได้เห็นการชูเทคโนโลยีระบบเบรคอัตโนมัติ หรือถุงลมนิรภัย 8 ใบรอบคัน แบบในสเปคขายออสเตรเลียก็เป็นได้