Review 2021 Nissan Navara VL 1.129 ล้านบาท หน้าหล่อ เครื่องดีขึ้น ระบบแน่น พร้อมรบ Triton / Ranger / BT-50

2021 Nissan Navara ไมเนอร์เชนจ์แบบจัดเต็ม

2021 Nissan Navara (นิสสัน นาวาร่า) เปิดตัวมาแบบครบไลน์อัพในทุกรูปแบบตัวถัง เพื่อหวังที่จะท้าชิงอันดับ 3 ของตลาดปิกอัพในไทย แข่งกับ Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) และผู้ท้าชิงรายล่าสุดอย่าง Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) 

การเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ก็คือการปิดจุดอ่อนต่าง ๆ ของตัว Nissan (นิสสัน) เอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปร่างหน้าตาที่โดนหาว่าไม่ดุดันพอเมื่อเทียบกับคู่แข่ง คราวนี้นิสสันเลยจัดเต็มด้านรูปร่างหน้าตาของรถ ด้วยการเปลี่ยนดีไซน์ด้านหน้าเป็นหลัก พร้อมมีรุ่นตกแต่พิเศษให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ

สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอีกอย่างก็คือการเลือกใช้เครื่องยนต์ 2.3 เทอร์โบที่ใช้มาก่อนใน Nissan Terra (นิสสัน เทอร์ร่า) ซึ่งเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังใหม่นี้ ทำให้รถกระบะของค่ายมีพละกำลังและเรี่ยวแรงที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับคู่แข่งได้เสียที แม้จะไม่โดดเด่นนำหน้าไปก็ตาม

พัฒนาสำหรับการขับขี่ทั้ง on-road และ off-road

นอกจากนี้ นิสสันยังได้จัดเต็มระบบความปลอดภัยเพิ่มขึ้นมาให้กับรถคันนี้แบบเต็มพิกัด เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้นิสสัน นาวาร่า ใหม่มีความน่าใช้งานอย่างเต็มพิกัด แน่นอนว่ามันมาพร้อมกับราคาค่าตัวที่เพิ่มขึ้น อย่างรุ่นวีแอลที่เอามาทดสอบก็มีค่าตัวสูงถึง 1.129 ล้านบาท

การทำรถยนต์แบบไมเนอร์เชนจ์ให้มีความใหม่หมดจดทั้งรูปลักษณ สมรรถนะและระบบความช่วยเหลือด้านการขับขี่ จะทำให้นิสสันขึ้นไปแข่งขันกับคู่แข่งแบรนด์อื่น ๆ สนุกขึ้นอย่างแน่นนอน แต่จะดีพอทำให้พวกเขาขึ้นไปท้าทายได้ถึงตำแหน่งไหน ต้องมาดูการตอบรับจากลูกค้าอีกที

แต่บอกเลยว่าลืมนิสสันอืด ๆ ช่วงล่างแน่น ๆ เก่า ๆ ไปได้เลย...

มีรายละเอียดการปรับเปลี่ยนที่น่าสนใจหลายจุด
ราคาจำหน่าย
Nissan Navara 2.3T VL 1.129 ล้านบาท

กระจังหน้าใหม่คือเอกลักษณ์ที่โดดเด่น

Highlight ใน 2021 Nissan Navara VL

  • การออกแบบด้านหน้าที่สปอร์ต ดุดัน มากขึ้น
  • ห้องโดยสารใหม่เน้นความสบายในการใช้งาน
  • เปลี่ยนมาใช้งานเครื่องยนต์ 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่
  • กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร
  • ระบบความปลอดภัยติดตั้งมาอย่างครบครัน

ผมคิดว่านี่คือนาวาร่าที่หล่อและดุที่สุดแล้วล่ะ

นิสสัน นาวาร่า ที่หน้าตาดุดันที่สุดในประวัติศาสตร์

แม้จะมีรุ่นแต่งอย่างดุรอบคันอย่าง Nissan Navara Pro4X (นิสสัน นาวาร่า โปร4เอ็กซ์) แต่นั่นก็หมายถึงคุณจะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น และอาจจะต้องเลือกลดฟังชั่นส์อะไรบางอย่างของตัวรถไป ในการใช้งานรถจริง ๆ แบบสิงห์กระบะก็อาจจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานที่สุด

สิ่งที่คุณจะได้จากนาวาร่า รุ่นวีแอลก็คือการออกแบบภายนอกที่ดูคล้ายโปร4เอ็กซ์ ขาดแค่การตกแต่งสีสีในรูปแบบต่าง ๆ และได้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วที่ดูบึกบึนกว่าล้อ 17 นิ้วในรุ่นท็อปสุด ยางนั้นเปลี่ยนกันได้ไม่ใช่ปัญหา เรียกว่าในเชิงอุปกรณ์ วีแอลถือว่าครบครันเสียมากกว่าด้วยซ้ำ

รูปลักษณ์ภายนอกนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการที่ด้านหน้าของรถ ด้วยการเลือกใช้กระจังหน้าสีดำขนาดใหญ่มาก ติดตั้งโลโก้พร้อมกล้องตัวหน้าที่ใต้โลโก้ขนาดใหญ่ ขยายขนาดของแถบสีเงินรูปตัว V ออกไป พร้อมติดตั้งแถบสีเงินพร้อมตัวอักษร NAVARA บนขอบฝากระโปรง

ถ้าซื้อ VL ก็จะได้ล้ออัลลอย 18 นิ้วลายนี้เลย

ชุดแต่งที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของวีแอลนั้นดูแข็งแกร่งและบึกบึน เน้นความหนาของชุดแต่งให้ดูแข็งแรง ชุดกรอบโคมไฟหน้าแบบใหม่ มาพร้อมไฟส่องสว่างกลางวันแบบแอลอีดีรูปตัว C พร้อมชุดไฟแบบก้อนน้ำแข็ง 4 ก้อนที่ติดตั้งอยู่ในกรอบเดียวกันทั้งหมด เป็นจุดเด่นของรถ

กระจกมองข้างมาพร้อมไฟเลี้ยวที่ติดตั้งที่กรอบกระจก พร้อมด้วยกล้องขนาดเล็กซ่อนอยู่ที่ด้านล่างทั้ง 2 ข้าง มือเป็นประตูสีโครเมียม มาพร้อมกับระบบสมาร์ท เอนทรี บานประตูนั้นเปิดไม่ได้กว้างมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ก้าวขึ้น-ลงรถลำบาก เพราะมีมือจับด้านในช่วยให้เหวี่ยงตัวขึ้นไปนั่งได้

แผงโลหะปั้ม NAVARA เจอทั้งกระโปรงหน้าและท้าย

นิสสัน นาวาร่า วีแอล ยังมาพร้อมอุปกรณ์ภายนอกเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกาบบันไดด้านข้างสีดำ หรือแร็คหลังคาสีเงินที่สามารถบรรทุกของได้เพิ่มเติม ด้ายท้ายมาพร้อมฝากระโปรงที่ติดตั้งกล้องตัวที่ 4 ที่บานเปิดฝาท้าย มาพร้อมระบบผ่อนแรงในการเปิด-ปิด

เสาอากาศแบบแท่งเล็กยาว ดูน่าจะเกะกะเวลาเข้าอาคารเตี้ย ๆ ใช้ได้ ไฟเบรกดวงที่สาม บันไดท้ายสำหรับการปีนขึ้นกระบะท้าย ด้านล่างของฝากระบะมาพร้อมแถบที่ปั้มตัวอักษร NAVARA โดดเด่น ไฟท้ายออกแบบมีมิติชัดเจน พร้อมฮุคที่ติดตั้งมาในฝาท้าย และล้ออะไหล่ติดตั้งใต้ฝากระบะ

มิติตัวถัง
กว้าง 1,850 มิลลิเมตร
ยาว 5,260 มิลลิเมตร
สูง 1,845 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ 3,150 มิลลิเมตร
ความสูงใต้ท้องรถ 230 มิลลิเมตร

ของที่ตัดออกไปก็ดูน่าเสียดายหลายจุด

เปลี่ยนภายใน-เพิ่มออพชั่นจาก Nissan Navara เดิม

ห้องโดยสารของ Nissan Navara นั้นให้ความสะดวกสบาย ใช้งานได้อย่างง่ายดายมาตั้งแต่รุ่นเดิม และเมื่อทำการปรับโฉม ทีมงานของนิสสันเองก็ไม่ได้ปรับแต่ภายนอกของตัวรถ แต่การออกแบบภายในห้องโดยสารนั้น ก็มีการปรับปรุงค่อนข้างมากจนรู้สึกได้ เมื่อก้าวเข้ามาในพื้นที่ภายในตัวรถ

ที่ด้านหน้าของรถนั้นมีการเพิ่มและลดอุปกรณ์ลงไปหลายจุด สิ่งที่หายไปจากรุ่นเดิมก็คือที่วางแก้วน้ำด้านหน้าช่องแอร์ฝั่งซ้าย-ขวาของตัวรถ และถาดวางของด้านหน้ารถที่มีจุดชาร์จไฟที่ปกติแล้วจะเอาไว้ต่อกับกล้องมองหน้ารถที่ติดเพิ่ม งานนี้ใครจะใช้ต่อก็ต้องเดินสายไฟกันให้ดีดี

สิ่งที่เพิ่มมาบ้าง หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วตรงกลางรถนั้น มาพร้อมกับระบบ Nissan Connect ที่รองรับทั้งการเชื่อมต่อของ Apple CarPlay และ Android Auto เป็นที่เรียบร้อย สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงแค่เสียบสายเข้ากับช่องเสียบยูเอสบีที่ติดตั้งอยู่ใต้ปุ่มเปลี่ยนระบบขับเคลื่อน

เบาะหนังแบบปั้มแปลก ๆ แต่นั่งได้ดีขึ้น

พวงมาลัยนั้นถูกออกแบบให้มีมิติและเหลี่ยมมุมมากขึ้น พร้อมกับการจัดวางปุ่มควบคุมต่าง ๆ บนพวงมาลัยให้สามารถใช้งานได้ง่ายดายขึ้น มาตรวัดแบบอนาล็อก ตรงกลางเป็นหน้าจอดิจิตอลขนาดเล็กที่แสดงผลข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงการควบคุมระบบก็สามารถทำได้ผ่านปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย

การตกแต่งของห้องโดยสารพยายามเน้นความหรูหรามากขึ้น การเปลี่ยนโทนสีจากเดิมที่ใช้ดำ-เทาสลับโครเมียม ก็มีการเพิ่มสีสว่างในห้องโดยสารมากขึ้น และแน่นอนว่าเบาะที่นั่งลายพิมพ์ 3 มิตินั้นให้ความสบาย การรองรับน้ำหนัก แผ่นหลังและช่วงก้นของผู้โดยสารได้อย่างดีทั้งตอนหน้าและหลัง

ช่องแอร์ตอนหลังปิดได้ พร้อมที่ชาร์จไฟ 1 จุด

ห้องโดยสารตอนหลัง นอกจากจะได้เบาะลายรังผึ้งเหมือนกับตอนหน้า ยังมีการติดตั้งที่วางข้อศอกที่พับได้ พร้อมช่องวางแก้วน้ำอีก 2 แหน่ง มีช่องอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังที่กึ่งกลางรถ พร้อมด้วยที่ชาร์จไฟด้วยระบบยูเอสบี ทำให้สามารถเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารมากขึ้น

สรุปแล้ว ห้องโดยสารของนาวาร่าใหม่นั้นให้บรรยากาศไม่ได้แตกต่างจากรุ่นเดิม แถมของที่หายไปก็เป็นของที่ผมเองค่อนข้างชอบ แต่ก็แลกมากับเบาะที่รับน้ำหนักตัวได้ดีกว่า เบาะฝั่งคนนั่งนี่จะหวงไฟฟ้าไว้ทำไมก็ไม่รู้ ส่วนเบาะคนขับก็ปรับได้ไม่ค่อยละเอียด ไหนจะบังลมหน้าไม่มีกระจกกับไฟอีก

เครื่องยนต์หยิบยืมมา แต่คล่องตัวกว่าเดิม

เครื่องยนต์ยืมเทอร์ร่ามา ไม่อืดอาดด้วยตัวถังเบาลง

ในวันที่บอกหลาย ๆ คนว่านิสสันไปเอาเครื่องยนต์ของ Nissan Terra มาใส่ในรถกระบะของพวกเขา หลาย ๆ คนถึงขั้นถามเลยว่าจะไหวหรือ เพราะตอนที่อยู่ในเทอร์ร่านั้น เอาจริง ๆ ก็ไม่ใช่เครื่องยนต์ที่ให้การตอบสนองที่ปรู๊ดปร๊าดดีเยี่ยมเท่าไหร่ ก็แหงล่ะ รถมันหนักขนาดนั้น

แต่พอมาอยู่บนตัวถังของนาวาร่าที่เบากว่าอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนว่าทีมวิศวกรของนิสสันได้พยายามทำให้เครื่องยนต์มีความกระฉับกระเฉงในการขับขี่เพิ่มมากขึ้น การออกตัวนั้นลื่นไหล การสับเกียร์เป็นไปอย่างคล่องแคล่ว เรียกว่าทำความเร็วต้นถึงกลางได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง

ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเจ้าเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ เทอร์โบคู่ รหัส YS23DDTT ซึ่งเป็นรุ่น High Power ในตัววีแอลที่เรานำมาทดสอบนั้น ถือว่าเด็ดดวงใช้ได้ แม้จะไม่ได้ปรู๊ดปร๊าดสะใจ แต่ถ้าเอาไปวิ่งกับคู่แข่ง ก็น่าจะเบียดได้อย่างสูสีช่วงออกตัว แล้วไปโดนทิ้งช่วงท้าย ๆ ที่ความเร็วสูงเท่านั้น

เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด สับอย่างคล่องแคล่ว

เครื่องยนต์รุ่นที่ยกมาจากเทอร์ร่านั้นยังคงให้สมรรถนะที่ไม่แตกต่างกันเมื่อมาอยู่ในนาวาร่า โดยตามสเปคที่ระบุไว้จะให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,750 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

เอาจริง ๆ ถ้าดูตัวเลขจากสเปคก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากคู่แข่งในท้องตลาดมาก ยกเว้นสองเจ้าที่ลากเครื่องยนต์ผ่านระดับ 200 แรงม้า 500 นิวตันเมตรไปแล้ว อันนั้นปรู๊ดปร๊าดกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อเทียบ ๆ กับรายอื่น ๆ ที่เหลือแล้วก็ถือว่าสู้ได้ โดยเฉพาะเกียร์ลูกนี้จัดว่าตอบสนองดีและไวเลย

ในรถขับเคลื่อน 4 ล้อทุกรุ่น จะมาพร้อมระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบจะส่งแรงไปยังล้อที่ลื่นไถลให้การออกตัวที่ลื่น พร้อมกระจายแรงขับขี่ไปที่ล้อแต่ละข้างเมื่อขับขี่ในโหมด 4H ขณะที่ ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า ช่วยเสริมกำลังฉุดเมื่อขับขี่ในสถานการณ์ที่ต้องการแรงบิดสูงในโหมด 4L

โมโนเฟรมแชสซีทำจากเหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคัน ที่มีชื่อเสียงของ Nissan มาพร้อมระบบช่วงล่างและระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนกคู่พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโครง ขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบแหนบซ้อนพร้อมโช๊คอัพ โดยมีการปรับจูนใหม่สำหรับนาวาร่ารุ่นนี้

อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ผมทำได้ในการขับทดสอลอยู่ 2-3 วันตามจอแสดงผลแบบดิจิตอลก็คือ 12.9 กิโลเมตรต่อลิตร ถามว่าดีไหม ก็ดีเมื่อเทียบกับรถกระบะอีกคันที่ผมใช้งานประจำแต่มีเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่านี้ แต่ถ้าอยากเห็นตัวเลขดีกว่านี้ก็คงต้องคุมรูปแบบการขับขี่ให้สมูทขึ้นกว่าเดิม

ได้มีโอกาสเอารถลงไปลุยในที่ขรุขระพื้นผิวดิน ๆ ป่า ๆ เล็ก ๆ ห้องโดยสารของนาวาร่าที่เน้นความนุ่มสบายนั้นก็ยังไม่ได้แตกต่างจากเดิมเท่าไรนัก มีความรู้สึกว่านุ่มเงียบขึ้นอีกนิดในยามที่ลากผ่านพื้นดินยาว ๆ แต่เอาไว้ขอยืมรถไปลุยป่าอีกรอบ ค่อยทดสอบสมรรถนะออฟโรดอีกทีก็แล้วกัน

จุดที่สวยที่สุดในรถคันนี้ตามความคิดผม
รายละเอียดทางเทคนิค Nissan Navara Vl
เครื่องยนต์ ดีเซล YS23DDTT
ความจุ 2,298 ซีซี.
กำลังสูงสุด 190 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร
ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ 7 สปีด
ระบบเบรก หน้าดิสก์-หลังดรัม
ถังน้ำมัน 80 ลิตร

ระบบความปลอดภัยมีมาให้เพียบ

ความปลอดภัยที่ขอท้าชน Ford Ranger และ Toyota Hilux REVO

ถ้า Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) คือผู้นำด้านระบบความปลอดภัยในรถกระบะในประเทศไทย และมีผู้ที่เดินหน้าตามไปติด ๆ ในการปรับโฉมครั้งล่าสุดอย่าง Toyota Hilux REVO (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) การเพิ่มระบบความปลอดภัยของ Nissan Navara ครั้งนี้ก็เพื่อท้าชิงในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน

นาวาร่านั้นเป็นหนึ่งในผู้นำด้านความปลอดภัยสำหรับรถกระบะเหมือนกัน พวกเขาทำการติดตั้งระบบกล้อง 360 องศามาให้ตั้งแต่รุ่นก่อนหน้านี้ พร้อมด้วยระบบเทคโนโลยีมากมายที่มาในนิสสัน เทอร์ร่า จนกระทั่งเมื่อมีการปรับโฉม รุ่นท็อป ๆ ของนาวาร่าก็ได้รับการถ่ายทอดมาทั้งหมด

ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ประกอบด้วย คู่หน้า ด้านข้างและม่านข้างซ้ายขวารวมถึงบริเวณหัวเข่าของผู้ขับขี่ ระบบกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง ทำงานควบคู่กับเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน ช้กล้อง 4 ตัวเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพวัตถุโดยรอบตัวรถ

มาพร้อมระบบจอมอนิเตอร์ระบบ Off-Road Meter ที่ช่วยให้เห็นอุปสรรครอบคันขณะขับขี่ในโหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อที่จะทำงานอัตโนมัติในโหมด 4L รวมถึงระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวและป้องกันการลื่นไถล ในโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ และระบบควบคุมเสถียรภาพของรถขณะลากจูง

นอกจากนี้ นาวาร่าตัวท็อป ๆ ยังมาพร้อมระบบเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ เพื่อลดความรุนแรง หรือ ลดความเสียหายที่จะเกิดจากอุบัติเหตุ และเทคโนโลยีป้องกันการชนจากจุดอับสายตาอัจฉริยะ ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา 

ระบบเตือนคนขับอัจฉริยะ แจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่หยุดพัก ทำงานร่วมกับระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง และระบบควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทางอัจฉริยะ รวมไปถึงระบบตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน

เอาเป็นว่าใครที่ไม่เคยชินกับการขับรถที่มีการเตือนระบบต่าง ๆ มาก ๆ อาจจะถึงขั้นรำคาญได้กับรถคันนี้ เพราะระบบเตือนเก่งมาก เมื่อมาเจอท้องถนนเมืองไทย แถมบางช่วงก็อาจจะงงงงได้ อย่างตอนที่ผมขับตัว ILI นั้นไม่ทำงานเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะถนนที่เส้นแบ่งไม่ชัดเจนหรือเปล่านะ

ปรับมาดีขึ้นทุกอย่าง แต่อาจจะช้าไปหน่อย

ไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่าการปรับตัวครั้งนี้ของ Nissan Navara ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่หนักหน่วง มหาศาล และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ต้องการจะอัพเกรดตัวเองขึ้นไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นตัว VL ที่เราเอาทดสอบ หรือเจ้า Pro4X ที่มาพร้อมชุดแต่งดุดันที่จะเอามาทดลองกันในอนาคต

การปรับเปลี่ยนรถยนต์ขวัญใจตลาดใช้งานหนักมาให้ท้าทายกับตลาดคนที่ต้องการใช้งานรถกระบะในชีวิตประจำวันหรือตลาดไลฟ์สไตล์ ที่กลายเป็นตลาดที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จึงกลายเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทีมงานของนิสสันต้องทำงานหนัก และผลงานที่ออกมาก็ถือว่าไม่ได้เลวร้ายแล้วในรุ่นนี้

นิสสัน นาวาร่า วีแอล เจ้าของค่าตัว 1.129 ล้านบาท น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าที่มีความสามารถในการซื้อรถกระบะราคาเกิน 1 ล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันเป็นตลาดที่กำลังขยายตัว เพราะกลุ่มลูกค้าที่อยากได้รถที่ได้ทั้งขนคนละขนของ ต่างก็ต้องใช้รถกระบะดับเบิลแค็บทั้งสิ้น

การเลือกใช้เครื่องยนต์ใหม่ ๆ เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องการตอบสนองในการขับขี่ ทำให้พวกเขาได้รถกระบะที่ให้การตอบสนองที่ความเร็วต้นและกลางที่ดี สามารถลากรอบพารถมุดไปบนท้องถนนได้อย่างสนุกสนาน เว้นแต่ย่านความเร็วสูงก็อาจจะหมด ๆ เร็วกว่าคู่แข่งนิดหน่อย

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการใช้งานให้มาอย่างเต็มที่ ทั้งการตอบสนองด้านการใช้งานเพื่อทดแทนรถยนต์นั่ง หรือการตอบสนองความต้องการในการบรรทุกแบกขน เรียกว่าให้มาแบบไม่ต้องไปตกแต่งอะไรเพิ่ม ใส่แค่ไลน์เนอร์ชุดเดียวก็เอาอยู่สำหรับรถกระบะรุ่นใหม่คันนี้

ด้านความปลอดภัยนั้น เอาจริง ๆ ระบบที่ให้มานั้นเหนือชั้นกว่ารถบางคันของค่ายเสียด้วยซ้ำ แถมเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับคู่แข่งมากหน้าหลายตาก็ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้กัน และจุดขายอย่างกล้อง 360 องศาที่มาพร้อมฟังชั่นส์มากมาย รวมถึงความปลอดภัยอื่น ๆ ที่ให้มาอย่างเหนือชั้นก็เป็นเรื่องที่ดี

ปัญหาก็คือ ในขณะที่นิสสันเองเร่งเครื่องตัวเองมานั้น กลับเป็นช่วงที่คู่แข่งรอบด้านต่างอัพเกรดตัวเองขึ้นไปอีกรอบ คนที่แข่งกันที่เครื่องยนต์ระดับสูงสุดก็กดดันไปมากกว่า 200 แรงม้า มี 500 นิวตันเมตรมาให้เห็น ส่วนเจ้า 190 แรงม้า 450 นิวตันเมตรกลับกลายเป็นมาตรฐานธรรมดาไปอย่างน่าตกใจ

เช็คฟอร์มของคู่แข่งกันแล้ว ไม่ต้องไปคิดว่าจะไปแย่งชิงอะไรกับเจ้าตลาดเบอร์ 1 เบอร์ 2 เขาเลย มองกันที่ตลาดเบอร์ 3-6 กัน ในภาพรวมของตัวรถ สมรรถนะ เทคโนโลยี ทั้งหมดนั้น ไม่มีอะไรที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จะมีก็ไทรทันที่ยังเป็นเครื่อง 181 แรงม้า 430 นิวตันเมตรเท่านั้นล่ะ

ด้านภาพลักษณ์ของแบรนด์นั้นก็ไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นออกมา อันนี้เป็นโจทย์ที่ทีมงานนิสสันต้องออกไปคิดเป็นการบ้าน ว่าทำรถออกมาขนาดนี้แล้ว จะทำยังไงให้สามารถฟาดฟันกับคู่แข่งได้อย่างสมน้ำสมเนื้อด้วย เพราะเอาจริง ๆ ถ้ายอดขายไม่กระเตื้องขึ้นอีกก็ต้องถือว่าน่าเสียดายพอสมควร

ล่าสุดเห็นดีลเลอร์จัดโปรหนักอีกแล้ว ใครลังเลอยากได้นี่ช่วงเวลาที่ดีเลยนะ...

THE RIVALS

Ford Ranger 2.0L Bi-Turbo Wildtrak 4x4 10AT ค่าตัว 1.265 ล้านบาท

รุ่นท็อปสุดของกระบะยี่ห้อ Ford (ฟอร์ด) ที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงมากมายในการปรับโฉมครั้งล่าสุดในช่วงปีที่ผ่านมา ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์เข้าไปมากมาย ทั้งเพื่อเน้นความสวยงามและการใช้งานได้จริง โดยมีจุดเด่นที่ชุดแต่งสีดำรอบคัน และฝาท้ายปิดกระบะที่สามารถเปิด-ปิดด้วยรีโมทไฟฟ้า

เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ได้รับการปรับปรุงซีลหน้าเครื่องให้มิดชิด เฟืองปั้มเกียร์ที่แข็งแรง ผนังลูกสูบที่เรียบลื่นขึ้น และทอร์คคอนเวิร์ตเตอร์ที่แน่นหนากว่าเดิมเพื่อลดปัญหาของเครื่องยนต์

ผู้นำด้านระบบความปลอดภัยในรถกระบะของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน และอดีตเจ้าของตำแหน่งรถกระบะที่แพงที่สุดในประเทศไทยหลายสมัย ตัวรถนั้นไม่เคยมีข้อสงสัย แถมยังได้สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยการยืดระยะเวลาการรับประกันออกไปอีก ทำอย่างนี้น่าจะทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น

Mitsubishi Triton ATHLETE 2.4 GT Premium 4WD 6AT ค่าตัว 1.156 ล้านบาท

หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าการที่ใช้เครื่องยนต์ 2.4 ลิตรที่มีตัวเลขสมรรถนะต่ำสุดอาจจะเป็นปัญหาในการทำตลาดของค่าย Mitsubishi (มิตซูชิบิ) แต่เอาเข้าจริง ๆ มีอยู่หลายเดือนเหมือนกันที่พวกเขาสามารถพลิกแย่งชิงอันดับ 3 ทางด้านยอดจำหน่ายของรถกระบะในประเทศไทยได้อย่างสนุกสนาน

ส่วนหนึ่งเพราะฐานลูกค้าของไทรทันนั้นยังพอมีอยู่ และอีกส่วนก็คึอตัวรถของมิตซูบิชินั้นใช้งานง่าย ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรวุ่นวาย แม้เครื่องยนต์ 2.4 ลิตรที่ติดตั้งมาให้ จะให้สมรรถนะสูงสุดแค่ 181 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุดเพียงแค่ 430 นิวตันเมตรเท่านั้น แต่ที่เคยลองขับมาก็ถือว่าไม่เลวร้าย

ระบบความปลอดภัยในรูปแบบของมิตซูบิชิ ที่ให้มาทั้งกล้องมองรอบทิศทาง ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งพลาด ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ระบบเตือนรอบคันรถที่ช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างเต็มที่ เรียกว่าพอจะมาชดเชยกำลังของเครื่องยนต์ที่อาจจะดูน้อยไปหน่อยได้อย่างเนียนตา

Mazda BT-50 Double Cab 3.0 SP AT 4×4 เจ้าของค่าตัว 1.153 ล้านบาท

Mazda (มาสด้า) นั้นพกพาความมั่นใจมาว่าพวกเขาหวังยอดขายรถปิกอัพรุ่นใหม่ในปีแรกถึง 1.5 หมื่นคัน น่าจะเพียงพอที่จะทำให้พวกเขายึดอันดับ 4 อย่างเหนียวแน่น และจะเป็นรากฐานที่สำคัญที่ทำให้พวกเขาสามารถก้าวกระโดดขึ้นไปเป็นเจ้าตลาดอันดับที่ 3 ในประเทศไทยได้ในอนาคต

ด้วยความเชื่อมั่นว่าการร่วมมือกับพันธมิตรใหม่อย่าง Isuzu (อีซูซุ) ที่ยอมให้ใช้พื้นฐานรถปิกอัพยอดนิยมอย่าง Isuzu D-Max (อีซูซุ ดี-แมคซ์) มาพัฒนา และแน่นอนว่าก็ต้องใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร เจ้าของกำลังสูงสุด 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรในรุ่นท็อปเช่นเดียวกัน

ออพชั่นอาจจะดูสู้กับคนอื่นได้ยากสักนิด เพราะมาพร้อมถุงลมนิรภัย 6 ใบ มีกล้องมองด้านหลัง พร้อมเซนเซอร์กะระยะมาให้ ระบบช่วยเหลือในการขับขี่มีให้มากมายพอสมควร แต่การออกแบบถือว่ามีความโดดเด่นตั้งแต่แรก น่าจะได้ใจลูกค้ากลุ่มเน้นหล่อไม่เน้นแรง ได้มากพอสมควรเลยล่ะ

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:
Pisan

หัวหน้าทีมบรรณาธิการ

Head of Content ของ AutoFun Thailand ผู้ใช้ชีวิตกับรถมาตั้งแต่สมัยใส่ขาสั้นไปโรงเรียน ทุกวันนี้รถติดบนถนนมากกว่าวันละ 2-3 ชั่...

พร้อมจัดการซื้อ-ขายรถได้ภายใน 24 ชั่วโมง

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Nissan Navara

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

2021 Nissan Navara VL 1.129 ล้านบาท หน้าหล่อ เครื่องดีขึ้น ระบบแน่น พร้อมรบ Triton / Ranger / BT-50

Nissan Navara 4 ประตู S ราคา 599000 แต่งแล้วเหมือนคันละ ล้าน

รวมแนวทางการแต่ง Nissan Navara รถนอกกระแสแต่แต่งสวย

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

Nissan Navara
เช็คทันที