Mercedes-AMG ยังทำเครื่อง V8 ใช้น้ำมันต่อไปอีก 10 ปีท่ามกลางกระแส EV เราคิดว่านี่เป็นข่าวดี

Mercedes-AMG (เมอเซเดส-เอเอ็มจี) สำนักผลิตรถกำลังสูงให้กับค่ายดาวสามแฉก ได้ออกให้สัมภาษณ์แสดงเจตนาว่า จะยังทำรถยนต์ที่วางเครื่องเบนซิน V8 ต่อไปอีก 10 ปี ท่ามกลางกระแส EV ที่กำลังจะเปลี่ยนวงการรถนี้ เราคิดว่านี่เป็นข่าวดี เพราะนี่คือยุคเปลี่ยนผ่าน และถ้าใครไม่ชอบเครื่องสันดาป ก็ยังมีตัวเลือกเป็น AMG แบบไฮบริด หรือใช้ไฟฟ้าล้วนเพิ่มมาด้วย 

แม้ตอนนี้ AMG มีปัญหากับบล็อกเบนซิน V8 ที่บางตัวมีปัญหาด้านคุณภาพ ในรถยนต์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตามหัวหน้าแผนกสมรรถนะของ Mercedes คือนาย Philipp Schheimer ยังออกให้สัมภาษณ์ว่าเครื่องยนต์ Twin-turbo 4.0 ลิตรนี้ ยังคงมีอนาคตไกล แม้ว่าบริษัทแม่ Daimler จะเลิกทำเครื่องยนต์สันดาปภายใน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับยุค EV ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

หัวหน้าของ Mercedes-AMG กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อในสหรัฐฯ ว่า "ผมคิดว่าน่าจะมีอนาคต ใช่ ฉันคิดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าเราจะได้เห็น V8 แน่นอน เรามีลูกค้าที่รักรถของพวกเขาจำนวนมาก และผมก็ยังคิดว่าเราจะเห็นคนซื้อรถใช้กันยาว ๆ อีกทั้งความต้องการเครื่องรุ่นนี้ยังสูงมากในทั่วโลก"

AMG ก็มีไฮบริดแล้ว

แม้ว่า AMG จะไม่พัฒนาเครื่องยนต์ V8 เจเนอเรชันถัดไป เนื่องจากระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเริ่มเข้ายึดครองโลก แต่วิศวกรก็ยังคงหาวิธีที่จะอัปเดตระบบส่งกำลังที่มีอยู่ ไม่เพียงเท่านั้น เครื่องยนต์สันดาปกำลังได้รับการปรับปรุงให้ทำงานเป็นระบบปลั๊กอินไฮบริด อย่างที่รถรุ่นทำได้แล้ว นั่นคือ Mercedes-AMG GT 63 S E-Performance ใหม่ ที่มีเครื่อง V8 ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง เพื่อทำกำลังทั้งหมด 831 แรงม้า และแรงบิด 1,400 นิวตันเมตร ทำให้เป็นรถตระกูล AMG ที่แรงสุดในปัจจุบัน และสามารถหาซื้อได้แล้ว (ในเมื่อ Mercedes-AMG One hypercar ที่มีกำลังแรงกว่านี้ ยังไม่เปิดตัวออกขายจริง)

เป็นข่าวดีเฉพาะรุ่นเรือธง

แม้ว่าเครื่องเบนซิน V8 จะยังถูกผลิตอยู่ในขณะนี้ แต่ระดับการตลาดนั้น จะจัดให้ใช้ในรถ AMG รุ่นเรือธง หรือระดับหัวแถวเท่านั้นที่จะยังคงมีอยู่ ส่วนรุ่นเล็กลงมาในความเป็นจริงแล้ว อย่างเช่น C63 เจเนอเรชันถัดไปและรุ่น GLC 63 กำลังจะสูญเสียเครื่อง V8 4.0 ลิตร ไปใช้เครื่องยนต์ 4 สูบไฮบริดร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งดัดแปลงมาจากรุ่น AMG 45 E63 ซึ่งตระกูลอี-คลาสนี้ ก็มีแนวโน้มว่าจะลดจำนวนสูบไปอีก แต่ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเกิดขึ้นกับรุ่นถัดไปหรือไม่

อ่านเพิ่มเติม: Mercedes-Benz 2025 หักดิบเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2568

Mercedes-AMG ก็มีรุ่นไฟฟ้าล้วนแล้ว

ไม่เพียงแต่ทำรุ่นไฮบริดออกขาย Mercedes-AMG ก็ได้เปิดตัวรถพลังไฟฟ้าล้วนออกขายแล้ว โดยควบรวมชื่อ AMG กับ EQ รวมพลังกันในร่างซีดานไซส์ยักษ์ กลายเป็น Mercedes-AMG EQS 53 (เมอเซเดส-เอเอ็มจี อีคิวเอส 53) ที่ไม่ได้มีดีแค่แต่งสปอร์ตสไตล์ AMG แต่ยังจูนพลังเพิ่มไปเกือบเท่าตัว ด้วยการติดตั้งมอเตอร์คู่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเฉพาะของ AMG ซึ่งให้กำลังรวม 649 แรงม้า (รุ่นมาตรฐาน 333 แรงม้า) และแรงบิด 950 นิวตันเมตร (701 ปอนด์-ฟุต) และยังมีโหมดแข่งขัน จะให้กำลังสูงสุด 751 แรงม้า และแรงบิด 1,020 นิวตันเมตร

อ่านเพิ่มเติม : Mercedes-AMG EQS 53 ไฟฟ้าตัวท็อป 751 แรงม้า คาดจะเข้าไทยอีก 1 ปีเจอกัน

เมืองไทยมีลุ้นขาย AMG ไฮบริด

สำหรับเมืองไทยอาจจะมีลุ้นได้ซื้อ Mercedes-AMG GT 63 S E-Performance แบบปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งเปิดตัวในต่างประเทศเมื่อต้นเดือนกันยายน 2021 สด ๆ ร้อน ๆ อาจจะต้องรอในต้นปีหน้า กว่าจะได้จับจองกัน

แนวโน้มที่รุ่นนี้ถูกนำเข้ามาขายมีสูงมาก เพราะปีหน้าเบนซ์มีนโยบายเชิงรุกเกี่ยวกับ EV อย่างจริงจัง ไม่เพียงแค่ AMG แต่เป็นทั้งแบรนด์เมอเซเดส-เบนซ์ไปเลย ส่วนราคาค่าตัวจะเปิดที่เท่าไหร่ ต้องติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดในโอกาสต่อไป

อ่านเพิ่มเติม: Mercedes-Benz ยืนยันเปิดตัวรถใหม่เพียบปีนี้ นำโดย 2022 Mercedes-Benz EQS