ได้รับการยืนยันแล้วว่า 2022 Honda HR-V (2022 ฮอนด้า เอชอาร์-วี) จะเปิดตัวออกจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้
เรียกว่าครบรอบ 1 ปีพอดิบพอดีหลังจาก Honda เผยโฉม All-New HR-V เป็นครั้งแรกในโลกเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนปีกลาย ก่อนที่จะออกทำตลาดญี่ปุ่นไปแล้วในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และจะทยอยออกจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลกไปจนถึงปีหน้า
การเปิดตัว HR-V เจนเนอเรชั่นใหม่ในไทยทำให้ทีมงานของบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทยมีงานต้องทำมากมายเพราะพวกเขาเพิ่งเปิดตัว 2022 Honda Civic (2022 ฮอนด้า ซีวิค) ใหม่ไปเมื่อไม่นานนี้ มีไม่บ่อยครั้งนักที่ค่ายยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นรายนี้จะเปิดตัวรถโมเดลหลักเจนใหม่พร้อมกัน 2 รุ่นภายในปีเดียว
2022 Honda HR-V ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมในญี่ปุ่น หลังจากเปิดรับจองในเดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่ารถเอสยูวีรุ่นนี้ทำยอดขายได้มากถึง 32,000 คันภายใน 1 เดือนแรก พุ่งทะลุเป้าไปหลายเท่าตัว และเหนือกว่า Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) ที่เพิ่งออกจำหน่ายในแดนอาทิตย์อุทัยเช่นกัน
HR-V สเปกญี่ปุ่นมีทั้งหมด 4 รุ่นย่อย เริ่มต้นที่รุ่น G มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศ และอีก 3 รุ่นย่อยคือ X, Z และรุ่นท็อป Play ทั้งหมดใช้ระบบไฮบริด e:HEV เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตรประสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มีทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อ
อ็อปชั่นของ 2022 HR-V ในแต่ละรุ่นย่อยจะแตกต่างกัน แต่อุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อยมีพอตัวอาทิ ระบบความปลอดภัย Honda Sensing ไฟหน้าฟูล LED ไฟตัดหมอก LED ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน เบาะนั่งปรับอุณหภูมิได้ และล้ออัลลอยเริ่มต้นที่ขนาด 16 นิ้ว อย่างไรก็ตาม รุ่นเริ่มต้นและรุ่น e:HEV X จะไม่มีหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 9 นิ้วบนคอนโซล ส่วนเบาะนั่งจะตกแต่งด้วยผ้าเท่านั้น
เครื่องยนต์ที่ลูกค้าในญี่ปุ่นเลือกซื้อมากที่สุดเป็นระบบไฮบริด e:HEV ที่มีสัดส่วนยอดขายสูงถึง 93% ส่วนที่เหลืออีก 7% เป็นรุ่นเครื่องยนต์สันดาปปกติ ด้านสัดส่วนยอดขายระหว่างรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้ออยู่ที่ 81% และ 19% ตามลำดับ
สีตัวถังที่ลูกค้าแดนซามูไรชื่นชอบมากที่สุด อันดับหนึ่งคือสีขาว Platinum White Pearl มีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 33% อันดับสองคือสีดำ Crystal Black Pearl ทำยอดขาย 18% และสีขาว Premium Sunlight White Pearl มียอดขาย 17%
จุดขายที่ลูกค้ามีความประทับใจใน HR-V ใหม่มากที่สุด ได้แก่ 1. ขุมพลังไฮบริด e:HEV ที่ประหยัดและมีสมรรถนะดีเยี่ยม 2. รูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งผสานห้องโดยสารที่กว้างขวาง และ 3. ระบบความปลอดภัย Honda Sensing ที่อัพเกรดจากรุ่นเดิม
อ็อปชั่นที่น่าสนใจใน HR-V ใหม่คือระบบปรับอากาศ Air Diffusion System นวัตกรรมใหม่ การันตีความสะดวกสบายในห้องโดยสาร มีรูปทรงคล้ายตัว L คว่ำติดตั้งอยู่บริเวณมุมริมสุดของแผงแดชบอร์ดหน้า ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนทิศทางลมแอร์ให้ไหลผ่านไปด้านข้างหรือด้านบนเพดานรถได้ตามต้องการ
การปรับทิศทางดังกล่าวจะช่วยให้ลมแอร์ไม่เป่าใส่ใบหน้าหรือลำตัวของผู้โดยสารตอนหน้าโดยตรง แต่ทำหน้าที่เหมือน “ม่านลม” ที่จะให้ความเย็นสบายอย่างเป็นธรรมชาติกว่าลมแอร์ปกติ ไม่เพียงเท่านั้น ม่านลมดังกล่าวยังสามารถสกัดกั้นไอความร้อนที่แผ่มาจากกระจกหน้าต่างด้านข้างในช่วงหน้าร้อนจัด (และช่วยสกัดความเย็นในช่วงหน้าหนาวในยุโรปหรือญี่ปุ่น รวมถึงภาคเหนือของไทยด้วย)
ส่วนอ็อปชั่นอื่น ๆ ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีเหมือนสเปกญี่ปุ่นหรือไม่ ทั้งไฟเลี้ยว LED แบบซีเควนเชียล ไฟหน้า LED แบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ช่องแอร์ตอนหลัง ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ตลอดจนไฮไลท์อย่างหลังคาพาโนรามิกแบบสองตอน กระจกที่ Honda ใช้ทำหลังคานั้นยังเป็นแบบกันความร้อนได้ด้วย
เดิมทีมีรายงานว่า HR-V อาจมาพร้อมระบบไฮบริดตั้งแต่แรกเริ่ม แต่ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีภาพสปายช็อตของรถเอสยูวีรุ่นนี้ในเมืองไทยที่เผยให้เห็นท่อไอเสีย 2 ชุดแยกซ้าย-ขวา จึงมีความเป็นไปได้ว่า HR-V ใหม่สเปกบ้านเราอาจใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จเหมือนกับใน Honda Civic ใหม่ มีพละกำลัง 178 แรงม้า และแรงบิด 240 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT
อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มเช่นกันว่า Honda อาจนำเสนอ HR-V ใหม่ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ และรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดให้ลูกค้าในเมืองไทยได้เลือกจับจองกันตามใจชอบ
ที่น่าจับตามองอีกหนึ่งประเด็นสำคัญก็คือราคาจำหน่ายว่าจะปรับสูงขึ้นเพียงใด เพราะเมื่อดูจากในญี่ปุ่น HR-V รุ่นเดิมอยู่ที่ 2,113,426 – 2,862,037 เยน ส่วนรุ่นใหม่อยู่ที่ 2,279,200 – 3,298,900 เยน ราคาขยับขึ้นราว 1 - 4 แสนเยน หรือเท่ากับแพงขึ้นประมาณ 30,000 – 110,000 บาทเลยทีเดียว
นักรีวิวรถยนต์ในยุโรปก็พูด (และบ่น) ถึงราคาจำหน่ายของ HR-V ที่สูงขึ้นอย่างมากเช่นกัน จึงน่าสนใจอย่างยิ่งว่าราคาค่าตัวในบ้านเราจะกระฉูดขึ้นตามเทรนด์ตลาดอื่น ๆ หรือไม่
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}