Review : New 2020 Honda HR-V เพิ่มสี ปรับภายในใหม่ สปอร์ตกว่าเดิม

ฮอนด้า บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น นำเสนอ 2019 ฮอนด้า เอชอาร์-วี ทำตลาดประเทศไทยทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น E ราคา 9.49 แสนบาท รุ่น EL ราคา 1.059 ล้านบาท และรุ่น RS ราคา 1.119 ล้านบาท มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ SOHC ขนาด 1.8 ลิตร กำลัง 141 แรงม้า แรงบิด 172 นิวตันเมตร

2019 ฮอนด้า เอชอาร์-วี เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ ผลิตโดยฮอนด้า ในประเทศไทย และออกทำตลาดรถอเนกประสงค์กลุ่มบีเซกเมนท์ เปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์โฉมล่าสุดในปี 2561 (2018) มีน้ำหนักรถ 1,297 กก. และมีความประหยัดน้ำมันประมาณ 16 กม.ต่อลิตร

Honda HR-V 2020 (ฮอนด้า เฮชฮาร์-วี) รถยนต์ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ ที่ผสมผสานความเป็นสปอร์ตในแบบรถคูเป้ ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูโฉบเฉี่ยว และมีการใช้งานอเนกประสงค์แบบรถมินิแวน โดยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปลายปี 2014

คำว่า HR-V นั้นย่อมาจาก Hi-rider Revolutionary Vehicle หรือ Hip and Smart Runabout Vehicle ในรุ่นแรกสุดเปิดตัวเมื่อปี 1998 ใช้พื้นฐานร่วมกับรุ่น  Honda Logo โดยเป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ 3 ประตู รุ่นแรก ๆ ของโลก เครื่องยนต์ใช้เป็น 1.6 ลิตร มีทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยในรุ่นนี้ไม่มีจำหน่ายในไทย

จนมาถึง Honda HR-V รุ่นปัจจุบัน ได้เปลี่ยนมาใช้พื้นฐานร่วมกับรถยนต์รุ่น Honda Jazz และ Honda City เป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก รองจาก SUV รุ่นพี่อย่าง CR-V ทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกได้มากขึ้น

รวมถึงเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร i-VTEC พร้อมด้วยเทคโนโลยี Earth Dreams ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ CVT 7 จังหวะ ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า แต่ในรุ่นตัวนอกมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

ฮอนด้า ซีเอช-อาร์ เป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ที่เรียกได้ว่ามีความสวยงาม และในรุ่นปรับโฉมปี 2020 นี้ เราจะพาไปทำความรู้จักกับรุ่นชุดแต่งพิเศษ อย่าง HR-V 1.8 RS กับค่าตัว 1.119 ล้านบาท ว่ามีฟังก์ชั่นและความน่าใช้จุดใดบ้าง

กระจังหน้าสปอร์ต พร้อมเพิ่มสองสีใหม่

จุดเปลี่ยนของ ฮอนด้า เอชอาร์-วี 2020 แบบเห็นเด่นชัดคงไม่พ้น กระจังหน้าทรงใหม่ที่เปลี่ยนจากกระจังหน้าลายเส้นขวางแบบเดิม มาเป็นกระจังหน้าโครเมียมรมดำลายรังผึ้งเพื่อเพิ่มความสปอร์ตมากขึ้น พร้อมสีภายนอกใหม่ สีแดงแพสชั่น (สำหรับรุ่น RS เท่านั้น) ,สีขาวแพลทินัม ,สีเทาโมเดิร์นสตีล

รวมถึงในตัวท๊อปและรองท๊อปอย่าง 1.8 RS , 1.8 EL ได้ให้ไฟหน้าเป็นแบบ LED พร้อมไฟเดย์ไทม์ ไฟท้ายแบบ LED Tube พร้อมด้วยระบบปรับระดับไฟสูง - ต่ำ และเปิด - ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ

และในตัวท๊อปรุ่น 1.8 RS นั้นได้ให้ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตมาให้รอบคัน กระจังหน้าดีไซน์ใหม่โครเมียมรมดำแบบสปอร์ต มือจับเปิดประตูด้านหน้าแบบโครเมียมรมดำ กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ต พร้อมแป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต ล้อแม็กลายใหม่ขนาด 17 นิ้วแบบสปอร์ต และสัญลักษณ์ RS บนฝากระโปรงท้าย เรียกได้ว่าภายนอกของรุ่น 1.8 RS นั้นไม่ต้องไปตกแต่งอะไรเพิ่มเติมเลย

ภายในอเนกประสงค์ปรับได้หลายรูปแบบ

ต้องบอกว่าสำหรับรุ่น RS นั้นหากเราเลือกสีภายนอกเป็น สีขาวแพลทินัม ,สีแดงแพสชั่น ,สีดำคริสตัล เราจะได้ภายในเป็นสีทูโทนแบบสีแดงออกซ์บลัด ให้อารมณ์บรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบสปอร์ต รวมถึงกระจกตอนหลังบานใหญ่ทำให้คนโดยสารด้านหลังมองเห็นวิวข้างทาง

รวมถึงเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง รูปแบบเบาะคู่หน้ายังเป็นทรงสปอร์ตโอบรับข้างลำตัว รวมถึงเบาะหลังสามารถปรับเอนได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายของผู้โดยสาร

เรียกได้ว่าเจ้า ฮอนด้า เอชอาร์-วี นั้นเป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ที่มีสามารถปรับการใช้งานเพื่อขนสัมภาระหรือการโดยสารได้อย่างอิสระ โดยมีเบาะหลังอเนกประสงค์ ปรับการใช้งานได้ถึง 3 รูปแบบ ดังนี้ UTILITY MODE พับเบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านเพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลังได้มากขึ้น ,TALL MODE พับเบาะด้านหลังขึ้น เพิ่มพื้นที่เก็บของทรงสูง ,LONG MODEพับเบาะทั้งด้านหน้า และด้านหลังขยายพื้นที่วางของในแนวยาว

เครื่องยนต์เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ช่วงล่างสไตล์สปอร์ต

ฮอนด้า เอชอาร์-วี 1.8 อาร์เอส มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง ขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 172 นิวตันเมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ ซีวิที พร้อมระบบชิฟติ้งคอนโทรล รองรับประเภทเชื้อเพลิงถึง E85

ช่วงล่างหน้าแบบแม็คเฟอร์สัน สตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ในขณะที่ช่วงล่างด้านหลังฮอนด้าใช้แบบทอร์ชั่นบีมแบบ H-shape ทำให้มีความแข็งกระด้างอยู่บ้าง ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์เบรก 4 ล้อ พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (EPS) ให้รัศมีวงเลี้ยงอยู่ที่ 5.3 เมตร

ในการตอบสนองของเครื่องยนต์และเกียร์ชุดนี้ ที่แบกรับกับน้ำหนักรถขนาด 1.2 - 1.3 ตัน เรียกได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง อัตราเร่งที่ตอบสนองได้ดี เพียงพอต่อการใช้งานในทุก ๆ วัน รวมถึงรองรับเชื้อเพลิงถึง E85 อีกด้วย

ในส่วนของช่วงล่างอาจจะให้อารมณ์แบบรถสปอร์ตที่รู้สึกแข็งกระด้างไปบ้าง เพราะฮอนด้ายังใช้ช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบคานบิดอยู่ ทำให้อาจจะไม่นุ่มนวลเท่ากับตัวเลือกอื่น แต่เทียบกับปัจจัยหลาย ๆ อย่างแล้ว ก็ยังดูน่าใช้และคุ้มค่าอยู่ดี

สรุปโดยรวมแล้ว Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์-วี) รุ่น 1.8 อาร์เอส นั้นถือเป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ที่มีระดับความน่าใช้อยู่ในอันดับต้น ๆ ของตัวเลือก ทั้งชุดแต่งที่มีมาให้พร้อม รวมถึงหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา

และในเรื่องของราคาค่าตัวเจ้าเอชอาร์-วีที่ไม่ได้โดดหนีห่างจากคู่แข่งตัวเลือกอื่นมากเท่าไร หากเปรียบเทียบกันแล้ว อาจทำให้เกิดอาการสองจิตสองใจขึ้นมาได้ และใครมองหาครอสโอเวอร์ที่ประหยัดน้ำมันและคุ้มค่า ลองเอาฮอนด้า เอชอาร์-วีเป็นตัวเลือกไว้พิจารณากันได้