กาซื้อรถยนต์มาใช้สักคันไม่ว่าจะเป็นทั้งมือหนึ่งหรือมือสอง เรามักจะต้องคิดถึงราคาขายต่อกันอยู่แล้วหลังเลิกใช้งาน
แต่ก็มีรถบางรุ่นและยี่ห้อ ได้กลายเป็นที่กล่าวขานกันว่าราคาตกทันทีตั้งแต่ออกโชว์รูม จนมาถึงในปัจจุบันก็มีราคาถูกกันเอามาก ๆ บางคันหล่นลงมามากกว่า 4 เท่าเลยก็ว่าได้
จริง ๆ การที่ Chevrolet Cruze นั้นราคาตกนั้นก็มีหลายสาเหตุด้วยกัน ส่วนหนึ่งอย่างที่ทราบกันคือ Chevrolet (เชฟโรเลต) นั้นเลิกทำตลาดในไทยไปแล้ว จึงไม่แปลกใจที่ Cruze และรุ่นอื่น ๆ ราคาจะตกไปตาม ๆ กันเมื่อกลายเป็นมือสอง
อีกประการหนึ่งก็คือรถคันนี้มีการลดต้นทุนการผลิตก็เลยส่งผลต่อคุณภาพรถอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเกียร์ที่เปราะบางเอามาก ๆ ในสมัยก่อนมีข่าวทั้งเกียร์แตกจนถึงดับกลางถนนหรือระเบิดคาเท้าก็เคยมีมาแล้ว ไม่สามารถเข้าเกียร์ได้ ก็มี
โดยราคาตอนเปิดตัวใหม่ ๆ อยู่ที่ 998,000 บาท ปัจจุบันสามารถหาได้ในราคาประมาณไม่เกิน 250,000 บวกลบ หรือถ้ารุ่นเก่ากว่านี้ ก็เริ่มต้นที่ประมาณ 148,000 - 169,000 บาท
จริง ๆ ไม่ใช่แค่ Ford Focus เพียงรุ่นเดียว แต่จะรวมถึงน้องเล็ก Ford Fiesta ด้วย ส่วนหนึ่งที่ราคาตกจะคล้ายกับ Cruze เพราะทั้ง 2 รุ่นนี้เลิกผลิตไปแล้วในประเทศไทย ทำให้อะไหล่ค่อนข้างหายาก และมีปัญหาเรื่องเกียร์ในลอตผลิตแรก ๆ จากที่เป็นข่าวดังมากในประเทศไทย
แต่รุ่นที่ราคาตกที่สุดเห็นจะเป็น Ford Focus 1.5 Turbo โดยตอนเปิดตัวมีราคาที่สูงถึง 1,099,000 บาท ปัจจุบันหาค่อนข้างยากแล้ว ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 กว่าบาท หากมองหาเป็นเจนแรกต่ำสุดไม่เกินแสนก็มี แต่ถ้าเป็นรุ่นหลังก็จะอยู่ที่แสนปลายขึ้นไป
จริง ๆ จะกล่าวว่ารถยี่ห้อ MG (เอ็มจี) ราคาตกทุกรุ่นก็อาจจะไม่ผิดนัก สำหรับ MG 6 มือสองจะค่อนข้างหนักสุด สาเหตุเดียวกัน Ford Focus ที่เลิกผลิตไปแล้วจึงไม่ค่อยได้รับความนิยมเนื่องจากอาจจะหาอู่ที่รับซ่อมและอะไหล่ได้ยาก
โดยตอนเปิดตัวมีราคา 1,100,000 บาท ในปัจจุบันจะอยู่ที่ 200,000 กว่าบาท หายไป 800,000 บาทในเวลาเกือบ 3 ปี
ยี่ห้อ Volvo (วอลโว่) ราคาตกตั้งแต่ออกห้าง โดยเฉพาะ Volvo V60 T4 (วอลโว่ วี60) ที่ถึงจะเป็นปลอดภัย แต่มีปัญหาจุกจิกค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะกับเกียร์แบบ Dual Clutch เหมือนกับ Ford (ฟอร์ด) ที่พังบ่อย รวมถึงปัญหารถกินน้ำมันเครื่องตั้งแต่ 7,000 กิโลเมตร
โดยราคาในตอนเปิดตัวนั้นอยู่ที่ 2,590,000 บาท ในปัจจุบันสามารถหาได้ในราคาเพียง 450,000 บาทถึงปลาย ๆ เท่านั้น ลดลงมา 3 เท่า หากเจอสภาพดีไม่เคยมีประวัติเสียหนักก็ควรซื้อ
หากเป็นแบบไฟหน้าสองก้อนจะมีปัญหา แต่หากเป็นก้อนเดียวจะแพงกว่าแต่ได้รับการปรับปรุงมาแล้ว
E300 BlueTEC Hybrid AMG ถือเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นแรก ๆ ของ Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ก็ว่าได้แถมยังประหยัด ด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 23.81-24.39 กม./ลิตร
แต่ด้วยเป็นรถไฮบริดรุ่นแรก ๆ ทำให้ระบบยังไม่ค่อยเสถียร รวมถึงมีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ไฮบริดค่อนข้างเยอะ ที่ว่าแบตลูกนึงราคา 2-3 แสนเลยทีเดียว หากหมดประกันแล้วก็ยิ่งซ่อมแพง
โดยราคาคันนี้ตอนเปิดตัวอยู่ที่ 4,490,000 บาท แต่ปัจจุบันสามารถหาได้ในราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทแล้ว ลดลงมา 3 เท่า หากจะซื้อควรดูคันที่เปลี่ยนแบตเตอรี่มาแล้ว อาจจะยืดอายุการใช้งานไปได้เล็กน้อย รวมถึงต้องมีเงินผื่อค่าซ่อมส่วนอื่น ๆ อีกด้วย เนื่องจากรถไฮบริด ขึ้นชื่อเรื่องค่าซ่อมแพงอยู่แล้วครับ
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}