ชื่อเสียงของ Toyota Innova (โตโยต้า อินโนว่า) นั้นอยู่คู่กับตลาดประเทศไทยมาอย่างยาวนาน นับย้อนไปตั้งแต่วันที่ Toyota (โตโยต้า) เปิดตัวโครงการ IMV (Innovative Multi-purpose Vehicle) ในประเทศไทย ที่มีรถยนต์ในโครงการบนแพลตฟอร์มรถปิกอัพออกมา 3 รุ่นรวด นอกจากอินโนว่าแล้วก็มี Toyota Hilux REVO (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) และ Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์)
อินโนว่านั้นถูกออกแบบมาเพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้ารถยนต์แบบครอบครัว 7 ที่นั่งที่เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก และแน่นอนว่าตลาดหลักและฐานการผลิตของรถรุ่นนี้ก็อยู่ที่ประเทศอินโดนีเซียมาแต่แรกเริ่ม และมีการนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง แม้จะมียอดจำหน่ายไม่ได้หวือหวามากนัก เมื่อเทียบกับพี่น้องอีก 2 รุ่น แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในตำนานรถยนต์ของบ้านเราเหมือนกัน
ล่าสุด โตโยต้าได้ทำการพัฒนารถยนต์รุ่นนี้แยกออกจากโครงการรถปิกอัพ พร้อมการพัฒนาใหม่หมดจดตั้งแต่แพลตฟอร์มไปยันเครื่องยนต์ที่หันมาคบหาเครื่องยนต์ไฮบริดเป็นครั้งแรก พร้อมปรับชื่อใหม่เป็น 2023 Toyota Innova Zenix (โตโยต้า อินโนว่า เซนิกซ์) ที่เปิดตัวมาแล้วหลายประเทศในอาเซียน และก็ถึงคราวของประเทศไทย ที่มาพร้อม 2 รุ่นย่อยให้เลือกจับจองเป็นเจ้าของ
มีอะไรที่เป็นจุดเด่นในรถคันนี้บ้าง มาติดตามชมกันได้เลย...
Toyota Innova Zenix Premium ราคาจำหน่าย 1,479,000 บาท
Toyota Innova Zenix Smart ราคาจำหน่าย 1,379,000 บาท
จากการเลือกใช้โครงสร้างตัวถังแบบ Body-on-frame พร้อมด้วยช่วงล่างแบบรถปิกอัพในรุ่นเดิม โตโยต้าได้เลือกใช้แพลตฟอร์ม TNGA ที่ใช้ในการผลิตรถยนต์นั่งหลายรุ่นของค่าย พร้อมด้วยตัวถังแบบ Monoque พร้อมด้วยช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม ติดตั้งดิสก์เบรกที่ล้อทั้งสี่ ที่โตโยต้าเคลมว่านอกจากจะให้ความนุ่มนวลมากกว่ารถยนต์รุ่นเดิมแล้ว อินโนว่าใหม่จะให้ความสะดวกสบายกับผู้โดยสารมากกว่ารุ่นเก่าอย่างชัดเจนแน่นอน
การเลือกใช้เครื่องยนต์ไฮบริดนั้น เป็นการตัดสินใจที่ดีของโตโยต้า โดยหัวใจใหม่ของอินโนว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุดรวม 186 แรงม้า เหนือกว่าเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตรรุ่นเดิม แต่ไม่ได้มีการระบุแรงบิดรวมสูงสุดมาให้ ซึ่งจากการทดสอบของโตโยต้า ระบุว่าให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 9.87 วินาที ดีกว่ารุ่นเดิมที่ทำไว้ 11.58 วินาที พร้อมให้อตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีกว่าเดิม 21% โดยอีโคสติกเกอร์ระบุอัตราสิ้นเปลืองที่ 21.3 กิโลเมตรต่อลิตร
โตโยต้าเปรียบเทียบระบบความปลอดภัยโตโยต้า เซฟตี้ เซนส์ของอินโนว่ากับ Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี่) และระบุว่ารถคันนี้นั้นเหนือกว่า ด้วยกล้องด้านหน้าและเรดาร์ที่กว้างกว่าเดิม ทำให้เติมความปลอดภัยให้รถได้มากกว่า โดยรถมาพร้อมกับระบบเตือนชนพร้อมช่วยเบรกด้านหน้า ที่ตรวจจับคน รถและรถจักรยานยนต์ได้ มาพร้อมระบบเตือนจุดบอด ระบบเตือนเมื่อถอยหลัง ระบบคุมให้รถอยู่ในเลน ไฟสูงอัตโนมัติและระบบคุมความเร็วอัตโนมัติ ที่มาพร้อมระบบลดความเร็วขณะเข้าโค้ง
เมื่อเป็นรถที่ทำการพัฒนามาใหม่กว่าคนอื่น อินโนว่าจึงมาพร้อมออพชั่นแบบเต็ม ๆ ไม่มีกั๊ก โดยเฉพาะในรุ่นท็อปที่มีมาให้ทั้งพาโนรามิก ซันรูฟ ติดตั้งแพดเดิลชิฟท์มาให้เรียบร้อย พร้อมด้วยประตูท้ายแบบไฟฟ้าที่มาพร้อมคิกส์เซนเซอร์ เบาะแถว 3 พับได้เรียบแบบ 50:50 เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระอย่างสวยงามลงตัว ขณะที่เบาะที่นั่งแบบกัปตันซีทตรงกลางปรับด้วยไฟฟ้า และมีเบาะรองน่องแบบปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมด้วยระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอ 10.1 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายครบครัน
การออกแบบอินโนว่าในรุ่นปัจจุบันถือว่ามีความแตกต่างจากรุ่นเดิมค่อนข้างมาก ทีมออกแบบของโตโยต้าได้ใส่ความแข็งแกร่งบึกบึนเข้าไปในตัวรถหลายตำแหน่ง ทำให้ได้รถที่มีภาพลักษณ์กึ่งกลางระหว่างเอ็มพีวีและเอสยูวี ท้องรถที่สูงถึง 16 เซนติเมตร อาจจะทำให้ผู้โดยสารก้าวเข้า-ออกได้ยากหน่อย แต่ก็ทำให้ตัวรถโดดเด่นขึ้นมา การออกแบบภายในเน้นความโปร่งสบาย พร้อมด้วยออพชั่นครบครัน พร้อมช่องชาร์จไฟและระบบปรับอากาศที่เตรียมเอาไว้สำหรับการรองรับผู้โดยสาร 7 คนในทุกเส้นทาง
ดูแล้วน่าจะเป็นอีกคันที่ตอบโจทย์ครอบครัวที่ไม่อยากได้พีพีวีได้สบาย...
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}