- ตัวเตี้ยหน้าดุพร้อมช่วงล่าง GR Sport
- เน้นความนุ่มนวลในการขับขี่และใช้งาน
- ค่าตัวเท่าเดิมที่ 8.05 แสนบาท
Toyota Hilux REVO (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) หนึ่งในสินค้าที่ทำยอดขายสูงสุดให้กับ Toyota (โตโยต้า) ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ได้ฤกษ์ทำการปรับตัวครั้งใหม่ล่าสุดไปในช่วงไม่นานมานี้ พร้อมไฮไลท์การเปลี่ยนแปลงหลายด้านที่ทำให้รถนั้นดูดีและน่าใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม
หนึ่งในรุ่นที่ได้รับการปรับแต่งไปอย่างมาก และคาดหวังว่าจะเข้ามาสร้างยอดจำหน่ายเป็นกอบเป็นกำก็คือตัวเตี้ยหน้าหล่ออย่าง Z Edition (แซด เอดิชั่น) ที่มาพร้อมหน้าตาที่โฉบเฉี่ยวดุดัน การปรับจูนช่วงล่างใหม่แบบทั้งระบบ เพื่อให้ตอบสนองต่อการขับขี่ได้อย่างครบวงจรมากกว่าเดิม
โตโยต้าระบุว่ารถกระบะรุ่นใหม่ของพวกเขานี้ จะตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายได้มากกว่าเดิม ตั้งแต่กลุ่มผู้ที่ต้องการใช้งานเชิงพาณิชย์ กลุ่มลูกค้าครอบครัว รวมถึงกลุ่มที่ต้องการใช้รถเพื่อการสันทนาการ ซึ่งเป็นผลมาจากการเลือกใช้อุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาเพิ่ม
อ่านเพิ่มเติม: 2022 Toyota Hilux Revo D ให้ VSC ทุกรุ่น เพิ่มรุ่นหัวเดี่ยวขับ 4 เกียร์ออโต้ราคา 759,000 บาท
ไฮไลท์อยู่ที่การเปลี่ยนมาใช้ช่วงล่างแบบเดียวกับรุ่นพี่เครื่องใหญ่ที่เปลี่ยนไปก่อนหน้านี้ ทำให้ตัวรถมีความสูงที่ลดลง แต่ชดเชยความนุ่มนวลในการใช้งานด้วยชุดช่วงล่างและยางที่ได้รับการเซตอัพมาใหม่ ให้ความสะดวกสบายในการใช้งานรถยนต์บนสภาพถนนที่หลากหลาย
แม้ในการทดสอบวันนี้ที่โตโยต้าชวน AutoFun Thailand ไปร่วมด้วย พวกเขาจะติดปลายนวมด้วยการบรรทุกข้าวสาร 100 กิโลกรัมไว้ที่กระบะท้ายเกือบตลอดการทดสอบ แต่ก็ยังจับอาการและความยอดเยี่ยมของตัวรถที่ปรับปรุงมาให้ดีกว่ารุ่นเดิมได้มากอยู่เหมือนกันตลอดการใช้งาน
ใครที่เป็นสายแต่งหล่อ ไม่เน้นดุดันมาก น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี!!!
เครื่องยนต์เดิม ไม่เพิ่มเติมอะไรเลย
ในรุ่นแซด เอดิชั่น ยังมาพร้อมทางเลือกเครื่องยนต์เดิมขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบ ที่มาพร้อมกำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 340 นิวตันเมตรที่ 1,400-2,800 รอบต่อนาที การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ส่งกำลังลงสู่ล้อคู่หลัง มาพร้อมดิสก์เบรกหน้า ดรัมเบรกหลัง ขณะที่ล้ออัลลอยปรับเป็นขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/55 ที่ทำให้ตัวรถดูมีความปราดเปรียวมากขึ้นกว่าเดิม
ยกช่วงเครื่องล่างใหม่แบบยกแผง
ไฮไลท์การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงก็คือการปรับเปลี่ยนช่วงล่างของรถคันนี้แบบยกแผง เพราะนอกจากเปลี่ยนขนาดยางแล้ว พวกเขายังเปลี่ยนยางจากยางกระบะมาเป็นยางรถยนต์นั่งแบบเดียวกับที่ใช้ใน Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี่) เพื่อให้มีความนุ่มนวลในการขับขี่และมีการยึดกาะถนนที่มากขึ้น
นอกจากนี้ โตโยต้ายังได้ยกชุดช่วงล่าง GR Sport ที่เคยใช้กับตัวเตี้ยเครื่องยนต์ 2.8 ลิตรลงมาไว้กับรถรุ่นนี้ ประกอบไปด้วย การปรับคอยล์สปริงหน้าและแหนบหลังใหม่ ทำให้ตัวรถนั้นเตี้ยลงไป 23 มิลลิเมตร ช่วยในเรื่องของการควบคุมรถและลดการโคลงของตัวรถในภาพรวมของการขับขี่
รวมไปถึงการปรับขนาดของโช็คอัพด้านหน้าและด้านหลังให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มความนุ่มนวลของรถอีกด้วย ทำให้ได้รถที่มีอารมณ์ของช่วงล่างแบบเดียวกับจีอาร์ สปอร์ตรุ่นก่อนหน้า แต่เหนือกว่าด้วยความเบาของตัวรถ ที่ส่งผลให้ดูมีความซอฟท์ในการใช้งานมากกว่าเล็กน้อย
ภายนอกหน้าหล่อกว่าเดิม เพิ่มอุปกรณ์มากขึ้น
นอกเหนือจากการเปลี่ยนหน้าตามาเป็นตัวโหดที่ทำให้รถดูดุดันมากขึ้นแล้ว ยังได้มีการตกแต่งอุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มเติมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าสีดำเมทัลลิกและโครเมียม โป่งล้อแบบ Wide Body รวมไปถึงกระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว ในรุ่นที่ทดลองขับมาพร้อมไฟหน้า Bi-Beam LED แบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-Me-Home พร้อมด้วยระบบไฟหน้าปรับสูงต่ำ และไฟท้ายแบบ LED Light Guiding รวมไปถึงที่ปัดน้ำฝันแบบหน่วงเวลาและปรับตั้งเวลาได้
ห้องโดยสารสีเข้ม เน้นผสมผสานความพรีเมียม
การออกแบบภายในห้องโดยสารมาพร้อมสีภายในสีดำ พร้อมด้วยแผงคอนโซลหน้าสีดำเมทัลลิก ติดตั้งแถบสีเงินเพิ่มความหรูหรา ช่องปรับอากาศด้านหน้าสีดำและโครเมียม พร้อมด้วยแผงข้างประตูบุผ้าสีดำ แต่งด้วยแถบสีเงิน พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง หน้าจอแสดงผลข้อมูลขับขี่แบบทีเอฟที สวิตช์โหมดการขับขี่แบบอีโค/สปอร์ต กุญแจรีโมทแบบกุญแจพับ เครื่องเสียงเชื่อมต่อแอปเปิล คาร์เพลย์ พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ติดตั้งกระจกไฟฟ้าปรับขึ้นลงอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
ให้อุปกรณ์มาครบครันพร้อมใช้งานครบวงจร
โตโยต้าได้ทำการเพิ่มแผ่นกรองปรับอากาศ PM2.5 ให้กับรถทุกรุ่น พร้อมให้ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและหัวเข่าฝั่งคนขับมา ขณะที่อุปกรณ์ความปลอดภัยให้มาพอประมาณ ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันล้อล็อค ระบบกระจายแรงเบรก มาพร้อมโครงสร้างนิรภัย GOA พร้อมด้วยเข็มขัดนิรภัย 3 จุด ทุกตำแหน่ง ซึ่งแม้จะเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาก แต่ก็เพียงพอต่อความต้องการใช้งานของลูกค้าในกลุ่มนี้อย่างลงตัว
ค่าตัว 8.05 แสนบาท ใช้งานทุกรูปแบบได้อย่างลงตัว
โตโยต้าได้วางจำหน่ายไฮลักซ์ รีโว่ ดี แซด เอดิชั่น กับค่าตัว 8.05 แสนบาท ที่ได้เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เทอร์โบที่เพียงพอต่อการใช้งาน ผสานการทำงานของช่วงล่างใหม่ที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างเต็มพิกัด เน้นไปที่ความนุ่มนวลของยางและระบบกันสะเทือนทั้งหมด ซึ่งทำให้ตัวรถนั้นสามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในชีวิตประจำวัน การขนสัมภาระต่าง ๆ หรือการขนผู้โดยสารเพื่อเดินทาง โดยที่ไม่ต้องไปตกแต่งเพิ่มแต่อย่างใด
ความสะดวกสบายในห้องโดยสารนั้นอาจจะไม่ได้มีอุปกรณ์มาให้ล้นคัน แต่การรองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัยทุกตำแหน่ง แต่เบาะนั่งตอนหลังอาจจะตั้งตรงไป และมีเฮดรูมเหลือไม่มาก อาจจะเป็นจุดที่ต้องพิจารณาเช่นกัน นอกจากนี้ แฟน ๆ แอนดรอยด์ ออโต้ ก็อาจจะงงว่าทำไมไม่ให้มาให้ครบ ๆ แต่ไม่เป็นไรนะ เพราะสามารถเชื่อมต่อบลูทูธเพื่อฟังเพลงทดแทนได้เหมือนกัน
หากให้สรุปแบบสั้น ๆ นี่คือตัวเตี้ยหน้าหล่อสำหรับคนที่ต้องการรถกระบะที่สามารถนำไปใช้ได้งานอย่างทันทีและต่อเนื่องโดยไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่ม เครื่องยนต์ให้กำลังที่ดีในช่วงออกตัว ให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่พอรับได้ ในค่าตัวระดับ 8 แสนบาทต้น ๆ ซึ่งการได้แบรนด์ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากอย่างโตโยต้าไปด้วย ก็น่าจะเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานรถคันนี้แบบระยะยาวได้ดีขึ้นไปอีก
ซื้อมาใช้ได้ทั้งวันทำงานยันออกไปเที่ยวกันอย่างครบในคันเดียวเลย...