2023 BMW M2 (2023 บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม2) เปิดตัวในประเทศไทยแล้วอย่างเป็นทางการ และนำออกมาจัดแสดงต่อสาธารณชนครั้งแรกในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 44
M2 ใหม่ มาพร้อมดีไซน์ที่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิมทั้งคัน โดยมีเหลี่ยมสันที่มากขึ้น เรามาลองดูกันว่า รถคันนี้จะดูดี น่าขับขี่เหมือนรุ่นก่อนหรือไม่
ความเหลี่ยมสันที่เพิ่มขึ้น
มิติตัวถังภายนอกของรถใหญ่โตขึ้นกว่ารุ่นเดิม โดยมีความยาว 4,580 มม. กว้าง 1,887 มม. สูง 1,402 มม. แต่มีระยะฐานล้อที่สั้นลง 110 มม.
ด้านหน้าของรถมาพร้อมกระจังหน้าไตคู่แนวนอนขนาดใหญ่แบบไร้กรอบ ผสานกับช่องดักอากาศทรงเหลี่ยมด้านล่างทำให้ตัวรถมีรูปลักษณ์แบบ M อย่างที่ผ่านมา
โคมไฟหน้าตกแต่งสีดำสไตล์ M และเสริมความโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยระบบไฟหน้า Adaptive LED ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam assistant)
ตัวรถภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาและออกแบบตัวรถตามหลักแอโรไดนามิกส์ ล้ออัลลอยเริ่มต้นที่ขนาด 19 นิ้ว ลาย Double Spoke หุ้มยาง 275/35 ZR19 และขนาด 20 นิ้ว สวมทับด้วยยาง 285/30 ZR20 ชุดเบรก M Compound สีแดงเงา และหลังคา M Carbon
ด้านท้ายของ M2 ใหม่ ยังมีขอบสปอยเลอร์บนฝากระโปรงหลัง แผ่นสะท้อนแสงจัดวางในแนวตั้ง ดิฟฟิวเซอร์ที่กันชนท้าย และปลายท่อไอเสียสองคู่ที่สองข้างท้ายของตัวรถ
ขุมพลัง 6 สูบ 460 แรงม้า
ขุมพลังของ M2 ใหม่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW M TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 460 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายใน 4.1 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลัง
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ M Steptronic 8 จังหวะ พร้อมระบบ Drivelogic เพิ่มการเปลี่ยนเกียร์ให้สปอร์ตยิ่งขึ้น ยังมีโหมดการขับขี่ M Drive Professional ช่วยเสริมความเร้าใจในการขับขี่ให้มากขึ้น
และยังมีระบบเฟืองท้าย M Sport เพิ่มการยึดเกาะถนนและเสถียรภาพในการขับขี่ นอกจากนั้น ช่วงล่าง Adaptive M Suspension ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้อย่างอิสระทั้งรูปแบบการขับขี่แบบสะดวกสบายและสไตล์สปอร์ต
ภายในเน้นคาร์บอนไฟเบอร์
ภายในของรถเริ่มด้วยชุดไฟส่องสว่างภายใน (Ambient light) หลังคาภายในดีไซน์ M สีดำ Anthracite คอนโซลด้านบนบุด้วยหนังแบบ BMW Individual
การตกแต่งภายในมาพร้อมวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M เข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M เบาะนั่งดีไซน์ M Sport เบาะนั่งตอนหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งเฉพาะฝั่งคนขับ และกาบบันไดดีไซน์ M แบบเรืองแสง
ภายในรถมาพร้อม BMW Live Cockpit Professional ซึ่งเป็นจอแสดงข้อมูลสำหรับคนขับผ่านจอโค้ง BMW Curved Display สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน พร้อมระบบความบันเทิงและการสื่อสารล้ำสมัย ซึ่งประกอบด้วย Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว ที่ผสานรวมกับจอแสดงข้อมูล 12.3 นิ้ว
นอกจากนี้ ในรถยังมีระบบ BMW ConnectedDrive และ BMW Connected Package Professional ยังนำเสนอคุณสมบัติและบริการขั้นสูงมากมายที่ช่วยให้การขับขี่สะดวก มีประสิทธิภาพ และสนุกสนานยิ่งขึ้น
และระบบเครื่องเสียงรอบทิศทางจาก Harman Kardon มอบประสบการณ์เสียงคุณภาพสูงที่สามารถปรับแต่งได้ ช่วยให้ประสบการณ์การขับขี่น่าประทับใจยิ่งขึ้น
ความปลอดภัยที่จำเป็นครบครัน
ความปลอดภัยในการขับขี่ได้รับการยกระดับไปอีกขั้นด้วยระบบต่าง ๆ ที่ติดตั้งเป็นมาตรฐาน ได้แก่
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC)
- ระบบควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน (DBC)
- ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC)
- ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS)
- ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (BA)
- เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง
- เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash sensor)
- ระบบ Teleservices และปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call)
BMW M2 ใหม่ มีสีให้เลือก 5 สี ได้แก่
- สีฟ้า Zandvoort Blue Solid
- สีขาว Alpine White Solid
- สีแดง Toronto Red Metallic
- สีเทา Brooklyn Grey Metallic และ
- สีดำ Black Sapphire Metallic
โดยสามารถเลือกการตกแต่งภายในด้วยเบาะหนัง Vernasca ในสี Black/Exclusive Highlight, สี Black/Contrast Stitching Blue, และสี Cognac Decor Stitching หรือเบาะหนัง Alcantara/Sensatec Combination ในสี Black/Contrast stitching Blue
เริ่มที่ 6.499 ล้านบาท
2023 BMW M2 มาพร้อมราคาเริ่มต้นที่ 6,499,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจ BSI Standard เรียบร้อยแล้ว
สามารถรับชมคันจริงของ 2023 BMW M2 และรถคันอื่น ๆ ในบูธ BMW ได้ที่งานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 44 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม - 2 เมษายน 2566 เวลา 12.00 - 22.00 น.
อ่านเพิ่มเติม : 2023 BMW M2 ฉีกกรอบงานดีไซน์ โมเดลส่งท้ายที่ไม่ใช้พลังไฟฟ้าใด ๆ