BMW I8 Roadster

2020 BMW i8 Roadster รถสปอร์ตเปิดประทุนแห่งโลกอนาคต

BMW ได้สร้างเสียงฮือฮาด้วยการเปิดตัวรถยนต์ต้นแบบ BMW i8 Concept ในปี 2011 ด้วยรูปทรงที่ดูเหมือนหลุดมาจากโลกอนาคต นับว่าเป็นรถที่รูปทรงดูดีที่สุดในรอบทศวรรษของ BMW และในปี 2012 ได้เปิดตัวรถต้นแบบอีกคันคือ BMW i8 Concept Spyder ซึ่งก็คือรถต้นแบบก่อนที่จะมาเป็น i8 Roadster ในทุกวันนี้ โดยในปีนั้น BMW ได้รับรางวัลรถยนต์ต้นแบบยอดเยี่ยมประจำปีนั้นด้วย
BMW i8 Roadster เปิดตัวครั้งแรกของโลกปลายปี 2017 โดยมีการเปรับปรุงสมรรถนะและแบตเตอรี่จาก BMW i8 รุ่นแรกที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2013 โดยมีการเพิ่มความจุแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออนจาก 7.1 kwh เป็น 11.6 kwh พร้อมเพิ่มกำลังให้มอเตอร์อีก 12 แรงม้า มอเตอร์มีกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 143 แรงม้า และเพิ่มความจุแบตเตอรี่จาก 20 ah เป็น 34 ah เพื่อรองรับกับมอเตอร์ตัวใหม่ที่ใช้ หลังคาเป็นแบบผ้าใบพับเก็บได้ 15 วินาทีโดยสามารถทำงานในขณะที่รถวิ่งได้ที่ความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. โดยในประเทศไทยได้เปิดตัว i8 Roadster เมื่อเดือนกันยายนปี 2018 ในราคา 12,999,000 บาท โดยในงาน Motor Expo 2020 ที่ผ่านมามีการลดราคาพิเศษเฉพาะซื้อภายในงานเหลือเพียง 9,999,000 บาท เท่านั้น ซึ่งไม่รู้ทางบีเอ็มประเทศไทยจะมีการลดราคาแบบนี้อีกหรือไม่

ราคา BMW i8 Roadster

BMW i8 Roadster ราคา 12,999,000 บาท

การออกแบบภายนอก BMW i8 Roadster

BMW i8 เป็นรถสปอร์ตที่มีดีไซน์โดดเด่นโฉบเฉี่ยวโดยไม่ทิ้งคอนเซปต์จากตัวต้นแบบแต่อย่างใด เรื่องความโฉบเฉี่ยวไม่ได้คิดไปเองแต่อย่างใดการันตีได้จากรางวัลรถต้นแบบยอดเยี่ยมทั้งตัว Coupe และตัว Spyder ที่กลายมาเป็น i8 Roadster อย่างที่เราเห็น ดีไซน์ภายนอกโดยรวมเหมือน i8 Coupe แทบทุกอย่าง ตัวถังแบนและกว้าง ไฟหน้าโดดเด่นด้วยเดย์ไลท์แบบ LED ไฟหน้าแบบ Laserlight กระจังหน้าไตคู่ดำเงาตัดด้วยทริมสีเงินหรือสีฟ้าสไตล์ไฮบริดขึ้นอยู่กับสีตัวถังภายนอก ฝากระโปรงมีช่องให้อากาศที่เข้าจากช่องรับลมด้านหน้าไหลผ่านเพื่อความลู่ลมและกดตัวถังให้นิ่งตามหลักอากาศพลศาสตร์ สิ่งที่ตัว Roadster แตกต่างจากตัว Coupe คือ หลังคาผ้าใบแบบพับเก็บได้ ประตูแบบ Frameless Door เสริมลุคให้ดูเท่ และสัญลักษณ์ Roadster แปะด้านข้างบริเวณเสา C และด้านหลังตรงกลางบริเวณเหนือห้องเครื่อง ช่องชาร์จไฟอยู่บริเวณหน้าเสา A ฝั่งผู้โดยสาร

มิติตัวรถ BMW i8 Roadster

การออกแบบภายใน BMW i8 Roadster

ภายในห้องโดยสารของ BMW i8 ทุกรุ่นมีการจัดวางอุปกรณ์ผสานกันได้อย่างลงตัว มีการเอียงคอนโซลให้เข้าหาผู้ขับขี่ สำหรับใน i8 Roadster ได้มีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์จากตัว i8 MY2013 ทั้งเบาะลายใหม่ หน้าจอมาตรวัดแบบใหม่ที่แสดงข้อมูลได้ชัดเจนและหลากหลายขึ้น จอกลางแบบทัชสกรีน วัสดุภายในหุ้มหนังสีดำให้ความรู้สึกนุ่มสบายแต่คุณสามารถเลือกตกแต่งด้วยทริมเซรามิคหรือทริมคาร์บอนก็ได้ซึ่งในสเปคเมืองไทยมาพร้อมทริมแบบ DryCarbon มาให้เลย สีเบาะภายในมีให้เลือก 2 สี สีส้มหรือสีดำ เบาะนั่งตอนหน้าสามารถปรับไฟฟ้าได้ แต่สิ่งที่ตัว Roadster แตกต่างจากตัว Coupe คือไม่มีเบาะหลังเพราะที่เป็นที่อยู่ของตัวกลไกเก็บหลังคาผ้าใบ พวงมาลัยมีปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชั่นมีการตัดด้วยเส้นสีขาวบนตัวพวงมาลัย โลโก้ BMW อยู่ภายในแบคกราวด์วงกลมสีฟ้าแสดงถึงความเป็นรถตระกูล

เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก BMW i8 Roadster

BMW i8 Roadster ติดตั้งเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกมาให้สมกับเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคต โดยมาพร้อมจอกลางแบบทัชสกรีนขนาด 8.8 นิ้ว มีปุ่มควบคุม iDrive พร้อมระบบสัมผัสเพื่อควบคุมระบบอินโฟเทนเมนท์ภายในรถ มีระบบแสดงข้อมูลการขับขี่ยิงขึ้นที่กระจกหน้าฝั่งคนขับ (HUD) สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth หรือจะเสียบ USB โดยรุ่นนี้จะสามารถรองรับ Apple CarPlay ได้แล้ว มีแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย เพิ่มความสุทรีย์ในการเดินทางด้วยเครื่องเสียงจาก Harman Kardon 

ระบบความปลอดภัย BMW i8 Roadster

BMW i8 Roadster ไม่ได้ล้ำแค่หน้าตา ระบบความปลอดภัยก็เพรียบพร้อมโดยมาพร้อมกับระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (BA) ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC) ระบบ Driving Assist ที่เป็นระบบความปลอดภัยแบบแอคทีฟประกอบไปด้วย ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร (Lane Departure Warning) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา (Lane Change Warning) ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง (Crossing-traffic Warning Rear) ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติเมื่อตรวจเจอรถและคนเดินถนนที่ความเร็วต่ำ (City Braking Function) ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติขณะถอยจอด (Rear Collision Prevention) และระบบเตือนป้ายจราจร (Speed Limit Info and no-overtaking indicator) เพื่อไม่ให้คุณโดนใบสั่งจากการเผลอซิ่งโดยไม่จำเป็น สำหรับการใช้งานในเมือง i8 มาพร้อมระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชั่น Hold ที่จะเหยียบเบรคค้างไว้ให้เราอัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง มีเซนเซอร์กะระยะถอยจอดด้านหน้าและหลัง ช่วยให้มั่นใจในการถอยจอด และยังมีระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้คนเดินเท้า

ขุมพลังและสมรรถนะ BMW i8 Roadster

BMW i8 ทุกรุ่นมาพร้อมขุมพลังแบบ Plug-In Hybrid เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตรพ่วงเทอร์โบขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะให้กำลังสูงสุด 231 แรงม้าที่ 5800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตรที่ 3700 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัส 2 ตัว กำลังมอเตอร์สูงสุด 142 แรงม้าที่ 4800 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 0 - 2500 รอบ/นาที เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 374 แรงม้า ความเร็วสูงสุดล็อคไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงอยู่ที่ 4.6 วินาที ด้านอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 47.6 กิโลเมตร/ลิตร ระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 51 กรัม/กิโลเมตร

BMW i8 Roadster มาพร้อมโหมดการขับขี่หลัก 4 โหมดได้แก่ Comfort, Eco Pro, Sport และ eDrive โดย 3 โหมดแรกจะทำงานแบบผสมผสานหรือไฮบริด แต่สำหรับโหมด eDrive จะทำงานโดยใช้ไฟฟ้าล้วน ซึ่งในโหมด eDrive ถ้าเราเลือกแบบ eDrive Max ระบบจะอนุญาตให้เราใช้ความเร็วได้ถึง 120 กม./ชม. เลยทีเดียว การขับขี่เรียกได้ว่าขับได้สมูทการทำงานผสานกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์เป็นไปได้อย่างราบรื่น ถ้าเลือกโหมด Sport จะมีการสังเคราะห์เสียงเครื่องยนต์และมาตรวัดจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสร้างบรรยากาศให้รู้สึกเหมือนขับรถสันดาปเครื่อง V8 ยังไงยังงั้น การขับอาจจะต้องใช้ความระมัดระวังในการกะระยะซ้ายขวาเล็กน้อยเพราะรถกว้าง เสาเอค่อนข้างบังทัศนวิสัยตามสไตล์รถซุปเปอร์คาร์ ยังดีที่มีกล้องและเซนเซอร์เตือนมุมบอดช่วย การเก็บหลังคาทำได้ไวจริง ลองเปิดหลังคาแบบที่ขับรถไปด้วยพบว่าก็ทำงานได้ปกติ แต่อย่าขับเร็วกว่า 50 กม./ชม. ไม่งั้นกลไกจะหยุดทำงานและงานจะเข้าทันที ต้องจอดให้มันทำงานให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน

ก่อนที่จะเข้าไปสัมผัสความสบายใน BMW i8 Roadster ก็ต้องผ่านความลำบากจากการก้าวข้ามผ่านธรณีประตูขนาดใหญ่ไปเสียก่อน การจะขึ้นไปขับหรือจะโดยสารเจ้า i8 ไม่ใช่เรื่องง่ายคุณจะต้องมีสเตปในการเข้านิดหน่อยคือ คุณจะต้องนั่งบนธรณีประตูก่อนจากนั้นค่อยก้าวขาเข้าไปข้างหนึ่งในขณะนั่งอยู่แล้วค่อยสไลด์ตัวลงไป สำหรับคุณผู้หญิงไม่แนะนำให้ใส่กระโปรงเพราะจะลำบากเป็นพิเศษ แต่เมื่อเข้ามาได้แล้วก็จะพบว่าข้างในออกแบบมาได้ดี มีการบุนุ่มในทุกๆ ที เบาะเป็นแบบระบายอากาศมีพัดลมช่วยเป่าเพิ่มความสบายตัวแก่คนที่นั่ง เบาะปรับไฟฟ้าใช้งานดี นั่งค่อนข้างกระชับตัวเราจะได้ไม่สไลด์หลุดจากเบาะเวลาที่ขับแบบสปอร์ตแต่ไม่มีดันหลังมาให้ การเก็บเสียงอาจจะไม่ดีเท่าตัว Coupe อาจจะเพราะด้วยหลังคาผ้าเสียงเลยเล็ดลอดเข้ามาเยอะกว่า แต่เครื่องเสียง Harman Kardon จะช่วยกลบเสียงที่ไม่พึงประสงค์ไปได้ หรือจะขับโหมดสปอร์ตเอาเสียงเครื่อง V8 สังเคราะห์กลบไปเลยก็ได้เช่นกัน

BMW i8 Roadster คือรถสปอร์ตเปิดประทุนที่ล้ำสมัยและโดดเด่น มีการปรับปรุงสมรรถนะให้ดีขึ้นจาก i8 ตัวแรก ทำให้ให้รู้สึกถึงความสปอร์ตมากขึ้น หลายคนที่เป็นสาวกบีเอ็มรู้ดีว่าบีเอ็มไม่ได้มีรถที่มีดีไซน์ที่เป็นทรงรถซุปเปอร์คาร์มานานมากนับตั้งแต่ BMW M1 แล้ว ดังนั้น BMW i8 ไม่ว่าจะตัวถังไหนก็นับว่าเป็น BMW ที่สวยที่สุดของทศวรรษนี้เลย และไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์เท่านั้น ขุมพลังตัวนี้ต่างได้รับการยอมรับในแง่การใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่าการันตีด้วยรางวัล Engine of the year 5 ปีซ้อน ดังนั้นถ้าคุณต้องการรถสปอร์ตเปิดประทุนที่โดดเด่น แรง และรักษ์โลก i8 Roadster คันนี้คือคำตอบสำหรับคุณแน่นอน และจะไม่มีทางตกรุ่นเพราะ BMW ได้ยกเลิกการผลิต i8 ไปแล้ว