เดี๋ยวนี้เวลาไปซื้อรถใหม่ เซลล์มักจะมีของแถมเป็นของแต่งรถให้เสมอ กระจังหน้าบ้าง ล้อบ้าง หรือเบาะหุ้มหนัง โดย Toyota (โตโยต้า) เองเป็นอีกค่ายหนึ่งที่มักจะออกแบบชุดแต่งเสิรมให้รถออกมาใหม่อยู่เสมอ ๆ
ชื่อชุดแต่งที่คนไทยน่าจะคุ้นชินกันดี ก็คือ TRD Sportivo ที่วางขายในไทยมาหลายปีแล้ว รวมถึง TRD ธรรมดาที่ทำรถออกแข่ง
แต่เมื่อไมกี่ปีที่ผ่านมา มีการมาถึงของ Gazoo Racing ทีมแข่งค่ายสามห่วงที่พึ่งก่อตั้งเมื่อ 2015 ออกมาทำให้ TRD มีบทบาทน้อยลง แต่จริง ๆ เขาแตกต่างกัน จะส่วนไหนบ้างมาดู
ทั้ง TRD และ GR จะเป็นแผนกการพัฒนารถยนต์ด้าน Performance ภายใต้แบรนด์แม่ Toyota โดย TRD นั้นมีมานานแล้ว ขณะที่ GR พึ่งเปิดตัวในวงการได้ไม่นาน โดยเราจะเห็นว่าทั้ง 2 แบรนด์จะมีบทบาททั้งในด้าน Motorsport และ Performance สายถนนอย่างมาก
TRD มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Toyota Racing Development ก่อตั้งในปี 1954 ที่ Shibaura Tokyo ภายใต้ชื่อ TOYOPET Maintenance.co.ltd ดำเนินธุรกิจเพื่อปรับแต่งรถยนต์และเครื่องยนต์ และเข้ามาไทยปี 1986
TRD เน้นผลิตอุปกรณ์เสริมและของตกแต่งให้กับ Toyota และ Lexus (เลกซัส) ในบางรุ่น รวมถึง Scion ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่าง, ซุปเปอร์ชาร์จ, ล้อ บอดี้พาร์ทส่วนต่าง ๆ และของตกแต่งรถทั่วไป เพื่อเพิ่มความสปอร์ตให้กับรถทั้งทางด้านสมรรถนะและภาพลักษณ์
โดยส่วนมากจะขายในรุ่นท็อปของรถยนต์ของรุ่นอย่าง Toyota Hilux (โตโยตา ไฮลักซ์) , Toyota Vios (โตโยต้า วีออส) และ Toyota Corolla Altis (โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส) ในชื่อ “TRD Sportivo” ซึ่งเน้นไปที่ชุดแต่งภายนอกให้ดูสปอร์ตสวยงาม รวมถึงมีการปรับปรุงช่วงล่างเพิ่มขึ้น แต่จะไม่มีการยุ่งเกี่ยวกับการเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์
สำหรับทีม GR หรือ Gazoo Racing จะสามารถเห็นได้เรื่อย ๆ ทั้งในด้านมอเตอร์สปอร์ตและกิจกรรมในช่วงหลัง
โดย GR ถือเป็นแบรนด์ค่อนข้างใหม่ เกิดจากการรวม Toyota Racing, Lexus Racing และหน่วยงานที่เกี่ยวกับกิจกรรมการแข่งรถของ Toyota เข้ามาไว้ด้วยกันในปี 2015
ส่วนคำว่า Gazoo มาจากคำว่า “Garage” หรือโรงรถ เพื่อให้สื่อความหมายถึงสถานที่ที่ผู้คนทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงรายละเอียดต่าง ๆ ของรถ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งมอบรถยนต์ที่มี Performance สูงขึ้นให้กับลูกค้า
แต่ที่มาของคำนี้เริ่มแรกจะมาจากภาษาญี่ปุ่นนั่นคือคำว่า “Gazo” ที่หมายถึง Image หรือ ภาพลักษณ์ จึงมีความหมายเชิงว่า “การมีภาพลักษณ์ของการเป็นรถแข่ง”
กลายเป็นว่าบทบาทของ TRD ในการแข่งค่อย ๆ หายไป เป็นการทำชุดแต่งออกมาแทน
GR จะเน้นไปในสเกลที่ใหญ่กว่า TRD คือจะทำรถในเวอร์ชั่น Performance ที่สูงกว่ารุ่นทั่วไปเพื่อจำหน่ายออกสู่ตลาด โดยมีการขัดเกลาและปรับปรุงให้มากขึ้นอย่างการปรับแต่งเครื่องยนต์ที่แรงขึ้น, ปรับชุดแต่งที่ดูสปอร์ตเพื่อให้ได้แอร์โร่ไดนามิคที่มีประสิทธิภาพกว่าเดิม, ล้อที่เบาขึ้น, โช้คที่ออกแบบมาเพื่อเกาะถนนที่ดีกว่าเดิม และเบรกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับสมรรถนะของรถ
ซึ่งจะเป็นการผลิตสำเร็จออกมาทั้งคันจากโรงงานโดยมีคำว่า “GR” บวกเข้าไปกับชื่อรุ่นด้วยโดยปัจจุบันมีด้วยกัน 3 รุ่นคือ Toyota GR Yaris (โตโยต้า จีอาร์ ยาริส), Toyota GR86 (โตโยต้า จีอาร์86) และ Toyota GR Supra (โตโยต้า จีอาร์ ซุปร้า)
ทำให้มีความคล้ายคลึงกับ WRX STi ของ Subaru (ซูบารุ), AMG ของ Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) หรือ M ของ BMW (บีเอ็มดับเบิ้ลยู)
สรุปง่าย ๆ คือ TRD เน้นสร้างชุดแต่งเพื่ออัพสมรรถนะช่วงล่างและแอร์โร่ได้นามิค ขณะที่ GR เน้นสร้างรถใหม่ทั้งคันในเวอร์ชั่นที่แรงขึ้นจากธรรมดา
เปรียบเทียบกับ TRD จะเหมือน AMG Sport ที่เน้นผลิตชุดพาร์ทและอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ขณะที่ GR จะเป็น "AMG" ที่เน้นพัฒนาประสิทธิภาพด้านเครื่องยนต์รวมถึงยังสร้างรถในเวอร์ชั่นแรงในรุ่นที่มี AMG ต่อท้ายเพื่อจำหน่ายในท้องตลาด
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}