ลองขับ Toyota bZ4X คันจริงจากญี่ปุ่น ดีแทบทุกด้าน ใช้งานได้จริง เหลือแค่ราคาเป็นตัวตัดสิน

สื่อญี่ปุ่นมีโอกาสลองขับ Toyota bZ4X เป็นครั้งแรก ได้มาเล่าประสบการณ์ และรีวิวทุกมุมเกี่ยวกับรถรุ่นนี้ พบว่าทำออกมาได้มีคุณภาพ ที่น่ากังวลอย่างเดียวคือราคา

• Toyota bZ4X เตรียมเปิดตัวไทย
• ภายนอกสวยแบบสมดุลย์
• หน้าจอยังไม่ล้ำ
• เบาะนั่งเน้นเหยียดขา
• อัตราเร่งแรงตามสั่ง
• เข้าโค้งมั่นใจ แม้รถทรงสูง
• พื้นฐานแกร่ง ตัวถังยืดหยุ่น
• ระบบ One-Pedal นุ่มนวล
• ลองขับรุ่น FWD
• เป็น EV ที่ไม่แปลกไปจากรถน้ำมัน

Toyota bZ4X เตรียมเปิดตัวไทย

2023 Toyota bZ4X (2023 โตโยต้า บีแซด4เอ็กซ์) รถครอสโอเวอร์พลังไฟฟ้าล้วนรุ่นล่าสุด ที่มีข่าวเตรียมเปิดตัวขายในเมืองไทยไม่เกินปลายปีนี้ แบบประกอบในประเทศ กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็น EV ที่ผลิตออกจำหน่ายในวงกว้างรุ่นแรกของ Toyota มีความเคลื่อนไหวล่าสุดทางสื่อมวลชนในญี่ปุ่นมีโอกาสลองขับรุ่นนี้ จะมาเล่าประสบการณ์จริงทุกด้านให้อ่านกัน

ภายนอกสวยแบบสมดุลย์

ภายนอกให้ความรู้สึกเหมือน BEV ด้านหน้าแบบไม่มีกระจังหน้า แต่โดยรวมแล้วทำให้รู้สึกว่า RAV4 และ Harrier ซึ่งเป็นจุดที่ดี ดูเหมือนจะมีความเห็นว่า "รูปร่างมันธรรมดาเกินไปสำหรับ BEV หรือเปล่า" แต่โดยส่วนตัวแล้ว การออกแบบที่ "ไม่ล้ำหน้าเกินไป แต่ไม่อนุรักษ์นิยม" เป็นความสมดุลที่สมบูรณ์แบบ เหมาะสมกับการมุ่งเป้าไปที่การทำให้เป็นที่นิยมในคนหมู่มาก

หน้าจอยังไม่ล้ำ

ภายในให้ความรู้สึกแปลกใหม่ ด้วยมาตรวัดแบบไม่มีหน้ากาก และคันเกียร์แบบแป้นหมุน แต่ระบบปฏิบัติการซึ่งอยู่ตรงกลางจอแสดงผลขนาดใหญ่ในแนวนอนนั้นใช้งานได้จริง การรวมกันของคอนโซลแผงคอนโซลกลางและหน้าจอทำให้ผมนึกถึง "Auris" รุ่นดั้งเดิม 

อ่านเพิ่มเติม : Toyota คาดการณ์ยอดขายรถปีนี้ 8.6 แสนคัน เตรียมลุยไฟฟ้า ส่ง bZ4X เข้าไทยปีนี้

การออกแบบคอนโซลส่วนบนที่แบนของแผงหน้าปัด และการออกแบบเสา A แบบบาง ทำให้ Toyota bZ4X มีทัศนวิสัยด้านหน้าดีที่สุดในบรรดารถยนต์โตโยต้า แต่เมื่อปรับพวงมาลัยแล้ว ส่วนหนึ่งของจอแสดงผลมาตรวัดจะมองเห็นได้ยาก ถ้าจะให้ดี ผมว่าถ้าหน้าปัดตรงนี้มีการปรับค่าได้ด้วยก็คงดี

อย่างไรก็ตาม การนำทางเป็นแบบคลาวด์รุ่นใหม่ แต่ผมกังวลเกี่ยวกับรายละเอียด เช่น หน้าจอไม่สามารถแบ่งหน้าจอแอพออกเป็น 2 ฝั่งได้เหมือนระบบก่อนหน้า รวมถึงหน้าตาไอคอนและโปรแกรม มันไม่ค่อยรู้สึกว่าล้ำสมัย เหมือนอย่างที่ครั้งหนึ่งโตโยต้าเคยทำได้

เบาะนั่งเน้นเหยียดขา

เบาะหน้าของ Toyota bZ4X จะเป็นตำแหน่งเบาะนั่งแบบรถเก๋ง ที่มีทัศนวิสัยสูงกว่าการนั่งรถเอสยูวี เบาะหลังใช้ประโยชน์จากระยะฐานล้อยาว และคงจะไม่เกินไปหากบอกว่า พื้นที่วางเท้าก็ใหญ่เท่ากับ Lexus LS รถรุ่นท็อปสุดในบรรดาเลกซัส

อย่างไรก็ตาม การมีระยะห่างใต้ท้องรถ 210 มม. ขณะติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ใต้พื้น ผลที่ได้คือ ท่านั่งจะยิมนาสติกเล็กน้อย นั่งห้อยขายาก แต่ผมคิดว่ามันพอให้อภัยได้ เพราะมีพื้นที่สำหรับเหยียดขามากมาย  พร้อมพื้นที่สำหรับกระเป๋าเดินทาง 4 ใบได้อย่างสบาย ๆ โดยไม่บดบังกระจกมองหลัง

อัตราเร่งแรงตามสั่ง

ลองขับคันแรกด้วยรุ่น AWD กำลังมอเตอร์หน้า-หลังอย่างละ 107 แรงม้า คุณจะสัมผัสได้ถึง การตอบสนองไวที่เป็นคุณลักษณะของมอเตอร์ตั้งแต่เริ่มต้นการวิ่ง แต่ก็ไม่มีความแตกต่างจากเครื่องยนต์สันดาปภายในมากนัก เพราะการทำงานของคันเร่งยังหน่วงไว้อยู่

Toyota bZ4X มีความแรงจะเพิ่มขึ้นเท่าที่จำเป็น จนรู้สึกว่ามันอาจจะเหมือนกับเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ผลิตมาอย่างดีมากกว่าจะเป็น BEV เมื่อคนขับเหยียบคันเร่ง จะมีขอบเขตที่กำหนดด้วยเท้าเราเองได้ว่า "ผมต้องการกำลังมากขนาดนี้" ระดับของแป้นเหยียบนั้นสูงสำหรับรถยนต์โตโยต้าในรุ่น TNGA แต่ก็ถือว่าดีที่สุดในหมู่พวกเขา

เข้าโค้งมั่นใจ แม้รถทรงสูง

การขับเข้าโค้งบนทางเรียบ มีความแม่นยำสูง Toyota bZ4X ให้การเลี้ยวกระฉับกระเฉงเหมือนรถขับเคลื่อนล้อหน้า เมื่อเข้าโค้งรู้สึกว่ายางทั้งสี่โค้งงอเหมือนเกาะผิวถนนระหว่างเข้าโค้ง และความมั่นคงเหมือนขับ 4 ล้อเมื่อออกจากโค้ง นับว่าเป็นการเข้าโค้งที่เปลี่ยนความเชื่อเรื่องระบบขับเคลื่อนไปเลย เพราะรวมลักษณะนิสัยของรถมุดไวแบบขับหน้า และยัดโค้งได้อย่างรถขับ 4 ล้อ

อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ถูกปรับแต่งให้เข้ากับบุคลิกแบบสปอร์ต แต่ด้วยเหตุนี้ มันจึงทำได้เพียงการขับขี่แบบสปอร์ตเท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง หมายความว่า "ใครๆ ก็สัมผัสได้ถึงสมรรถนะที่ดี ให้ความมั่นใจ" ซึ่งความเที่ยงตรงและไว้ใจได้นี้ เป็นรสนิยมส่วนหนึ่งของบริษัทโตโยต้าอยู่แล้ว

คุณภาพการขับขี่นั้นยังบอกไม่ได้มากนัก เพราะขับในสนามแข่ง แต่มีความประทับใจว่าสปริงสามารถเอาชนะขอบเนินริมแทร็คได้ ทั้งที่ใส่ล้อขนาด 235/50 R20 ผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างดีมากทีเดียวบนพื้นที่แบบนั้น

พื้นฐานแกร่ง ตัวถังยืดหยุ่น

2023 Toyota bZ4X มีคุณสมบัติพื้นฐานที่ดี เช่น ระยะยื่นด้านหน้าและด้านหลังสั้น และจุดศูนย์ถ่วงต่ำเนื่องจากการวางของหนักไว้ใต้พื้น แกนกลางยังเสริมความแข็งแรงรอบพื้น ซึ่งได้รับการออกแบบมาอย่างแข็งแกร่งเพื่อปกป้องแบตเตอรี่ในการชนกัน สิ่งสำคัญคือการทำให้โครงสร้างส่วนล่างแข็งแรง และในทางกลับกัน ตัวถังส่วนบนควรจะค่อนข้างยืดหยุ่นดี

การขับขีที่ดีเหล่านี้ อาจเป็นผลมาจากมอเตอร์แยกด้านหน้าและด้านหลัง คอยควบคุมแรงบิดอย่างอิสระด้วย อย่างไรก็ตาม การควบคุมแรงบิดไม่ใช่ระบบช่วยเข้าโค้ง แต่มันช่วยเสริมแค่ไม่หลุดโค้งก็เป็นพอ

ระบบ One-Pedal นุ่มนวล

Toyota bZ4X ยังมีโหมด One-Pedal ที่ด้านขวาของแผงหน้าปัดกลาง ระบบหน่วงเมื่อถอนคันเร่งจะแรงขึ้น เพื่อชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ โดยแรงชะลอตัวจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น เหมือนกับการเบรกโดยคนขับรถที่ดี ทำให้ไม่รู้สึกแปลกจากรถปกติ แม้จะใช้คันเหยียบคันเดียว ทำให้ผู้โดยสารไม่โยกหัวทุกครั้งที่ถอนคันเร่ง ส่วนระบบเบรคจริง ๆ มีความรู้สึกเป็นธรรมชาติอย่างนุ่มนวล ซึ่งคล้ายกับรถยนต์ไฮบริดมากกว่า

อ่านเพิ่มเติม : Toyota BZ4X รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของโตโยต้า เลื่อนการขายไปปลายปี 2022

ความเงียบระดับรถหรู

ดูเหมือนว่าเรื่องความเงียบจะเป็น BEV ตามธรรมชาติ มีแค่เสียงอินเวอร์เตอร์ที่ได้ยิน และเมื่อขับด้วยความเร็วคงที่การสนทนาระหว่างเบาะนั่งด้านหน้ากับ เบาะหลังยังอยู่ในระดับเสียงปกติ ส่วนเมื่อขับด้วยความเร็วสูง เสียงลมจะน้อยลง ตรงกันข้าม เสียงยางบนท้องถนนดังเข้ามามากตามความเร็ว สรุปโดยรวมแล้ว การเก้บเสียงนี้ สามารถเรียกได้ว่าเป็น "รถเก๋งระดับพรีเมียมที่ยกสูง" มากกว่าเอสยูวี

การขับครั้งนี้เป็นการทดสอบขับบนถนนเรียบเท่านั้น ผมไม่สามารถสัมผัส "X-MODE" และ "grip control" ที่ปรับปรุงความสามารถในการวิ่งบนถนนที่ขรุขระได้ แต่ด้วยระยะห่างใต้ท้องรถ 210 มม. ที่สูงเกิน RAV4 ไปอีก จึงไม่น่าห่วงเรื่องการเกยตื้นง่าย

ลองขับรุ่น FWD

การทดลองขับ Toyota bZ4X ยังมีรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า กำลังมอเตอร์ 150kW) ขนาดยางจะแตกต่างจาก AWD และติดตั้งล้อขนาด 235/60 R18 มาแล้ว Toyota bZ4X มีระบบส่งกำลังเกือบจะเหมือนกับ AWD แต่ดูเหมือนว่าจะยากหน่อยที่จะยอมรับประสิทธิภาพนี้กับล้อหน้า ทำให้เมื่อกดคันเร่งแรง จะถูกระบบป้องกันล้อฟรีทำงานบ่อย ๆ

แม้ว่า Toyota bZ4X รุ่นขับหน้า มีลักษณะที่เปลี่ยนไปเมื่อเทียบกับ AWD แต่มันอยู่ในความคาดหวัง และยังคงเป็น รถขับหน้าที่สร้างการขับขี่ออกมาได้มั่นใจดี เพราะมีความประทับใจด้านคุณภาพการขับขี่ที่นิ่มนวล ด้วยล้อ 18 นิ้ว ที่ผมคิดว่าดีกว่ารุ่น AWD ที่ใส่ 20 นิ้ว

เป็น EV ที่ไม่แปลกไปจากรถน้ำมัน

การลองขับ Toyota bZ4X ทำให้ผมมีความประทับใจในการเป็น "รถที่ดี" มากกว่าการเป็น BEV ที่ดี เพราะมันให้อารมณ์การขับไม่รู้สึกแปลกเลย ทั้งที่คุณเพิ่งจะเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนขนานใหญ่ มาจากเครื่องยนต์สันดาปภายในก็ตาม แน่นอนว่ามันยังไม่เหมือนกับเครื่องยนต์สันดาปภายในตรงที่ระยะการขับและปัญหาการชาร์จอยู่ดี

ด้านราคาขาย โตโยต้าเคยกล่าวว่า "เราต้องการลดต้นทุนและส่งมอบรถในราคาที่เหมาะสมเพื่อเผยแพร่ BEV ให้เป็นที่นิยมในหมู่มาก" ซึ่งจะต้องจับตาดูในวันเปิดตัวกลางปีนี้ (ขอบคุณรูปและบทความจาก: คารุมะนิวส์)

อ่านเพิ่มเติม : คาดราคาขายไทย 2023 Toyota bZ4x เริ่มต้น 1.99 ล้านบาท