เมื่อกล่าวถึง BMW X1 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์1) รถที่ถือว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นของ SAV หรือรถสปอร์ตอเนกประสงค์จากบีเอ็มดับเบิลยู เราจะนึกถึงประโยชน์ใช้สอยและการใช้งานที่หลากหลาย รวมกับการขับขี่สไตล์บีเอ็มดับเบิลยู ทำให้รถรุ่นนี้มีความคุ้มค่าอย่างยิ่ง
สำหรับในปี 2022 นี้ BMW X1 ยังคงมาพร้อมคุณสมบัติต่าง ๆ ที่มีความคุ้มค่า รวมถึงดีไซน์ที่มีความดุดัน พร้อมยังคงความอเนกประสงค์ซึ่งเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้ไว้อย่างครบถ้วน
2022 BMW X1 มีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นย่อย ได้แก่ X1 sDrive20d xLine รุ่นเริ่มต้น และรุ่นท็อป X1 sDrive20d M Sport
รูปร่างภายนอกแบบใหม่ ดุดันยิ่งขึ้น
หากมองดูภาพรวมของทั้ง 2 รุ่นย่อยนี้ เราจะพบว่า 2022 BMW X1 นั้นมีเส้นสายภายนอกของรถที่ดูชัดเจนขึ้น เริ่มตั้งแต่กระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ ไฟหน้าแบบ LED ในรุ่น M Sport จะมาพร้อมชุดแต่ง M Aerodynamics ที่ให้ความสปอร์ตยิ่งขึ้น
ด้านข้าง เราจะพบล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้วลาย Double-spoke แบบสลับสี พร้อมด้วยยาง 225/45 R19 ในรุ่น M Sport ที่เสริมให้เข้ากับตัวรถให้มากขึ้น
ด้านท้ายของรถเราจะพบกับไฟท้ายแบบ LED ที่เสริมความดุดันของรถ ทำให้ภาพรวมของรถดูแข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงท่อไอเสียคู่และแผ่นรองใต้รถด้านหลังที่เสริมความสปอร์ตควบคู่กันมาอีกด้วย
ภายในที่อเนกประสงค์และมีการใช้งานที่ครบครัน
เมื่อเราก้าวเข้าไปในรถ ภายในของ 2022 BMW X1 จะเป็นดีไซน์สปอร์ตในแบบที่ใช้งานได้ง่าย ฟีเจอร์ภายในรถที่น่าสนใจ ได้แก่
- ชุดไฟส่องสว่างภายนอกและไฟภายในห้องโดยสาร
- เบาะนั่งหนังแท้ Dakota พร้อมรูระบายอากาศ
- พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ M Sport (ในรุ่น M Sport)
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน
- BMW Head-Up Display
- หน้าจอ infotainment ตรงกลางขนาด 10.25 นิ้ว
- กล้องมองหลัง
- ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant)
การเชื่อมต่อในรถมีทั้ง BMW ConnectedDrive, ระบบวิทยุพร้อมแผนที่นำทาง, ระบบเครื่องเสียง HiFi loudspeaker และการเชื่อมต่อ Apple CarPlay
เบาะแถวหลังที่สามารถปรับเอนได้ เพิ่มความสบายขณะเดินทาง ภายในของรถยังมีจุดเด่นอยู่ที่ความอเนกประสงค์ โดยสามารถแยกพับเบาะได้แบบ 40:20:40 และยังสามารถเลื่อนเบาะไปด้านหน้าและหลังได้มากสุดถึง 130 มม.
โดยพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายก่อนพับเบาะจะอยู่ที่ 505 ลิตร และเมื่อพับเบาะทั้งหมดแล้วจะเก็บสัมภาระได้มากสุด 1,550 ลิตร และเก็บสัมภาระได้ง่ายขึ้นด้วยฝาท้ายไฟฟ้าที่เปิด-ปิดอัตโนมัติ
เครื่องยนต์ดีเซลหนึ่งเดียวในตลาดที่ให้ความประหยัดน้ำมัน
2022 BMW X1 ทั้งสองรุ่นย่อยมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ขนาด 1,995 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,750 - 2,500 รอบ/นาที
ด้วยกำลังเครื่องยนต์ดังกล่าว ทำให้รถมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.9 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 222 กม./ชม. แม้จะมีสมรรถนะที่น่าสนใจ แต่อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยจะอยู่ที่ 19.2 กม./ลิตร และระดับการปล่อย CO2 เพียง 137 กรัม/กม. เท่านั้น
ความปลอดภัยที่ครบครัน
ระบบความปลอดภัยพื้นฐานของ 2022 BMW X1 มีให้อย่างครบครัน ได้แก่ ABS, DSC, DTC และ DBC นอกจากนี้ยังมีถุงลมนิรภัยที่ครอบคลุมคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง
นอกจากความปลอดภัยพื้นฐานแล้ว ยังมีระบบความปลอดภัยที่มีเฉพาะในรถบีเอ็มดับเบิลยู เช่น
- ระบบ Teleservices ที่สามารถจดจำช่วงเวลาการบำรุงรักษาของรถให้เราได้,
- ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call) และ
- ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Attentiveness Assistant)
รุ่นย่อยและราคาที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน
2022 BMW X1 มีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นย่อย ได้แก่
โดยราคานี้ยังไม่รวม BSI STANDARD Package มูลค่า 30,000 บาท
2022 BMW X1 มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว Alpine White, สีดำ Black Sapphire และสีเทา Mineral Grey โดยสองสีแรกจะมาพร้อมภายในเบาะหนัง Dakota สีน้ำตาล Mocha ส่วนสี Mineral Grey จะมาพร้อมภายในสีดำ
รถคันนี้เหมาะกับใคร
2022 BMW X1 นั้นเหมาะกับผู้ที่ต้องการความอเนกประสงค์ ทัศนวิสัยที่ดีขึ้นจากรถซีดาน การขับขี่ที่ดีและความหรูหราตามแบบฉบับ BMW พร้อมคุณสมบัติต่าง ๆ ของตัวรถที่ยังตอบโจทย์การใช้งานของคนในยุคปัจจุบัน
[Sponsored by BMW Thailand]