Review 2021 Nissan Navara Pro-4X เพิ่มจุดเด่น ลบจุดอ่อน เน้นทนทานเหมือนเดิม

 

2021 Nissan Navara (นิสสัน นาวาร่า) รถกระบะที่เพิ่งเปิดรุ่นปรับโฉมครั้งใหญ่ในรอบ 6 ปี เปลี่ยนรายละเอียดทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงเครื่องยนต์ใหม่ เป็นการลบจุดด้อยเดิมออกไปหลายสิ่ง พร้อมทั้งความพิเศษในรุ่น Pro-4X ที่เรามาขับกันในวันนี้ มีการเพิ่มจุดเด่นที่ความหล่อทั้งภายนอกและภายใน แต่ว่าเท่านี้จะเพียงพอที่จะต่อกรกับคู่แข่งหรือไม่

คู่แข่งของรถกระบะนิสสันในปัจจุบัน ไม่ใช่อีซูซุและโตโยต้าที่ผลัดกันอยู่อันดับ 1 และ 2 มาตลอด แต่นิสสันนั้นมองตำแหน่งที่ 3 เอาไว้ ซึ่งมีหลายค่ายเล็งไว้เหมือนกันนั่นคือ  Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) และผู้ท้าชิงรายล่าสุดอย่าง Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) ซึ่งเราจะมาสรุปเทียบคู่แข่งในตอนท้ายบทความนี้

ทำราคาได้ดี

ในบรรดารถกระบะ 4 ประตูแบรนด์ญี่ปุ่นนั้น นิสสัน นาวาร่า ทำราคาออกมาได้ไม่สูงมากนัก โดยเฉพาะตัวท็อปนั้นมีราคาแตะ 1.15 ล้านบาท แต่ถ้าใครเอื้อมไม่ถึงก็ยังมีรุ่น VL และอื่น ๆ ให้เลือกตามตารางนี้

ราคา Nissan Navara Double Cab

PRO-4X 4WD 7AT

1,149,000 บาท

4WD VL 7AT

1,129,000 บาท

PRO-2X 2WD 7AT

999,000 บาท

CALIBRE V 7AT

965,000 บาท

CALIBRE V 6MT

915,000 บาท

CALIBRE E 7AT

899,000 บาท

CALIBRE E 6MT

849,000 บาท

Highlight ใน 2021 Nissan Navara Pro-4X

  • กระจังหน้าใหม่

  • ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์

  • ฝาท้ายลายใหม่

  • เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่

  • ชุดแต่งสไตล์บึกบึน

  • เพิ่มระบบความปลอดภัย

มิติตัวถัง

กว้าง

1,840 มิลลิเมตร

ยาว

5,260 มิลลิเมตร

สูง

1,875 มิลลิเมตร

ระยะฐานล้อ

3,150 มิลลิเมตร

ความสูงใต้ท้องรถ

225 มิลลิเมตร

น้ำหนัก

2,083 กิโลกรัม

ภายนอกแต่งหล่อ แต่ยังไม่สุด

2021 Nissan Navara Pro-4X แต่งให้แตกต่างจากรุ่นปกติ ดยทุกชิ้นส่วนที่เป็นโครเมียม กลายเป็นสีดำไปจนหมด กันชนหน้าก็เพิ่มการ์ดล่างที่หนาขึ้น ใส่คิ้วขอบล้อสีดำเข้ม จนไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าไม่สวย ยกเว้นคุณจะชอบแนวหรูก็คงเบนไปซื้อรุ่น VL ตั้งแต่แรกเห็น

ฟังก์ชั่นลับที่ไม่เหมือนใคร

ที่กระบะท้ายมีฟังก์ชั่นพิเศษ คือตะขอเหล็กอยู่บนรางเลื่อน ติดอยู่ผนังกระบะด้านใน เป็นมาตรฐานให้เฉพาะรุ่นตระกูล Pro เท่านั้นด้วย เอาไว้ให้คล้องเชือกรัดของได้อย่างแน่นหนาสุด ๆ แต่ข้อเสียคือ จะติดตั้งพื้นปูกระบะแบบมาตรฐานไม่ได้ ซ่งในความเห็นส่วนตัวผู้เขียนแล้ว พื้นปูกระบะจะถูกใช้งานบ่อยมากกว่าตะขอรัดเชือก ควรจะถอดตะขอนี้ออก แล้วไปเพิ่มบางสิ่งที่ขาดหายไปดีกว่า

สิ่งที่ขาดไปใน Pro-4X

สิ่งที่ยังขาดไปในรถราคาเกือบ 1.15 ล้านบาทแล้ว นั่นคือ สปอร์ตบาร์ขอบกระบะ กับสปอยเลอร์ขอบฝาท้าย จะช่วยให้รถดูไม่โล้นเกินไป คาดว่าคงเก็บอุปกรณ์เหล่านี้ไว้เป็นรุ่นแต่งพิเศษกระตุ้นอีกระลอก อีกทั้งการไม่มีล้อแม็กซ์ขอบ 18 นิ้วอย่างรุ่น VL มาให้ ก็ทำให้หลายคนอาจจะไม่ชอบใจนัก เพราะล้อแม็กซ์ก็นับเป็นส่วนหนึ่งของความหล่อไม่น้อยเลย

ก้าวขึ้นรถลำบากเล็กน้อย

สำหรับคนตัวสูงไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานชายไทย การก้าวขึ้นรถ Navara Pro-4X อาจจะต้องออกแรงปีนมากกว่ารุ่น VL เพราะว่าไม่มีมือจับที่เสาหลังคามาให้เหมือนรุ่น VL ก็แปลกดีเหมือนกันว่าทำไมตัดออกไป หรือว่าคนที่ขับรุ่นโฟร์วีลนั่นมีร่างกายกำยำล่ำสันอยู่แล้ว เลยไม่จำเป็นต้องใช้มือจับช่วยโหนตัวงั้นหรือไม่ ?

เบาะไฟฟ้าหายไปไหน?

เมื่อขึ้นไปนั่งแล้วก็มีการปรับตำแหน่งให้เข้าสรีระ ตามปกติแล้วรถตัวท็อประดับราคา 1 ล้านบาทเศษนี้ มักจะได้ระบบปรับด้วยไฟฟ้าแล้ว แต่รุ่น Pro-4X นี้เอามือคลำไปก็เจอแต่ก้านโยกแบบรถกระบะรุ่นล่างทั่วไป ซึ่งสร้างความแปลกใจเล็กน้อยว่า รถโฟร์วีลแนวออฟโรดแบบนี้ ไม่สมควรจะมีเบาะปรับไฟฟ้าตรงไหน ?

ระบบนำทางคือดีงาม

การลองขับครั้งนี้เราลองไปในทางใหม่ที่ไม่เคยไปมาก่อน เพราะมั่นใจในระบบนำทางของนิสสัน ซึ่งมีให้เฉพาะรุ่น Pro เท่านั้น ซึ่งสามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องต่ออินเตอร์เน็ต แสดงผลผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วตรงกลาง ที่มีการซูมเข้าออกไม่ค่อยลื่นเท่าไหร่ แต่มีความละเอียดของถนนหนทางดีมาก ไม่ว่าจะเป็นในถนนหนาแน่น จนถึงชนบทห่างไกล ส่วนระบบ Nissan Connect ที่รองรับทั้งการเชื่อมต่อของ Apple CarPlay และ Android Auto เป็นที่เรียบร้อย

เบาะนั่งนิ่มขึ้น

เบานั่งของรุ่น Pro-4X มีการเปลี่ยนลวดลายเย็บด้ายใหม่ ไม่เพียงแค่สวยขึ้น แต่ยังนิ่มขึ้นอย่างรู้สึกได้ ไม่รู้ว่าเขาเปลี่ยนวัสดุหรืออะไรก็ตาม แต่เป็นความนิ่มที่ห่อหุ้มบั้นท้ายเราได้อย่างแนบชิดกว่าเดิม

ขอฟังก์ชั่นเพิ่มได้มั้ย

นอกจากเบาะนิ่มแล้ว ชิ้นส่วนบุนิ่มส่วนอื่น ก็ยังขาดไปไม่น้อย อยากให้นิ่มเหมือนเบาะบ้าง ส่วนแผงบังแดดก็ยังไม่มีกระจกส่องหน้ามาให้ ที่เหน็บของหลังเบาะก็ยังไม่มี ทั้งที่ความอเนกประสงค์เล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ จะช่วยซื้อใจลูกค้าได้พอสมควร

ลองขับออฟโรด มีระบบช่วยเยอะ

เมื่อขับขึ้นเนินเข้าทางกรวด คนขับบิดปุ่มไปเป็น 4H ได้เลยขณะรถเคลื่อน โดยมีความรู้สึกพวงมาลัยแข็งขึ้นตามธรรมชาติของรถขับเคลื่อน 4 ล้อ มีกล้องมองภาพรอบทิศทาง สามารถทำงานได้ทั้งตอนเดินหน้าและถอยหลัง คอยดูเส้นทางให้โดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นช่วยโบกรถให้ แน่นอนว่ายังมีระบบช่วยออกตัวบนเนินกรวด และช่วยชะลอรถลงทางกรวดลาดชัน ไม่ให้รถไหลเร็วจนล้อลื่น

ลองขับทางเรียบ ติดใจความแรง

นิสสันลบจุดด้อยที่หลายคนบ่นไปแล้วว่าอืดในโฉมเก่า ด้วยการใส่เครื่องยนต์ดีเซล 2.3 ทวินเทอร์โบ พลัง 190 แรงม้า ซึ่งให้เสียงเทอร์โบแผดดังเป็นพิเศษ แถมสร้างความแรงติดเบาะอย่างแตกต่างจากเดิมชัดเจน ส่วนระบบช่วยเหลือต่าง ๆ เช่น การเตือนชน การเตือนจุดบอด การควบคุมเลน ทำได้ดีตรงที่สามารถเตือนได้ในระยะไกล ตรวจจับวัตถุแม้กระทั่งจักรยานผ่านหน้าไป และไฟหน้าออโต้ก็แยกแยะได้ว่าตอนไหนควรเปิดหรือปิดอย่างทันใจ

ช่วงล่าง ต่างจากเดิมเช่นกัน

ช่วงล่างปรับมาเน้นโดยสารมากขึ้น ไม่รู้ว่านิสสันไปเสกเวทย์มนต์อะไรมา แต่รถมีนิสัยที่แข็งน้อยลง ดีดเด้งน้อยลง สามารถขับคนเดียวไม่มีการบรรทุกของได้อย่างสบายขึ้น จนไม่สามารถกลับไปขับรุ่นเก่าได้อีกต่อไป  แต่ไม่ได้อยู่ในระดับที่เรียกได้ว่านุ่มนิ่มได้เต็มปาก

ความปลอดภัย เท่าคู่แข่งแล้วนะ

ระบบความปลอดภัยนั้น ยังคงความเด่นด้วยกล้อง 360 องศาเหมือนเดิม เพิ่มเติมด้วยระบบเตือนและควบคุมออกนอกเลน มีระบบเตือนจุดอับทั้งด้านข้างและหลัง ซึ่งเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นย่อยเดียวที่ได้แบบนี้ 

การปรับปรุงครั้งนี้ ดีใจที่นิสสันพัฒนารถอย่างมากในหลายจุด แสดงถึงความตั้งใจในการแข่งขันเข้าอันดับ 3 ของยอดขายในไทย โดยยังไม่ทิ้งจุดแข็งเดิมที่มีแชสซีส์ชิ้นเดียว ให้ความแข็งแรงทนทานอีกด้วย เพียงแต่อาจจะขาดเรื่องฟังก์ชั่นหยุมหยิมไปบ้าง พอให้อภัยได้ เพราะมีดีตรงราคาที่เอื้อมถึงง่าย

คู่แข่งแกร่งพอกัน

คู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดคือ Ford Ranger 2.0L Bi-Turbo Wildtrak 4x4 10AT รุ่นท็อปสุดราคา 1.265 ล้านบาท มีการเปลี่ยนแปลงมากมายในการปรับโฉมครั้งล่าสุดในช่วงปีที่ผ่านมา เน้นปรับปรุงซีลหน้าเครื่องให้มิดชิด เฟืองปั้มเกียร์ที่แข็งแรง ผนังลูกสูบที่เรียบลื่นขึ้น และทอร์คคอนเวิร์ตเตอร์ที่แน่นหนากว่าเดิมเพื่อลดปัญหาของเครื่องยนต์ เพิ่มฝาท้ายปิดกระบะที่สามารถเปิด-ปิดด้วยรีโมทไฟฟ้า โดยยังคงเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด สเปคดีกว่า แต่ราคาก็โดดห่างไปแสนกว่าบาทเช่นกัน

คู่แข่งที่น่ากลัวรองลงมาคือ Mitsubishi Triton ATHLETE 2.4 GT Premium 4WD 6AT รุ่นท็อปเช่นกันในราคา 1.156 ล้านบาท มีจุดเด่นที่ระบบความปลอภัยทั้ง กล้องมองรอบทิศทาง ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งพลาด ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ระบบเตือนรอบคันรถที่ช่วยเหลือผู้ขับขี่ แม้เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร กำลัง 181 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุดเพียงแค่ 430 นิวตันเมตร จะดูน้อยไปหน่อยก็ตาม

สุดท้ายกับน้องใหม่ Mazda BT-50 Double Cab 3.0 SP AT 4×4 รุ่นใหม่ตัวท็อปราคา 1.153 ล้านบาท มีดีไซน์แนวสวยหรู ใช้พื้นฐานรถปิกอัพยอดนิยมอย่าง Isuzu D-Max (อีซูซุ ดี-แมคซ์) ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร เจ้าของกำลังสูงสุด 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ให้ถุงลมนิรภัย 6 ใบ มีกล้องมองด้านหลัง พร้อมเซนเซอร์กะระยะมาให้ ระบบช่วยเหลือในการขับขี่มีให้มากมาย

ข้อมูลทางเทคนิค Nissan Navara Vl

เครื่องยนต์

ดีเซล YS23DDTT

ความจุ

2,298 ซีซี.

กำลังสูงสุด

190 แรงม้า

แรงบิดสูงสุด

450 นิวตันเมตร

ระบบส่งกำลัง

อัตโนมัติ 7 สปีด

ระบบเบรก

หน้าดิสก์-หลังดรัม

ถังน้ำมัน

80 ลิตร

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:
Mr.Argus

นักเขียน

คุณกัส ผู้จำชื่อรถได้หมดตั้งแต่เด็ก ขับรถเป็นตั้งแต่มัธยม ซ่อมรถใช้เองตอนปริญญาตรี สะสมรถคลาสสิคและรถหายาก ทำงานเรื่องรถมานาน...

พร้อมจัดการซื้อ-ขายรถได้ภายใน 24 ชั่วโมง

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Nissan Navara

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

2021 Nissan Navara VL 1.129 ล้านบาท หน้าหล่อ เครื่องดีขึ้น ระบบแน่น พร้อมรบ Triton / Ranger / BT-50

Nissan Navara 4 ประตู S ราคา 599000 แต่งแล้วเหมือนคันละ ล้าน

รวมแนวทางการแต่ง Nissan Navara รถนอกกระแสแต่แต่งสวย

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

Nissan Navara
เช็คทันที