เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ New 2020 Toyota Fortuner Legender

New 2020 Toyota Fortuner Legender (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เลเจนเดอร์) พีพีวีรุ่นท็อปใหม่จากโตโยต้า (Toyota) ที่มาแทนเวอร์ชั่นสปอร์ติโว่ (Sportivo) ที่ทำตลาดมาอย่างยาวนาน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโตโยต้า เพราะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งที่เห็นได้ และต้องไปสัมผัสเองด้วยการขับขี่

ด้วยการเป็นผู้นำในตลาดพรีเมียม พีพีวี ในประเทศไทยที่มียอดขายสูงส่งและส่วนแบ่งการตลาดมหาศาล โตโยต้าเองได้ทำการเลือกสรรทีมงานชาวไทยเป็นหัวหน้าทีมในการออกแบบและพัฒนารถพีพีวีของพวกเขาเป็นครั้งแรก เพื่อให้ตรงใจกับการความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่สุด

นอกไปจากหน้าตาและฟังชั่นส์แล้ว โตโยต้าได้ใส่ทางเลือกใหม่ ๆ เพิ่มเข้าไปให้กับรถ ด้วยการแตกเป็นรุ่นย่อยมากมายในเครื่องยนต์ทั้ง 2 รุ่น โดยมีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ โดยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1.564 ล้านบาท ไปจนถึงรุ่นท๊อปที่ 1.839 ล้านบาท

การวางราคาจำหน่ายตั้งแต่กึ่งกลางไปจนถึงท็อปของเซกเมนต์ เหมือนจะเป็นการประกาศเป็นนัย ๆ ว่า พวกเขาต้องการกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้งานพีพีวีระดับหรูหราเป็นหลัก เพราะฉะนั้น ของที่เพิ่มเข้ามาก็ถือว่าคุ้มค่ากับการจ่ายเงินเพิ่มอย่างแน่นอน

9 สิ่งใหม่ ๆ ที่คุณจะได้พบในโตโยต้า เลเจนเดอร์

1.ดีไซน์ใหม่สไตล์ดุดัน

ฟอร์จูนเนอร์ เลเจนเดอร์ มาพร้อมหน้าตาที่ดุดันแตกต่างจากรุ่นมาตรฐาน ด้วยโครงสร้างของชุดแต่งใหม่ที่ดูโฉบเฉี่ยว หน้าตาดุดันน่าเกรงขาม และเป็นการออกแบบสำหรับรถคันนี้โดยเฉพาะ โดยรถรุ่นมาตรฐานไม่สามารถนำไปติดตั้งชุดแต่งเพิ่มให้เหมือนกันขนาดนี้ได้

2.ระบบไฟแอลอีดีทั้งคัน

ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบดูอัล โปรเจคเตอร์ ไฟเลี้ยวหน้า-หลังแบบซีเควนเชียล รวมถึงไฟท้ายใหม่ ถูกเปลี่ยนมาใช้แบบแอลอีดีทั้งหมด เพื่อเพิ่มความสว่างไสวในการใช้งาน ซึ่งแน่นอนว่าระบบไฟถือเป็นอุปกรณ์หนึ่งด้านความปลอดภัยสำหรับพีพีวีคันนี้

3.ชุดแต่งภายนอกที่โฉบเฉี่ยวมากขึ้น

โตโยต้าทำการดีไซน์ชุดแต่งรอบคันใหม่หมด ไล่ไปตั้งแต่กระจังหน้า กันชนหน้า บันไดข้างและกันชนหลัง รวมไปถึงการเลือกใช้ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วลายใหม่เอี่ยม ทำให้ได้รถพีพีวีที่หน้าตาแปลกตา แต่ดูโดยรวมแล้วสวยหรูดูแพงไม่น้อย

4.ภายในออกแบบใหม่หมดจดเนี๊ยบหรู

ห้องโดยสารมีการติดตั้งไฟเพิ่มบรรยากาศ มาพร้อมเบาะหุ้มหนังสีดำขาวในรุ่นท็อปและเบาะสีดำแดงในรุ่นที่เหลือ วัสดุในห้องโดยสารแบบลายไม้สีดำตัดกับแถบสีเงิน มาพร้อมหน้าจอขนาด 9 นิ้วที่รองรับการเชื่อมต่อหลากหลายรูปแบบ

5.เพิ่มอุปกรณ์ในการใช้งานอย่างง่ายดาย

ไม่ใช่แค่ความหรูหราที่เพิ่มขึ้น แต่โตโยต้าคำนึงถึงการใช้งานจริงอย่างมาก พวกเขาทำการติดตั้งระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย พร้อมช่องชาร์จไฟยูเอสบี 2 ตำแหน่งที่ด้านหลัง มาพร้อมระบบเปิดปิดฝาท้ายด้วยการเตะที่ด้านล่างของกันชน

6.ระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุด

โตโยต้า เซฟตี้ เซนส์ ถูกติดตั้งเข้ามาเป็นครั้งแรกของรุ่นนี้ โดยระบบที่ประกอบไปด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน และระบบเตือนการชนด้านหน้า ทำให้เลเจนเดอร์มีอุปกรณ์ไม่แพ้พีพีวีคันอื่นในท้องตลาดแล้ว

7.ของเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเน้นความพรีเมียม

เพราะจับกลุ่มตลาดพรีเมียม ทำให้โตโยต้าต้องคิดหนักว่าจะเอาใจลูกค้ากลุ่มนี้ได้อย่างไร พวกเขาเพิ่มของเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้าไป อาทิ กุญแจสมาร์ทคีย์ใหม่สำหรับรุ่นนี้ หรือแม้แต่สีพิเศษอย่างสีแดง อีโมชั่นแนล ที่ตัดกับหลังคาสีดำ ดูดีไปอีกแบบ

8.ออพชั่นเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้นมา

เดิมทีนั้น สปอร์ติโว่จะทำการตลาดแต่เครื่องยนต์รุ่นท็อปเท่านั้น แต่เลเจนเดอร์มีเครื่องยนต์ 2.4 ลิตรให้เลือกได้ด้วย เพื่อเสริมทัพเครื่องยนต์ 2.8 ลิตรที่ทำตลาดอยู่ รวมถึงยังมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ ตามความต้องการในการใช้งาน

9.เครื่องยนต์ปรับมาใหม่ ระบบพร้อมใช้งาน

เครื่องยนต์ 2.8 ลิตรใหม่ ได้รับการปรับปรุงให้มีสมรรถนะเพิ่มขึ้นเป็น 204 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร รวมถึงการการปรับปรุงรอบเดินเบาเหลือ 680 รอบต่อนาที เพิ่มเพลาปรับสมดุลและระบบบังคับเลี้ยวแปรผันตามความเร็ว เพื่อการขับขี่ที่ดีที่สุด

อะไรคือสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนการซื้อ

แน่นอนว่ารถที่เปิดตัวมาใหม่อย่าง New 2020 Toyota Fortuner Legender คงยังไม่สามารถระบุข้อเสียของรถได้ แต่สนนราคาที่เพิ่มขึ้นมา 7 หมื่นบาทก็คงส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจมากพอสมควร นอกจากนี้ ยังไม่มีใครระบุได้ว่าเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนไปนั้น จะส่งผลกระทบต่อความทนทานในการใช้งาน หรือมีผลต่อการบำรุงักษาในระยะยาวหรือไม่ เรื่องนี้แม้ทีมงานของโตโยต้าจะยืนยันว่าไม่มีปัญหา แต่ก็ต้องขอใส่ดอกจันทร์ไว้ดูกันยาวยาวกันก่อน

เปลี่ยนมาอย่างเร้าใจ น่าใช้งานมากขึ้น

เป้าหมายการเปลี่ยนแปลงของ New 2020 Toyota Fortuner Legender ก็คือการขึ้นไปเทียบกับคู่แข่งรายอื่น ๆ ในเชิงของสมรรถนะ (ฟอร์ด เอเวอเรสต์มีอยู่ 213 แรงม้า 500 นิวตันเมตร) และการรักษาความเป็นผู้นำในตลาดพีพีวีอย่างหมดจดสมบูรณ์

การทุ่มเทเปลี่ยนแปลงทั้งรูปร่างหน้าตา รวมถึงการเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามเสียใหม่ น่าจะมีจุดหมายเพื่อให้คนทั่วไปลืมว่านี่คือฟอร์จูนเนอร์รุ่นเพิ่มชุดแต่งสปอร์ติโว่ที่ทำตลาดมาอย่างยาวนาน ด้วยรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปมากนี้ น่าจะโดนใจผู้บริโภคมากขึ้น รวมถึงการขับขี่ที่น่าจะดีขึ้น ก็น่าจะส่งผลดีต่อยอดขายเช่นกัน