เปิดจุดเด่น-จุดด้อย Toyota Fortuner 2020 พิสูจน์การเป็นผู้นำตลาดรถพีพีวี

Toyota ขยับตัวครั้งใดตลาดสะเทือนครั้งนั้นโดยเฉพาะการเผยโฉมแพ็คคู่ Toyota Hilux Revo และ Toyota Fortuner 2020 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ที่ถือเป็นการปรับปรุงใหญ่ครั้งแรกในรอบหลายปี

Fortuner 2020 แบ่งการทำตลาดออกเป็น 2 กลุ่ม คือรุ่นมาตรฐาน และรุ่นพิเศษ Legender โดยมีทั้งหมด 7 รุ่นย่อย ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่รุ่น 2.4G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,319,000 บาท ไปจนถึงรุ่น 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,839,000 บาทซึ่งถือว่าสูงเอาเรื่องเลยทีเดียว

การปรับเปลี่ยนรูปโฉมภายนอกของ Fortuner 2020 มีความโดดเด่นสะดุดตาพอสมควรทั้งไฟหน้า กระจังหน้า กันชนหน้าถูกเปลี่ยนใหม่ ภายในห้องโดยสารปรับปรุงวัสดุให้มีความพรีเมียมมากขึ้น เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวก แม้แต่เครื่องยนต์ก็ถูกอัพเกรดใหม่ให้มีความเร้าใจกว่าเดิม

แต่ Toyota Fortuner 2020 จะสร้างความสำเร็จได้มากน้อยเพียงใด เราไปชมจุดเด่น-จุดด้อยของรถอเนกประสงค์พีพีวีระดับผู้นำตลาดคันนี้กันเลย

จุดเด่น

1. การออกแบบหล่อเหลาทั้งภายนอกและภายใน

Fortuner 2020 ได้รับการปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกใหม่ มาพร้อมไฟหน้าแบบ Bi-beam LED เดย์ไลท์ LED กระจังหน้าใหม่ ไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED Light Guiding และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ภายในห้องโดยสารมีเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง มาตรวัดเรืองแสง Optitron และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 4.2 นิ้ว หน้าจออินโฟเทนเมนท์ทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว รองรับแอปเปิลคาร์เพลย์ มองในภาพรวม Fortuner ไมเนอร์เชนจ์มีความหรูหราผสมผสานความโฉบเฉี่ยวและน่าจะครองใจมหาชนได้ต่อไปเช่นเดิม

2. ความปลอดภัยเพิ่มขึ้น

ความปลอดภัยใน Fortuner 2020 ครบครันที่สุดรุ่นหนึ่งในเซกเมนท์ไม่ว่าจะเป็นระบบความปลอดภัยพื้นฐาน อย่างระบบเบรก ABS พร้อมกระจายแรงเบรก EBD และเสริมเบรก BA ระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว VSC ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งประกอบด้วยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านนิรภัย และหัวเข่าผู้ขับขี่ ไปจนถึงแพ็คเกจ Toyota Safety Sense ครั้งแรกในรถอเนกประสงค์พีพีวี ทั้ง ระบบป้องกันความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Cruise Control) และระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane Departure Alert)

3. อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายพอตัว

ภายในห้องโดยสารของ Fortuner 2020 มีทั้งมาตรวัดแบบเรืองแสง New Optitron Meter ขนาด 4.2 นิ้ว พร้อมจอแสดงข้อมูล MID แสงไฟสร้างบรรยากาศ ambient light หน้าจอแสดงผลระบบสัมผัสบนคอนโซลขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแอปเปิลคาร์เพลย์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดิจิตอล เบาะคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง อุปกรณ์แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ช่องเชื่อมต่อ USB สองตำแหน่งบริเวณคอนโซลกลาง เครื่องเสียง JBL พร้อมลำโพง 9 ตำแหน่ง กล้องมองภาพรอบคัน  ฝาประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรีโดยมีเซ็นเซอร์ใต้กันชนหลัง

จุดด้อย

1. ราคาจำหน่ายค่อนข้างสูงในรุ่นบน

ถ้าลูกค้าต้องการอุปกรณ์แบบจัดเต็ม Fortuner 2020 รุ่น 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตอบโจทย์ได้แน่นอนแต่ก็ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าตัวที่สูงถึง 1,839,000 บาทหรือขาดอีกแสนนิด ๆ ก็จะแตะ 2 ล้านบาท เรียกว่าราคาเทียบชั้นกับรถเอสยูวีรุ่นใหญ่อย่าง Mazda CX-8 2.2 XDL ราคา 1,899,000 บาทซึ่งมีการขับขี่ที่นุ่มนวลสะดวกสบายกว่าอย่างแน่นอน

2. ขุมพลังแรงเร้าใจยิ่งขึ้นแต่ยังด้อยกว่าคู่แข่ง

Fortuner 2020 มีเครื่องยนต์ 2 รุ่น เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร พละกำลัง 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร และขุมพลังไฮบริด ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร รีดพละกำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แม้จะปรับปรุงพละกำลังใหม่แต่ก็ยังตามหลัง Ford Everest 2.0 ลิตร Bi-Turbo ที่มีพละกำลัง 213 แรงม้ากับแรงบิด 500 นิวตันเมตรด้วยเครื่องยนต์ที่มีความจุเพียง 2.0 ลิตรและพ่วงเทอร์โบคู่