เผยความต่าง 2023 BMW 7-series เทียบรุ่นเก่าปะทะโฉมใหม่ ชอบดีไซน์ตรงไหนให้เอาปากกามาวง

BMW 7-series (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 7) เป็นซีดานไฟฟ้าขนาดใหญ่ ที่เพิ่งเปิดตัวทั่วโลกไปเมื่อปลายเดือนเมษายน 2022 โดยมีเป้าหมายมาแทนที่ 7-series รุ่นเดิมกลายเป็นเจเนเรชั่นที่ 7 ของตระกูลซีรี่ย์ 7 ด้วยรหัสตัวถัง G70 นอกจากการฉีกแนวมาใช้พลังไฟฟ้าล้วนแล้ว ก็ยังมีการฉีกสไตล์การออกแบบเดิม ๆ อีกด้วย ซึ่งน่าจะเป็นเทรนด์ที่ใช้ใน BMW รุ่นอื่น ๆ ในอนาคต มาดูรูปเปรียบเทียบความแตกต่างจากเดิม ดูว่าคุณยังชอบแบบเก่า หรือคิดของใหม่สวยกว่า

ไฟหน้าแบบแยกส่วน

2023 BMW 7-series หรือ i7 ถูกออกแบบไฟหน้าที่แยกส่วนกัน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์รถหรูค่ายนี้ โดยมีผู้คิดค้นไอเดียคือหัวหน้าฝ่ายออกแบบอย่าง Adrian van Hooydonk เขากล่าวว่า ไฟหน้าแบบแยกส่วนทำให้ BMW มีอิสระในการปรับเปลี่ยนสไตล์ด้านหน้ามากขึ้น 

การแยกไฟหน้าออกจากกันนี้ เคยเป็นเอกลักษณ์ในรถซีรี่ย์ 7 ที่สืบทอดไฟกลมคู่จากเจเนเรชัน 1-2 กลายเป็นเลนส์ไฟกลมคู่สืบทอดมา 6 รุ่นต่อเนื่อง นั่นทำให้ การทำไฟหน้าแยกจากกัน นับว่าเป็นการสืบทอดเอกลักษณ์เดิม เพียงแต่ไม่ใช่ในรูปทรงวงกลมอีกต่อไปเท่านั้น

กระจังหน้าใหญ่ขึ้น

2023 BMW 7-series ยังมีเอกลักษณ์การออกแบบที่สำคัญของแบรนด์นี้คือ กระจังหน้ารูปไตคู่ ยังคงเดิม แต่เปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ขึ้น (จนแทบไม่เรียกว่าไต น่าจะเรียกว่าปอดมากกว่า-ผู้เขียน) โดยขยายขนาดลงมาเบียดช่องดักลมในกันชน ออกแบบเป็นกรอบทรงหกเหลี่ยมอยู่ติดกัน กลายเป็นกระจังหน้าในแนวตั้งมากกว่ารุ่นก่อนหน้า

การทำกระจังหน้าแนวตั้งนี้ ก็เพื่อให้เข้าธีมการออกแบบของ EV ในค่ายใบพัดสีฟ้านี้เอง และเพื่อสื่อถึงประวัติศาสตร์ของกรอบไตคู่ ที่เคยเป็นแนวตั้งมาก่อนในรถซีรี่ย์ 7 รุ่นแรก

รูปร่างแบบเสาหิน

สัดส่วนของรถยังคงเป็น Cab rearward ถูกออกแบบพื้นผิวตัวถังให้มีความโค้งผสมกับเส้นตรงอย่างราบเรียบ ด้วยแนวคิดเดียวกับเสาหินโบราณ ที่แกะสลักมาจากหินใหญ่ก้อนเดียว ดังนั้นตั้งใจทำให้ชิ้นส่วนตัวถังเรียบชิด เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากที่สุด เหมือนกับเสาหิน ด้วยการใช้พื้นผิวนูนต่ำบนฝากระโปรง กับการฝังมือจับประตูข้างลงในตัวถัง ทำให้ด้านข้างดูเนียนตากว่าเดิม

แม้ด้านข้างทำให้เรียบเนียน แต่ก็ยังมีจุดที่เตะตา ด้วยการใส่ชิ้นโครเมียมขนาดใหญ่ที่เสาซี ชูจุดเด่น Hofmeister kink ปลายหน้าต่างหักมุมอันเป็นเอกลักษณ์ ให้ดูเด่นกว่ารุ่นเดิม

ส่วนด้านท้ายรถ 2023 BMW 7-series มีจุดเด่นที่ไฟท้ายทรงสี่เหลี่ยมปลายแหลม ต่างจากเดิมที่เคยเป็นรูปตัว L พร้อมกับมีเส้นไฟ LED และคิ้วโครเมียมภายในกรอบดังกล่าว ที่มีหยักปลายขึ้นเล็กน้อย พอให้ชวนนึกถึงดีไซน์จากรุ่นเก่า ที่เคยใช้มาตั้งแต่ซีรีย์ 7 รุ่นที่ 2-6

อ่านเพิ่มเติม : ไฟหน้าใหม่ของ 2023 BMW X7 ทำไมเป็นแบบนี้ หัวหน้าฝ่ายดีไซน์ของ BMW มีคำตอบ

ภายในมีแถบสัมผัส

คอนโซลภายในของ 2023 BMW 7-series ยังใช้รูปแบบคอนโซลแนวนอนยาวต่อเนื่องซ้าย-ขวา อย่างที่เริ่มใช้ตั้งแต่รุ่นที่ 4 (E60) และได้มีการลดจำนวนปุ่มกดน้อยลงเรื่อย ๆ จนถึงรุ่นปัจจุบัน แทบจะเป็นระบบสัมผัสทั้งสิ้น ที่สำคัญคือ ตรงสันนูนกลางคอนโซล ติดตั้งแถบยาวที่ใช้สัมผัสโต้ตอบได้ ทำหน้าที่เป็นปุ่มกด ขึ้นสัญญาณเตือน และเป็นแสงไฟภายในห้องโดยสาร ที่เปลี่ยนเฉดสีได้ได้ด้วย ส่วนช่องแอร์ถูกซ่อนลงไป ให้พ่นลมออกมาตามขอบสันคอนโซลเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม : เผยภาพ 2023 BMW i7 ซีดานไฟฟ้าผู้บริหารสุดหรู วิ่งไกล 625 กม. ราคาเริ่ม 4.7 ล้านบาท พร้อมจอหลัง 31.3 นิ้ว

ดีไซน์ของ 2023 BMW 7-series นับเป็นการพลิกธรรมเนียมเดิมของตระกูลซีรี่ย์ 7 หลายอย่าง เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่อ่อนวัยมากขึ้น และต้อนรับการมาถึงกระแสการเป็น EV พร้อมใส่เทคโนโลยีล้ำสุดขีด เพื่อเพิ่มอิสระให้นักออกแบบได้อวดฝืมือได้มากกว่าเดิม เพื่อให้รุ่นนี้ไม่ได้มีดีแค่ไฮเทค แต่ต้องสวยล้ำอนาคตไปอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม : พาชม 2022 BMW iX3 ราคา 3.399 ล้านบาท และ iX ราคา 5.999 ล้านบาท กับ 6 ฟังก์ชั่นที่โลกต้องจำ