2010 BMW Z4 รถโรดสเตอร์เปิดประทุนมือสองที่ยังคงน่าซื้อ ถ้าคุณมีงบดูแลปีละ 1 แสน

BMW Z4 (บีเอ็มดับเบิลยู ซีโฟร์) ถือว่าเป็นรถในฝันของใครหลาย ๆ คน ด้วยรูปทรงที่เป็นสปอร์ตโรดสเตอร์แบบเปิดประทุน สองที่นั่ง มาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลัง จึงไม่แปลกใจที่รถรุ่นนี้จะได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย 

แต่ด้วยค่าตัวเริ่มต้นที่ 4 ล้านกว่าบาท (The BMW Z4 sDrive30i) ที่เป็นเหมือนกับกำแพงที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนเข้าถึงรถรุ่นนี้ได้ยาก ยกเว้นจะเป็นรถมือสองที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า โดยราคาเริ่มต้นที่ 1.3 ล้านบาท (แพงกว่า 2022 Honda Civic e: HEV อยู่นิดหน่อย) ซึ่งรุ่นที่เราจะมาแนะนำในวันนี้คือ 2016 BMW Z4 (E89)

อ่านเพิ่มเติม : อยากเก็บเธอไว้นาน ๆ! BMW กล่าว จะทำเกียร์ธรรมดาให้นานที่สุดเท่าที่ทำได้ ปีสุดท้ายอาจเป็น 2030

ประวัติและสเปคคร่าว ๆ ของ 2010 BMW Z4

2010 BMW Z4 (E89) เป็นรถตระกูล Z4 รุ่นที่สามที่ได้รับการอัปเกรดมาจาก 2006 BMW Z4 (E86) ที่ได้เปลี่ยนจากการใช้หลังคาแบบผ้า มาเป็นหลังคาแบบพับที่สามารถลดเสียงภายนอกได้มากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งไม่ต้องจอดรถเพื่อทำการเปิดปิดหลังคาอีกต่อไป

การออกแบบได้รับการดีไซน์ใหม่ โดยฝีมือของ Juliane Blasi ให้มีความสปอร์ตและหรูหรามากขึ้นภายใต้แนวคิด Grand Tourer ทั้งภายในและภายนอก 

ในส่วนของเครื่องยนต์ BMW Z4 นั้นได้ใช่เครื่องยนต์ BMW N52B25 ขนาด 2.5L 2499 cc 6 สูบ เครื่องยนต์วางหน้าแต่ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบ Steptronic  ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้าที่ 6500 รอบต่อนาที 

อ่านเพิ่มเติม : มี Ford Mustang เปิดประทุนแล้ว ถ้ามีตัวถังซีดานบ้างจะเป็นอย่างไร มีคนเรนเดอร์มาให้ดู

ทำไมต้องเป็นปี 2010

สิ่งที่ทำให้ 2010 BMW Z4 น่าเล่นนั้นมีอยู่ด้วยกันสามประการ

หนึ่งคือตัวรถได้ยังมีดีไซน์ที่ทันสมัย แม้ว่าจะอายุเกิน 10 ปีแล้ว ขับสนุก เครื่องแรง เสียงเครื่องยนต์ไพเราะ ช่วงล่างที่เกาะถนน เรื่องการขับขี่สนุกคันนี้ตอบโจทย์ อย่างแน่นอน

สองคือเรื่องของราคาที่เข้าถึงได้ โดยราคากลางมือสองประมาณ 1.5 ล้านบาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นยอดนิยมอย่าง 2.0i sdrive หรือ 2.3i sdrive ทำให้ซื้อง่ายขายคล่อง ราคาไม่ตกมากอีกด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพของรถ เลขไมล์ และการดูแลรักษา

สามคือเครื่องยนต์บล็อก N52 (N52b25 กับ N52b30) ค่อนข้างมีปัญหาน้อยเมื่อเทียบกับ Z4 ที่ใช้บล็อกอื่น ๆ นอกจากนี้อะไหล่ยังหาได้ง่าย เมื่อเทียบกันรุ่นก่อนหน้านี้

สิ่งที่คุณจะต้องรับให้ได้ ในการครอบครองรถคันนี้

แน่นอนว่าการซื้อรถ BMW แบบไม่มี BSI สิ่งที่ตามมาคือค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างจะสูง ค่าประกันรถรวมไปถึงอัตราการบริโภคน้ำมันที่ประมาณ 13 กิโลเมตร/ลิตร ทำให้นอกจากค่างวดที่คุณจะต้องผ่อนในแต่ละเดือนแล้ว คุณอาจจะต้องสำรองเงินในการดูแลรถคันนี้อีกด้วย ไม่งั้นอาจจะได้ซื้อมาแล้วจอดโชว์เฉย ๆ ก็เป็นได้

อ่านเพิ่มเติม : BMW เดินหน้าสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้า พร้อมส่งมอบบริการพิเศษเหนือระดับ ด้วยโปรแกรมบำรุงรักษา BSI และ MSI

สรุป

2010 BMW Z4 ยังคงเป็นรถที่น่าเล่น โดยเฉพาะคนที่ชอบรถที่โรดสเตอร์เปิดประทุน แต่หนึ่งสิ่งที่ต้องยอมรับให้ได้คือ ค่าบำรุงรักษาของรถคันนี้ที่คุณอาจจะต้องเผื่อเงินเอาไว้สักปีละ 1 แสนบาท กำลังดี