Toyota ออสเตรเลียเตือน นโยบายเน้น EV อย่างเดียวอาจส่งผลเสียต่อผู้ใช้รถเพื่อการพาณิชย์

  • นโยบายลดคาร์บอนสุดโต่งเกินไป
  • Toyota ปฏิเสธว่าไม่ได้วิ่งเต้นนโยบายอีวี
  • จุดยืนของ Toyota คือการเสนอทางเลือก
  • รถเพื่อการพาณิชย์จะปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ได้เมื่อไหร่
  • Toyota ต้องการการถกเถียงที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้

การวิ่งเต้นเกี่ยวกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมในออสเตรเลียที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตตอนนี้กำลังเข้มข้น เพราะต่างฝ่ายได้สงสัยว่าฝั่งตรงข้ามของตนกำลังวิ่งเต้นกับรัฐบาลสำหรับนโยบายใหม่ของออสเตรเลียครั้งนี้

Toyota ออสเตรเลียได้เรียกร้องเป็นครั้งที่สองสำหรับการใช้เทคโนโลยีที่กว้างขึ้นสำหรับการลดการปล่อยมลพิษสำหรับรถยนต์ในอนาคต โดยต้องการนโยบายที่มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวสำหรับกลางทศวรรษหน้า เนื่องจากมีความกังวลว่าเจ้าของรถกระบะ รถตู้ และรถขับเคลื่อนสี่ล้อจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

นโยบายลดคาร์บอนสุดโต่งเกินไป จึงแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย

รัฐบาลกลางของออสเตรเลียตอนนี้อยู่ในช่วงเริ่มต้นระยะเวลาให้การปรึกษาสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ (ให้เวลา 6 สัปดาห์) ในขั้นตอนแรกของแผนคือการเปิดตัวเป้าหมายของรถยนต์ที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อทำให้ออสเตรเลียเข้าใกล้แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของโลก

อย่างไรก็ตาม ในการปรึกษาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ได้แก่ กลุ่มที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหมด และกลุ่มที่แยกออกมาที่เรียกว่า “สภายานยนต์ไฟฟ้าแห่งออสเตรเลีย (Electric Vehicle Council of Australia )” ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ให้บริการพลังงานและโครงข่ายการชาร์จ รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์เพียงไม่กี่รายเท่านั้น

ในช่วงเริ่มต้นของกระบวนการปรึกษา สภายานยนต์ไฟฟ้าออสเตรเลียถูกจับได้ว่าอ้างตัวเป็นตัวแทนให้กับผู้กำหนดนโยบายในนามของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งหมด ทั้งที่ความจริงแล้วมีสมาชิกที่เป็นบริษัทรถยนต์เพียงไม่กี่รายเท่านั้น

เอกสารลับที่ได้จาก Drive เปิดเผยว่าสภายานยนต์ไฟฟ้าออสเตรเลียนั้นพยายามวิ่งเต้นให้ผู้กำหนดนโยบายนำเป้าหมายการลดการปล่อยมลพิษในระดับที่เกือบจะเป็นไปไม่ได้มาใช้

ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ชาวออสเตรเลียอาจเหลือทางเลือกเพียงน้อยนิด โดยจำเป็นต้องซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่กลางทศวรรษหน้าเป็นต้นไป

มีการแนะนำบทลงโทษในการปรับเป็นเงินจำนวนมากสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานรถกระบะ รถตู้ ไปจนถึงรถขับเคลื่อนสี่ล้อ

เมื่อสภายานยนต์ไฟฟ้าเผชิญหน้ากับบริษัทรถยนต์หลายสำนัก ทั้งบริษัทที่อยู่ฝั่งเดียวกันและฝั่งตรงข้าม เพื่อเสนอจุดยืนของตัวเอง ฝ่ายสภายายนต์ไฟฟ้าก็ได้เสนอเอกสารที่มีทั้งหมด 2 หน้าที่อธิบายถึงเป้าหมายที่รุนแรงที่สุดในโลกสำหรับการลดการปล่อยมลพิษ

Toyota ปฏิเสธว่าไม่ได้วิ่งเต้นนโยบายอีวี

การถกเถียงกันส่งผลให้ Toyota ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้วิ่งเต้นเพื่อต่อต้านการเปิดตัวแผนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่รวดเร็วนี้ โดยส่วนหนึ่งมาจากการเปิดตัวรถอีวีที่ล่าช้าของตัวค่ายสามห่วงเอง

แต่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายนี้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการแทรกแซงต่อนโยบายดังกล่าวโดยสิ้นเชิง

Sean Hanley หัวหน้าฝ่ายขายและการตลาดของ Toyota Australia ได้ให้สัมภาษณ์กับ Drive ว่า “เราเราสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจัง เรารู้ว่าเราต้องเร่งดำเนินการสำหรับรถที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ในที่สุด”

“แต่เราไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้า (ในรถ) เพียงทางเดียวเท่านั้น” โดย Hanley กล่าวอ้างอิงถึงทางเลือกอื่น ๆ เช่น เทคโนโลยีไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด รวมถึงเชื้อเพลิงทางเลือกอย่างเชื้อเพลิงสังเคราะห์และไฮโดรเจน

“การเรียกร้อง (เพียงรถยนต์ไฟฟ้า) ในอนาคตนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่เราไม่เชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภคหรือต่อสิ่งแวดล้อม เราต้องมีการหารือที่มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นที่เน้นที่การปล่อยก๊าซคาร์บอน (ไดออกไซด์) เป็นศัตรู”

“เรารู้ว่าอุตสาหกรรมรถยนต์กำลังเปลี่ยนแปลง เรารู้ว่าความคาดหวังของคนนั้นเปลี่ยนไปเช่นกัน เรารู้ว่ากฎหมายของรัฐบาล (เกี่ยวกับ) ประสิทธิภาพของเชื้อเพลิง รวมถึงมาตรฐานเชื้อเพลิงและมลพิษกำลังจะมาถึง”

ต้องกำหนดนโยบายตามเงื่อนไขของแต่ละพื้นที่

เมื่อมีการถามว่า Toyota มั่นใจหรือไม่ว่ารัฐบาลกลางและผู้กำหนดนโยบายจะนำเสนอนโยบายเป้าหมายการปล่อยมลพิษที่สามารถทำได้ หรือเพียงนำเสนอนโยบายที่บังคับผู้ที่ใช้รถกระบะ รถตู้ รวมถึงรถขับเคลื่อนสี่ล้อ 

Hanley กล่าวว่า “หากเรามองรัฐบาลทั่วโลกในขณะนี้ รัฐบาลในทุกเขตอำนาจได้นำมาตรฐานที่สะท้อนถึงเงื่อนไขเฉพาะที่ใช้กับตลาดของตน ทั้งตัวเลือกของลูกค้า การใช้งานรถ รวมถึงระยะทางขับขี่”

“ออสเตรเลียนั้นก็ไม่ต่างกัน ยกเว้นว่าจะมีมาตรฐานมาบังคับภายหลัง เราเข้าใจว่าดีว่านั่นหมายถึงอัตราการพัฒนาของเรา…(เรา) ต้องไปในเส้นทางของการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์อย่างจริงจัง”

“แต่ในขณะที่เรามีความคล้ายคลึงกันบางอย่างกับตลาดในตลาดอื่น เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และนิวซีแลนด์ 

มาตรฐานใหม่สำหรับประสิทธิภาพเชื้อเพลิงของออสเตรเลียนั้นควรปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับตลาดของเราที่คำนึงถึงสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ประเภทของรถที่ลูกค้าต้องการ การขาดแคลนบางอย่างในสายการผลิตท้องถิ่น ระยะทางระหว่างศูนย์กลางต่าง ๆ ของเมือง โครงข่ายถนนของเรา โครงสร้างพื้นฐานของเรา รวมถึงปัจจัยด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์”

“ความหวังของเราคือผู้กำหนดนโยบายจะนำแนวทางที่สมดุลมาใช้ หากถามว่า Toyota กำลังหยุดรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่ คำตอบคือไม่ เราเพียงแค่ไม่ต้องการทิ้งลูกค้าหลายแสนรายไว้เบื้องหลังเท่านั้น”

จุดยืนของ Toyota คือการเสนอทางเลือก

ผู้บริหารในอุตสาหกรรมที่มีประสบการณ์กล่าวว่า จุดยืนของ Toyota คือการเสนอทางเลือกที่กว้างขึ้นสำหรับผู้ซื้อรถยนต์สำหรับรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า แทนที่จะบังคับให้ทุกคนเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้า สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้ารถยนต์ในทุกแบรนด์

“มีคนมากมาย…ที่ใช้รถเพื่อลากจูงรถบ้าน และพวกเขาอาจจะมีความสุขสำหรับรถไฟฟ้า หากรถอีวีสามารถลากรถสองตันครึ่งโดยไม่ต้องกังวลถึงระยะทางขับขี่ที่เหลือเพียง 150-200 กม. และราคาอาจสูงขึ้นเป็น 100,000 ดอลล่าร์” Hanley กล่าว

“มีผู้บริโภคชาวออสเตรเลียหลายแสนคนที่ขับรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อใช้ทำงาน ลากจูง หลายคนพึ่งพาการหาเลี้ยงชีพด้วยรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ไม่ว่าจะเป็น Toyota หรือรถยี่ห้ออื่นก็ตาม”

เมื่อถาม Toyota Australia ในเรื่องเกี่ยวกับการชะลอนโยบายรถยนต์ไฟฟ้าในออสเตรเลีย Hanley กล่าวว่า 

“เราได้มีการเจรจากับรัฐบาลและฝ่ายตรงข้ามของเราเกี่ยวกับจุดยืนของเรา แต่มันจะเป็นการชะลอตัวของการนำรถไฟฟ้าเข้ามาหรือไม่ คำตอบคือไม่”

“เป็นเพียงการแบ่งปันข้อมูลการตลาดสำหรับความต้องการของลูกค้า การใช้งานพาหนะในวงกว้าง และหนทางที่จะมีความเป็นกลางทางคาร์บอน”

“เราสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า แต่เราเพียงไม่ได้มองว่าสิ่งนี้เป็นหนทางเดียวในการไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (ในรถยนต์)”

อ่านเพิ่มเติม : Ford ไล่ตาม Toyota มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนฟิวเซลจริงจัง สำหรับรถเพื่อการพาณิชย์

Toyota มีเสียงเท่ากับแบรนด์อื่น

เมื่อถามว่า Toyota ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 5 รถใหม่ที่ขายในออสเตรเลีย โดยเป็นผู้นำในตลาดแดนจิงโจ้มากว่า 20 ปีแล้ว และเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกโดยปริยาย อาจจะมีเสียงที่ดังกว่าและสามารถวิ่งเต้นต่อผู้กำหนดนโยบายได้หรือไม่ Hanley กล่าวตอบคำถามนี้ว่า

“เรามีสิทธิ์มีเสียงเช่นเดียวกับอีกฝั่งหนึ่งที่มีสิทธิ์มีเสียงเท่ากัน”

เพื่อตอบสนองต่อข้อกล่าวหาที่ว่า Toyota Australia มีอิทธิพลต่อผู้กำหนดนโยบายมากกว่าบริษัทรถยนต์อื่นหรือไม่นั้น Hanley กล่าวว่าบริษัทได้รับคะแนนเสียงเดียวจากผู้ผลิตรถยนต์ 10 ราย แม้ว่าจะมียอดขายรถยนต์ใหม่ถึง 1 ใน 5 จากทั้งหมดก็ตาม

ในคำถามที่ว่า Toyota Australia หรืออุตสาหกรรมรถยนต์มีข้อบ่งชี้ใด ๆ เกี่ยวกับความรุนแรงของแผนการลดการปล่อยยานยนต์ในอนาคตหรือไม่ Hanley ให้คำตอบว่า 

“ไม่ ผมไม่แน่ใจเกี่ยวกับระยะเวลาการตอบสนอง ณ จุดนี้ แต่เรารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ และอย่างที่เราได้กล่าวต่อสาธารณชนก่อนหน้านี้ เราจะสนับสนุนข้อเสนอการปล่อยมลพิษของรัฐบาลเมื่อมาถึง”

รถไฮบริดช่วยลดมลพิษเช่นเดียวกับรถไฟฟ้า แถมราคาถูกกว่า

ผู้บริหารระดับสูงของ Toyota Australia กล่าวว่าการขายรถยนต์ไฮบริดของโตโยต้ามากกว่า 330,000 คันในช่วง 21 ปีที่ผ่านมาช่วยลดการปล่อยมลพิษเช่นเดียวกับการนำรถยนต์ไฟฟ้า 95,000 คันมาขับบนถนนในช่วงเวลาเดียวกัน

ผู้บริหารของ Toyota กล่าวว่า ณ วันนี้ รถยนต์ไฮบริดนำเสนอเทคโนโลยีการปล่อยมลพิษต่ำในราคาย่อมเยาให้กับผู้ใช้รถจำนวนมากในจำนวนที่มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้า

จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า รถไฮบริดนั้นคิดเป็น 7.6% ของยอดขายรถใหม่ในออสเตรเลียเมื่อปีก่อน (ขายได้ทั้งหมด 81,786 คัน) ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็น 3.1% ของตลาด (33,410 คัน ซึ่งรวม Tesla ที่ไม่ได้เผยตัวเลขก่อนหน้านี้)

Toyota กล่าวว่าหากเซลล์แบตเตอรี่ในรถยนต์ไฮบริด 330,000 คันที่จำหน่ายในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมาเปลี่ยนไปใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าแทน จะมีเพียงจำนวนที่เพียงพอสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเพียง 4,500 คันบนท้องถนนเท่านั้น

“ดังนั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ รถไฮบริดทำให้เราสามารถใช้เซลล์แบตเตอรี่ที่ล้ำค่าได้มากขึ้น ซึ่งเซลล์เหล่านี้มีผลกระทบมากขึ้นในปัจจุบัน” Hanley กล่าว

“รถไฮบริดยังมีราคาย่อมเยา (กว่ารถอีวี) ในตอนนี้ และรถเหล่านี้ไม่ต้องอาศัยโครงข่ายการชาร์จ และรถเหล่านี้ยังเป็นรถยนต์สำหรับคนทั่วไป ไม่ใช่สำหรับคนส่วนน้อย”

“แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า Toyota เชื่อว่าควรใช้รถไฮบริดแทน (รถยนต์ไฟฟ้า) ได้ในทุกที่และตลอดไป"

รถเพื่อการพาณิชย์ปล่อยมลพิษมากสุดในปัจจุบัน

ขณะที่เทคโนโลยีไฮบริดของ Toyota ซึ่งลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงกว่าครึ่งรวมถึงปล่อยมลพิษน้อยกว่ารถสันดาปทั่วไป นั้นช่วยประหยัดเชื้อเพลิงอย่างมากสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถ SUV ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง

แต่บริษัทกลับมีสถิติในอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเผยว่ารถกระบะ รถตู้ และรถขับเคลื่อนสี่ล้อคือผู้ที่ปล่อยมลพิษมากที่สุดบนถนน

Toyota ไม่รู้สึกผิด เพราะได้ทำอะไรบางอย่างแล้ว

มีการถามผู้บริหาร Toyota Australia ว่าเขารู้สึกผิดหรือไม่ที่สามารถลดการปล่อยมลพิษลงอย่างมากในกลุ่มผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ แต่ก็ยังเป็นหนึ่งในผู้ขายรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษสูงรายใหญ่ที่สุด Hanley ตอบคำถามนี้ว่า

“ผมจะรู้สึกผิดก็ต่อเมื่อ Toyota ไม่ลงมือทำบางอย่างเกี่ยวกับอนาคตที่เกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยมลพิษ (ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถตู้ และรถขับเคลื่อนสี่ล้อ) ของเรา เพราะตลอด 21 ปีที่ผ่านมา เราได้ทำอะไรบางอย่างจริง ๆ”

Hanley กล่าวว่า รถกระบะ รถขับเคลื่อนสี่ล้อ รวมถึงรถตู้นั้นเป็นรถประเภทที่ท้าทายที่สุดในการเปลี่ยนเป็นไฟฟ้า เพราะระยะทางขับขี่จะแทบลดลงครึ่งหนึ่งเมื่อบรรทุกหนัก การเพิ่มความจุแบตเตอรี่อาจเพิ่มระยะทางขับขี่ได้ แต่ก็ทำให้น้ำหนักรถเพิ่มขึ้นด้วย

“รถเหล่านี้มีความท้าทายอย่างมากในการนำออกสู่ตลาด (เมื่อต้องคงความสามารถในการบรรทุกไว้)” Hanley กล่าวเสริม

“นั้นหมายความว่าเราไม่ได้ทำอะไรหรือไม่ ไม่ใช่เลย เพราะเราจะเร่งทำมัน เรารู้ว่ารถเพื่อการพาณิชย์ (เช่นกระบะ รถตู้ และรถขับเคลื่อนสี่ล้อ) จะต้องมีบทบาทในอนาคตสำหรับความเป็นกลางทางคาร์บอนของเรา”

รถเพื่อการพาณิชย์จะปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ได้เมื่อไหร่

มีคำถามอีกว่า รถกระบะอย่าง Toyota HiLux ute, รถขับเคลื่อนสี่ล้ออย่าง Toyota LandCruiser และ Prado รวมถึงรถตู้อย่าง Toyota HiAce จะสามารถลดการปล่อยมลพิษที่จับต้องได้ภายในปี 2030 ได้หรือไม่ Hanley ตอบคำถามนี้ว่า

“ผมคาดหวังเมื่อเวลาผ่านไปว่ามันจะทำได้ 100% เพราะมันต้องทำ อย่างไรก็ตาม ไม่มีประโยชน์ที่จะเปิดตัวกระบะที่ไม่สามารถลากจูงได้ วิ่งได้ไม่ไกล และไม่สามารถทำสิ่งที่คนต้องการให้ทำได้ แต่มีราคาสูงกว่าราวสองเท่าหรอก”

“สำหรับคนที่กำลังวิ่งเต้นเพื่อสังคม (ไฟฟ้าล้วน) ในออสเตรเลีย ผมมีคำถามข้อหนึ่งที่จะถาม คุณจะเสนออะไรให้กับผู้คนที่ใช้รถยนต์เพื่อการเลี้ยงชีพ (เพื่อการพาณิชย์)”

“คุณจะ…เสนอชาวออสเตรเลียกว่าหลายแสนคนที่ใช้รถเหล่านี้สำหรับการพักผ่อนและกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงชาวออสเตรเลียที่ต้องการลากรถบ้านเพื่อสนุกกับชีวิตหลังเลิกงานว่าอย่างไร?”

“ความเชื่อของเราคือแนวทางที่ดีที่สุดในการลดการปล่อยมลพิษของรถยนต์คือการทำแบบผสมผสานซึ่งเป็นการผสม (รถยนต์ไฟฟ้า) กับรถไฮบริดและเทคโนโลยีอื่น ๆ”

อ่านเพิ่มเติม : ลองขับ Toyota Hilux Revo BEV และรถ FCEV เทียบรถน้ำมัน

Toyota ต้องการการถกเถียงที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้

“ในการถกเถียงทั้งหมดนี้ เราต้องการการอภิปรายที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ซึ่งจะสามารถเน้นให้คาร์บอน (ไดออกไซด์) เป็นศัตรู ไม่ใช่เทคโนโลยีต่าง ๆ โดยเรามีเส้นทางอื่นที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังในการเดินทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน”

“เรากำลังบอกว่าคุณไม่สามารถได้ทุกอย่างที่ต้องการ เราต้องมีการลงทุนให้กว้างขึ้นเมื่อเรามุ่งสู่อนาคตที่เป็นกลางทางคาร์บอน ความเป็นกลางทางคาร์บอนของ Toyota ไม่ใช่ข้อทีจะมาถกเถียงกัน แต่สิ่งที่ต้องถกเถียงกันคือเราจะไปให้ถึงเป้าหมายนั้นอย่างไรและเมื่อไหร่”

อ่านเพิ่มเติม : เหตุใด บริษัทในออสเตรเลียจึงนำ Toyota Hilux แปลงเป็นไฟฟ้าใช้ในเหมืองแบบไม่รอค่ายรถ? 

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:

ขายรถเก่า-ซื้อคันใหม่ ไม่ยุ่งยาก ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Toyota Hilux Revo

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

พรีวิว ร่างสามของ Toyota Fortuner และ Hilux REVO ใส่ออพชั่น อัพราคายืนหนึ่ง น่าใช้ขึ้นเยอะ | AutoFun

ลองขับ 2021 TOYOTA Hilux REVO GR Sport ตัวท๊อปขับสี่ยกสูง 1.299 ล้านบาท นุ่มหล่อบนถนน ดีกว่าซนในป่า

พรีวิว 2021 Toyota Hilux REVO GR Sport อัพชุดแต่ง จูนช่วงล่าง สู่ความเป็นที่สุดของตลาดรถปิกอัพสายโหด

Toyota Hilux REVO 2020 เสริมสมรรถนะใหม่ทุกด้าน พิสูจน์ผลงานการสร้างฝีมือคนไทย

ทดลองขับ Toyota Hilux REVO ROCCO 2020 2.8 AT 4WD ราคา 1,239,000 บาท!!

ข่าวล่าสุด

เปิดเบื้องหลังการซ่อมตัวถังรถหรูในไทย วิธีพ่นและอบสีร้อน ไม่กระทบแบต Hybrid เหมือนใหม่จากโรงงาน

เปิดดูเบื้องหลังศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังของ Mercedes-Benz ในประเทศไทย ที่ใช้เทคโนโลยีช่วยอบสีรถ ไม่กระทบกับระบบไฮบริดและแบตเตอรี่ใหม่ ศูนย์บริการของ Mercedes-Benz ที่รับซ่อมตัวถังได้ด้วย มีไม่กี่แห่งในไทย หนึ่งในนั้นอยู่ที่ชลบุรี เป็นสาขาใหม่ของ เบนซ์ไพรม์มัส ที่อำนวยความสะดวกคนอยู่ต่างจังหวัด และอยากซ่อมตัวถังกับศูนย์ที่ได้มาตรฐานแบบโรงงานผู้ผลิต เรามาดูกันว่าเบื้องหลังการซ่อมนี้ จะใกล้เคียงของเดิมจากโรงงานแค่ไหน ศูนย์บริการเบนซ์ไพรม์มัสสาขาใหม่ที่ชลบุรีนี้ รองรับงานซ่อมสี และตัวถัง เดือนละ 1

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

Toyota Hilux Revo
เช็คทันที