2021 BMW 5-Series (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5) เจเนอเรชั่นที่ 7 โฉมไมเนอร์เชนจ์ เปิดตัวแล้วในไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยราคาเริ่มต้น 2.999 ล้านบาท ตอกย้ำความเป็นผู้ชนะยอดขายระดับพรีเมียมในไทย ด้วยราคาเดิม เพิ่มออพชั่นใหม่ รุ่นท็อปมีราคาลดลงด้วย
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ทำยอดขายอันดับ 1 ในเซกเมนต์รถระดับพรีเมียมในตลาดประเทศไทย ได้เผยโฉมซีรีส์ 5 โฉมไมเนอร์เชนจ์ ด้วยคอนเซ็ปต์เปิดตัวที่แตกต่างไปจากทุกครั้ง ‘Change the way you lead. Lead the way you change.’ สื่อถึงเป็นจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์อันยาวนานของตระกูล 5 ด้วยความเปลี่ยนแปลงทั้งรูปร่างและอุปกรณ์ทุกด้าน
รูปทรงโดยรวมยาวกว่ารุ่นก่อนหน้า 27 มิลลิเมตร ไฮไลท์อันโดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 เจเนอเรชั่นที่ 7 นี้ สร้างความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าด้วยดีไซน์ภายนอกที่สะดุดตา เส้นสายทรงพลังทั้งบริเวณด้านหน้าและท้ายรถ มาพร้อมกระจังหน้าทรงไตคู่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 20% ในรูปทรงแปดเหลี่ยมแบบใหม่ ล้อมรอบด้วยกรอบที่เชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียว เปลี่ยนไฟหน้ามีขอบล่างหยักขั้นบันไดที่เล็กลง เช่นเดียวกับไฟท้าย LED มาในรูปแบบสามมิติทรงตัว L
รุ่น Elite มีกันชนทรงใหม่ ออกแบบช่องดักอากาศแนวตั้งที่มุมทั้งสองข้าง เชื่อมต่อเป็นแนวเดียวกับช่องดักลมกลาง ส่วนรุ่น M sport ได้กันชนใหม่ แยกชิ้นกันพร้อมใส่ลายรังผึ้ง มาจากชุดแต่ง M Aerodynamics
ล้อแม็กซ์ในรุ่น 520d M Sport เป็นลาย Double-spoke ขนาด 18 นิ้ว ส่วนรุ่น 530e M Sport เป็นลาย Y-spoke แบบปัดเงา ขนาด 19 นิ้ว สุดท้ายกับรุ่น 530e Elite ลาย Double-spoke ขนาด 18 นิ้ว
ทั้งสามรุ่นมาพร้อมเบาะหนังแท้ Dakota ภายในห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport และ 530e M Sport ตกแต่งด้วยอลูมิเนียมลาย Rhombicle Smoke Grey พร้อมแถบโครเมี่่ยม ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู 530e Elite ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาพร้อมแถบโครเมียม
พิเศษในรุ่น 520d M Sport และ 530e M Sport มีคอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec และมาพร้อมจอ BMW Head-up Display กับระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฎิบัติการ BMW Operating System 7
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ มีทั้งเครื่องดีเซลและไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ใหม่ล่าสุด ขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้นกับสเปคทั้งสองดังนี้
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ มีพละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม.
ในรุ่นปลั๊กอินไฮบริด ทำงานทั้งเครื่องเบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 292 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุด 420 นิวตันเมตร และสามารถเพิ่มกำลังส่งในการเร่งความเร็วได้มากยิ่งขึ้นด้วยระบบ XtraBoost ซึ่งปลดปล่อยพละกำลังเสริมมากถึง 40 แรงม้า ภายในเวลาเพียง 10 วินาทีเมื่อขับขี่ในโหมด SPORT จึงสามารถโลดแล่นจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 235 กม./ชม.
การขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วน ทำได้ระยะทาง 52 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่แรงดันสูงความจุ 12.0 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่ติดตั้งอยู่ใต้เบาะหลัง นอกจากนี้ ยังมีระดับการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยต่ำเพียง 41 กรัม/กิโลเมตรตามการอ้างอิงผล ECO Sticker ซึ่งนับว่าต่ำที่สุดในกลุ่มรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดขนาดใหญ่ในประเทศไทย
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 รุ่นย่อย 530e M Sport ยังพกพาระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว (Integral Active Steering) ที่มีระยะกว้างกว่ารุ่นก่อนหน้า ส่งล้อหลังมาช่วย เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วมากกว่า 3 กม./ชม. โดยรุ่นท็อป 530e M Sport มาพร้อมช่วงล่างแบบ Adaptive ปรับความแข็งอ่อนอัตโนมัติ
เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ในบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ รุ่นย่อย 520d M Sport และ 530e M Sport มาพร้อมระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) ดังนี้
ระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go (Active cruise control with Stop & Go function) ในบีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport
ระบบควบคุุมความเร็วคงที่่ พร้อมฟังก์ชันช่วยลดความเร็ว (Cruise Control with braking function) ในบีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport และ 530e Elite ร
สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport ยังมาพร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera) และระบบช่วยนำรถเข้าที่่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus)
2021 BMW 5-series เพิ่มระบบปลดล็อกประตููอัจฉริยะ (Comfort Access System) ที่รองรับ BMW Digital Key ซึ่งเปลี่ยนให้ iPhone กลายเป็นเหมือนกุญแจรถ สามารถล็อกและปลดล็อกรถได้โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะสั้นแบบ NFC (Near Field Communication) โดยรองรับผู้ใช้ได้สูงสุดถึง 5 คน
ราคาขายอย่างเป็นทางการ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ไมเนอร์เชนจ์ ไม่ได้ปรับเพิ่ม แถมรุ่นท็อปยังมีราคาถูกลงอีกด้วยดังนี้
รุ่นย่อย | ราคา (บาท) |
530e Elite | 2,999,000 |
520d M Sport | 3,539,000 |
530e M Sport | 3,739,000 (เดิม 3,939,000) |
2021 BMW 5-series ทั้งสามรุ่นมาพร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard ซึ่งครอบคลุมการบำรุงรักษา 3 ปี / 60,000 กิโลเมตร และการรับประกัน 3 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง
ทั้งสามรุ่นยังมีให้เลือกใน 5 สี ได้แก่ Alpine White, Black Sapphire metallic, Bluestone metallic และ Phytonic Blue รวมทั้งสี Bernina Grey Amber effect สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport และ 530e M Sport
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}