Review: 2019 BMW i8 รถสปอร์ตแห่งโลกอนาคต

BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) ค่ายรถยนต์จากฝั่งยุโรป ส่งรถสปอร์ตหรู 2019 BMW i8 ออกมาจำหน่าย และด้วยนิยามใหม่ของรถสปอร์ตที่มาพร้อมนวัตกรรมแห่งโลกอนาคต ทำให้รถดูดีทันสมัยและเป็นที่น่าสนใจ และปี 2021 นี้ก็ BMW i8 ก็ยังคงมีจำหน่ายด้วยราคาเริ่มต้น 11.8 ล้านบาท ในรุ่น BMW i8 (Protonic Frozen Yellow) และราคา 12.999 ล้านบาท ในรุ่น BMW i8 Roadster รถสปอร์ตรุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-In Hybrid  ที่ให้กำลังสูงสุด 231 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 47.6 กิโลเมตร/ลิตร

2019 BMW i8 เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงจาก BMW ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน เปิดตัวในไทยมาตั้งแต่ปี 2019 รถสปอร์ต BMW i8 มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัย พร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Plug-In Hybrid  ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดถึง 231 แรงม้า

ราคา

• BMW i8 (Protonic Frozen Yellow) ราคา 11,839,000 บาท
• BMW i8 Roadster ราคา 12,999,000 บาท

การออกแบบภายนอก

BMW i8 เป็นรถสปอร์ตที่มีดีไซน์โดดเด่น โฉบเฉี่ยว  BMW ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมทันสมัย ออกแบบให้โครงสร้างกระจายน้ำหนักได้อย่างสมดุล ทุกส่วนออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ กระจังหน้า ฝากระโปรง ดีไซน์สปอร์ต มือจับประตูดีไซน์ซ่อนอยู่ในแผงประตูเพิ่มความโฉบเฉี่ยว

ใน BMW i8 (Protonic Frozen Yellow) มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED พร้อมฟังก์ชั่นส่องสว่างกลางวันขณะเลี้ยวโค้ง หลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort access) กระจกมองข้างฝั่งคนขับตัดแสงอัตโนมัติ ระบบไฟหน้าทำงานอัตโนมัติ ล้ออัลลอย BMW i ขนาด 20 นิ้ว ลาย W-spoke แบบพ่นสีด้าน ส่วน BMW i8 Roadster ระบบไฟหน้าเป็นเทคโนโลยี LED และไฟเลเซอร์ (BMW Laserlight) พร้อมไฟขอบรูปตัว U กุญแจรีโมตระบบสัมผัส (BMW Display) มีระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort access) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการปลดและล็อคประตูรถ

การออกแบบภายใน

ภายในห้องโดยสารของ BMW i8 ใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา การจัดวางอุปกรณ์ผสานกันได้อย่างลงตัว ตามสไตล์รถสปอร์ตที่ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่ ใน BMW i8 (Protonic Frozen Yellow) ภายในตกแต่งดีไซน์ Protonic Frozen Yellow Edition หลังคาภายในสี Anthracite ที่ทำให้มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เบาะนั่งตอนหน้าสามารถหรับไฟฟ้าได้ พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ sport พร้อม Gearshift paddles ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นเรื่องง่ายขึ้น มีระบบ BMW Head up Display ที่ทำให้ไม่ต้องละสายตาจากถนน ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่นลดความเร็ว

ส่วนใน BMW i8 Roadster ภายในตกแต่งด้วยวัสดุ DryCarbon เบาะนั่งและภายในบุด้วยหนังแท้ Spheric เบาะนั่งตอนหน้าสามารถปรับไฟฟ้าได้ พวงมาลัยมีปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชั่นทำให้สะดวกสบายในการขับขี่ มีกระจกมองข้างตัดแสงอัตโนมัติ  คอนโซลกลางออกแบบให้ในอุปกรณ์ต่างๆง่าย มีระบบ BMW Head up Display ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ ห้องโดยสารเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน

เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก

BMW i8 ติดตั้งเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกมาให้สมกับเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคต โดยมาพร้อมจอภาพขนาด 8.8 นิ้ว มีปุ่มควบคุม iDrive พร้อมระบบสัมผัส ปุ่มเรียกใช้ฟังก์ชั่นที่ชื่นชอบ มีระบบแสดงข้อมูลการขับขี่ที่กระจกหน้าฝั่งคนขับ มีแผนที่นำทางรุ่น Professional แอพพลิเคชั่น BMW Live ที่ช่วยให้มั่นใจในการขับขี่ สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth มีช่องเสียบ USB และแท่นสำหรับอุปกรณ์เสริม เพิ่มความสุทรีย์ด้วยเครื่องเสียง HiFi Harman Kardon ที่ทำให้การเดินทางเป็นเรื่องสนุก

ระบบความปลอดภัย

ด้านระบบความปลอดภัย BMW i8 ก็มาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยทั้งปกป้องและป้องกันทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร อย่างเช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Break Assist) ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBS) ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชั่น Hold อัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง  ทั้งยังมีเซนเซอร์ควบคุมการถอยจอดด้านหน้าและหลัง ช่วยให้มั่นใจในการถอยจอด และยังมีระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่

ขุมพลัง

BMW i8 ติดตั้งระบบ Plug-In Hybrid ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ใน BMW i8 (Protonic Frozen Yellow)ให้กำลังสูงสุด 231 แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตรที่ 3,700 รอบ/นาที กำลังมอเตอร์สูงสุด 131 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 250 แรงม้า เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 362 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงอยู่ที่  4.4 วินาที ด้านอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 47.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 49 กรัม/กิโลเมตร

ส่วน BMW i8 Roadster ให้กำลังสูงสุด 231 แรงม้า ที่ 5,800 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 3,700 รอบ/นาที กำลังมอเตอร์สูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 250 แรงม้า เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 374 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงอยู่ที่  4.6 วินาที ด้านอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 47.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 51 กรัม/กิโลเมตร

สมรรถนะ

BMW i8 ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะแบบ Steptronic ที่มีระบบการขับขี่ในโหมดต่างๆ 4 แบบ คือ Comfort, Eco Pro, Sport และ eDrive เพื่อตอบสนองการเดินทางได้ในทุกรูปแบบ โดยเทคโนยี eDrive นี้เป็นการขับขี่แบบไร้มลพิษ ช่วยให้ลดการสิ้นเปลืองและประหยัดพลังงาน ทั้งยังมีระบบชาร์จไฟที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากปลั๊กไฟบ้านมาตรฐานได้จนถึง 80% ภายในเวลาแค่ 2.5 ชั่วโมง

BMW i8 คือรถสปอร์ตที่ทันสมัย โดดเด่น ให้ความรู้สึกถึงพลังแห่งอนาคต ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกที่ออกแบบตามหลักพลศาสตร์ อุปกรณ์แต่ละชิ้นบ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ ภายในดีไซน์สวยหรู สมกับเป็นรถสปอร์ตสุดหรู ที่ให้ความพรีเมียมให้ทุกสัมผัส ทั้งยังผสานเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ากันได้อย่างลงตัว ด้านเครื่องยนต์สมรรถนะก็ใช้เทคโนโลยี Plug in Hybrid ที่นอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังรักษ์โลกอีกด้วย หากใครเป็นสายรถสปอร์ต และสนใจอยากจับจองเป็นเจ้าของก็สามารถสอบถามรายละเอียดและทดลองขับได้ที่โชว์รูม BMW ทั่งประเทศได้เลย