ซีอีโอ BMW เชื่อ การแบนเครื่องยนต์สันดาปเร็วเกินไปไม่เป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม

Oliver Zipse ซีอีโอของ BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) เชื่อว่าการเลิกใช้เครื่องยนต์สันดาปที่เร็วเกินไปไม่เป็นประโยชน์ต่อ “สภาพอากาศหรือใครก็ตาม” 

• การแบนเครื่องยนต์สันดาปเร็วเกินไปไม่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมหรือใครที่เกี่ยวข้อง
• ต้องเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปและวางแผนไว้ล่วงหน้า
• แต่ BMW ยังคงพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าควบคู่กันไป

Oliver Zipse ซีอีโอของ BMW เชื่อว่าการเลิกใช้เครื่องยนต์สันดาปเร็วเกินไปไม่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมหรือใครก็ตามที่เกี่ยวข้องในเรื่องนั้น 

Zipse กล่าวแก่นักการเมืองกลุ่มหนึ่งในการประชุมแบบปิด(ไม่รับรู้โดยสาธารณชน) ในเมือง Bundestag เยอรมนี ว่าระบบส่งกำลังที่ได้รับความนิยมมากที่สุดยังคงเป็นเครื่องยนต์สันดาป 

ดังนั้นการเลิกใช้งานเครื่องยนต์สันดาปจะต้องเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปและวางแผนไว้ล่วงหน้า

เขากล่าวว่า “อัตราส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมณีและรวมถึงยุโรปและทั่วโลกยังเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายใน ก่อนที่จะหยุดการใช้งาน(เครื่องยนต์สันดาป)ภายในแปดถึงสิบปีอย่างง่าย ๆ คุณต้องรู้ตัวดีว่าทำอะไรอยู่

หากคุณพยายามแบนเทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาปในเยอรมนีและยุโรป แต่ตลาดโลกยังไม่ได้คิดอย่างเดียวกัน คุณจะสูญเสีย(เวลาการพัฒนา)เทคโนโลยีนี้ในตลาดโลกเช่นกัน

เป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องเตือนว่า การเปลี่ยนแปลงที่เร็วเกินไปและไม่ให้โอกาสสำหรับการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนากับตลาด ทำให้การเลิกใช้เทคโนโลยีที่คุณมีในตลาดทั่วโลกโดยไม่จำเป็นอาจเป็นอันตรายต่อคุณได้ ผมคิดว่าสิ่งนี้จะไม่เป็นประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมหรือใครก็ตาม”

เวลานี้ BMW ยังคงเป็นระดับแนวหน้าสำหรับการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในแบรนด์ “i” ซึ่งได้เปิดตัวรถไฟฟ้าล้วนอย่าง i3 และสปอร์ตปลั๊กอินไฮบริดอย่าง i8 เมื่อปี 2013 จนมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้เปิดตัว i4 ซีดาน, ครอสโอเวอร์ iX3 และเอสยูวีอย่าง iX 

อย่างไรก็ตาม นั่นแปลว่าบีเอ็มดับเบิลยูยังไม่ยอมแพ้กับเครื่องยนต์สันดาป ดังนั้นบีเอ็มดับเบิลยูจึงกำลังพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปทั้งเบนซินและดีเซลรุ่นใหม่ซึ่งให้สัญญาว่าจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

และดูเหมือนว่าทางบริษัทจะจำหน่ายรถเครื่องยนต์สันดาปควบคู่กับรถยนต์ไฟฟ้าไปอีกสักพัก...

อ่านเพิ่มเติม : BMW ยืนยันยังพัฒนาเครื่องสันดาป แม้เลิกทำ V12 แต่ค่ายคู่แข่งเขาไปถึงไหนกันแล้ว ?