Nissan (นิสสัน) เป็นหนึ่งในค่ายรถที่เป็นผู้นำในการทำรถยนต์ไฟฟ้ามาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ก่อนที่จะมี Nissan Leaf เสียอีก สิ่งที่จะนำเสนอในบทความนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าหนึ่งในหลายคันที่นิสสันได้สร้างขึ้น เพื่อแสดงว่าค่ายรถจากญี่ปุ่นก็สนใจอีวีอยู่เหมือนกัน
ในช่วงต้นปี 1991 หรือประมาณเกือบ 5 ปีก่อนที่จะมี GM EV1 ทางนิสสันได้เปิดตัวรถค้นแบบ FEV concept ซึ่งย่อมาจาก “Future Electric Vehicle”
FEV concept ไม่ได้เป็นเหมือนรถที่โชว์ด้านดีไซน์เพียงอย่างเดียว แต่รถคันนี้ได้เผยความตั้งใจของนิสสันว่าจะสามารถผลิตจริงได้ แต่ในที่สุดแล้วนิสสันก็ตัดสินใจไม่จำหน่ายรถคันนี้ออกไป
การตัดสินใจครั้งนั้นอาจเป็นเพราะว่าในช่วงต้นถึงกลางทศวรรษที่ 1990s ขณะนั้นตลาดรถยนต์ยังไม่พร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเท่าไหร่นัก เนื่องจากขณะนั้นน้ำมันเชื้อเพลิงยังมีราคาถูกและยังไม่มีเงินสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อเปลี่ยนรถให้เป็นไฟฟ้า
ในขณะนั้น Nissan ได้จินตนาการ FEV ให้เป็นอีวีที่ขับขี่ในระยะสั้นเท่านั้น และเหมาะกับการใช้งานในเมือง สำหรับผู้ที่สามารถชาร์จรถที่บ้านได้ เพราะสมัยนั้นไม่มีที่ชาร์จสาธารณะให้อย่างแน่นอน
FEV concept ใช้แหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่นิกเกิลแคดเมียม (NiCad) ที่ไม่ระบุความจุ แต่สามารถขับได้ 250 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
และในสมัยนั้น Nissan เคลมว่ารถคันนี้สามารถใช้ระบบฟาสต์ชาร์จได้โดยใช้ฟังก์ชั่น Super Quick Charge (SQC) ซึ่งต้องอยู่ในระบบไฟฟ้าแบบ 200V โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ 40% ได้ภายในเวลาเพียง 6 นาทีเท่านั้น
ส่วนในการชาร์จปกติที่แรงดันแบบ 100V นิสสันเคลมว่าเราสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ภายใน 8 ชั่วโมง ซึ่งทำได้ดีมากเมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน
เพราะ FEV concept มีระบบ heat pump ซึ่งทำให้รถสามารถจัดการกับความร้อนของห้องโดยสารและระบบขับเคลื่อนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของรถให้ดีขึ้น และยังมีแผงโซล่าเซลล์ที่เป็นแหล่งพลังงานอีกที่หนึ่งนอกจากการชาร์จ
ทางด้านของสมรรถนะนั้นไม่ได้มีอะไรที่หวือหวา นิสสันไม่ได้เปิดเผยกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าออกมา แต่มีข้อมูลว่า FEV จะใช้เวลาราว 20 วินาที เพื่อที่จะทำ 0-100 กม./ชม. และมีความเร็วสูงสุดที่ 130 กม./ชม.
นอกจากนี้ FEV concept เป็นรถที่มีน้ำหนักเบา เพราะตัวรถจะใช้อะลูมีเนียมเป็นส่วนใหญ่ และยังมีค่าสัมประสิทธิ์ความเสียดทานหรือ Cd ที่ต่ำเพียง 0.19 เท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม : “แอโรไดนามิกส์” จะส่งผลต่อรูปร่างและระยะทางของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างไรบ้าง?
อย่างไรก็ตาม ในด้านของสมรรถนะเราอยากให้เรื่องนี้ฟังหูไว้หู เนื่องจากว่าไม่มีใครได้ทดสอบรถคันนี้จริง ๆ เลยสักคน และเราไม่ทราบว่ามีรถต้นแบบที่ทำการทดสอบอย่างนี้หรือไม่
หาก Nissan นำรถยนต์ไฟฟ้าสเปคดังกล่าวมาผลิตจริง หากประสบความสำเร็จ อาจทำให้เป็นการกระตุ้นผู้ผลิตรถรายอื่นให้สร้างรถยนต์ไฟฟ้าให้คนได้ใช้เร็วขึ้นก็เป็นได้
อ่านเพิ่มเติม : 2023 Nissan Leaf ปรับหน้าตาเพิ่มความสปอร์ต แต่อื่น ๆ ก็เหมือนเดิม
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}