BMW i3 (บีเอ็มดับเบิ้ลยู ไอ3) รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกจากค่ายรถแคว้นบาวาเรียนี้ นอกจากความพิเศษด้านระบบขับเคลื่อนแล้ว หลายคนยังไม่รู้ว่า บางชิ้นส่วนของรถคันนี้ มีกัญชงผสมอยู่ด้วย แต่ไม่ได้ใช้สูบหรือเป็นสารระเหย แค่ใช้ประกอบความแข็งแรงเท่านั้น
BMW i3 เปิดตัวในตลาดโลกปี 2013 มีดีไซน์ล้ำหน้ากว่าใคร ด้วยจุดเด่นกับตัวถังแฮตช์แบ็คท้ายตัดหลังคาสูง ที่มีบานประตูตอนหลังเป็นแบบเปิดย้อน ไร้เสากลางประตู ทำให้เข้าออกง่ายกว่าแบบทั่วไปมาก ที่สำคัญคือ ตัวถังรถนั้นทำมาจากเส้นใยกัญชง ที่มีความเหนียวมาก มาใช้แทนเส้นใยของคาร์บอนไฟเบอร์ทั่วไป
การใช้กัญชงนี้ มีประโยชน์ตรงทำให้เพิ่มปริมาณการปลูกต้นไม้ในระบบอุตสาหกรรม คงความแข็งแรงแบบคาร์บอน และลดน้ำหนักรถได้ถึง 350 กก.โดยรวม และช่วยเพิ่มสมดุลย์น้ำหนักหน้า-หลังให้เท่ากันแบบ 50:50 ช่วยเพิ่มการเกาะถนนไปในตัว แต่น่าเสียดายที่ต้นทุนการทำเส้นใยกัญชงสูงมาก ทำให้รถรุ่นนี้มีกำไรต่อคันน้อยกว่ารุ่นอื่น ๆ ในค่ายเดียวกัน
อ่านเพิ่มเติม : รู้จัก Cannabis Car รถที่สร้างจาก “กัญชา” ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้า
ภายในรุ่นนี้มีคอนโซลลายไม้พร้อมหน้าปัดดิจิตัลขนาด 6.5 นิ้ว กับหน้าจออินโฟเทนเม้นท์กลางขนาด 8.8 นิ้ว ใช้ระบบปฏิบัติการ iDrive พร้อมการเชื่อมต่อ USB และ Bluetooth มีหลังคาซันรูปเปิด-ปิดได้ ส่วนด้ามเกียร์ยังเป็นก้านติดคอพวงมาลัย ที่พวงมาลัยปรับน้ำหนักได้ตามความเร็ว โดยรวมแล้ว BMW i3 มันมีความล้ำหน้ามาก ถึงขั้นที่ผู้บริหารแอปเปิ้ลอย่าง Tim Cook ต้องขอมาดูงานการผลิต และเป็นแรงบันดาลใจให้เริ่มโครงการผลิตรถยนต์ในเวลาต่อมา
เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Range-Extended มีทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ปั่นไฟช่วยเพิ่มระยะทางวิ่ง โดยการขับเคลื่อนหลักเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหลังทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.2 วินาที มีความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม. มีระยะทางวิ่งสูงสุด 160 กม.ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และใช้เวลาเสียบชาร์จไฟด่วน DC เพียง 30 นาที หากชาร์จกับตู้ชาร์จติดบ้าน จะใช้เวลา 3-6 ชั่วโมง
ถ้าไม่อยากรอเสียบปลั๊ก ก็ยังมีเครื่องยนต์เบนซิน 2 สูบ ขนาด 650 ซีซี กำลัง 34 แรงม้า เข้ามาเสริมปั่นไฟฟ้าเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี ซึ่งมีหลักการทำงานเหมือน Nissan Kicks ที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน โดยความจุถังน้ำมันขนาด 9 ลิตร ช่วยเพิ่มระยะทางวิ่งได้ไกลถึง 300 กม.
BMW i3 ถูกไมเนอร์เชนจ์ในปี 2017 เพิ่มความจุแบตให้วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 300 กม. และสุดท้ายในปี 2020 ได้ไมเนอร์เชนจ์อีกรอบ มีรุ่น i3s เพิ่มเข้ามา อัพเกรดพลัง ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ภายใน 6.2 วินาที ส่วนความเร็วปลายไหลไปได้ถึง 156 กม./ชม. วิ่งได้ไกลสุด 370 กม. ก่อนที่จะยุติสายการผลิตในกลางปี 2022 นี้เอง
อ่านเพิ่มเติม : ปิดฉาก BMW i3 ทำตลาด 9 ปี ประสบความสำเร็จแค่ไหน – รุ่นอะไรมาแทน?
BMW i3 ถูกนำมาโชว์ตัวตั้งแต่งาน Motorshow 2015 แต่ยังไม่ขายจริง แค่ศึกษาตลาด วิ่งโชว์ตัวและทดลองเก้บข้อมูลไปก่อน จากนั้นในปี 2019 ก็เปิดราคาขายที่ 3.73 ล้านบาท มาแบบนำเข้าทั้งคัน แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมนัก จนกระทั่งในปี 2020 ได้มาพร้อมโฉมปรับปรุงในราคาเพียง 2.23 ล้านบาท ทำให้ขายดีจนเกลี้ยงสต็อค
ราคามือสอง BMW i3 หลังจากผ่านไป 2 ปี ก็ลดลงมาเหลืออยู่ 1.5-1.8 ล้านบาทโดยประมาณ นับว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับผู้เริ่มต้นอยากลอง EV ของใหม่ แต่หวั่นใจกับการวางแผนชาร์จไฟ และไม่อยากได้รถไฟฟ้าล้วนในปัจจุบัน โดยยังมั่นใจในการรับประกันระดับรถยุโรป ที่กล้าให้นาน 3 ปีไม่จำกัดระยะทางด้วยครับ
อ่านเพิ่มเติม : ทำไม BMW i3 หลายสิบคันเหล่านี้ถึงถูกทิ้งไว้กางเกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}