ยืนยัน 2021 Mercedes-Benz S-Class ผลิตไทยปีหน้า ดับฝัน A-Class Hatchback พร้อมแจงเหตุผลิตรถเล็กล่าช้า

2021 Mercedes-Benz S-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส) โฉมใหม่ ไม่น่าพลาดที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยในรูปแบบของการผลิตในประเทศในปี 2564 ตามการยืนยันของ โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

AutoFun Thailand ได้พบปะกับท่านประธานในการไปเยือนโรงเรียนเยาววิทย์ จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่ทางบริษัทได้จัดทำมาอย่างต่อเนื่องนับสิบปี และมีโอกาสได้พูดคุยกันถึงเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า การเข้าร่วมมอเตอร์เอ็กซ์โป และเรื่องรถยนต์ใหม่

แน่นอนว่ามีคำอธิบายเรื่องความล่าช้าในการขึ้นไลน์ประกอบรถยนต์นั่งและครอสโอเวอร์ขนาดเล็กอย่าง Mercedes-Benz A-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส) และ Mercedes-Benz GLA (เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ) ที่ล่าช้ากว่ากำหนดการเดิมอยู่นานพอสมควร แต่จะเกิดขึ้นแน่นอนในปีนี้

และแน่นอนว่าเมื่อเกิดการล่าช้าในการประกอบรถยนต์ที่โรงงานในประเทศไทยขึ้น ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่จะเปิดตัวตามมา แต่เมื่อถามโรลันด์ตรง ๆ ว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส ใหม่นั้น จะประกอบในประเทศ เพื่อเปิดตัวทันภายในปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ควรจะเป็นหรือไม่

"ทำไมจะต้องเลื่อนล่ะ ไม่เห็นจะมีเหตุผลเลย" นั่นคือคำตอบที่ชัดเจนพอที่จะบอกให้บรรดาแฟน ๆ รถรุ่นใหญ่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมายคันนี้พอจะได้ชื่นใจกันได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังต้องมาลุ้นกันอยู่ดีว่า เมื่อมาประกอบในประเทศไทยแล้ว จะมีเครื่องยนต์และออพชั่นอะไรให้เลือกกันบ้าง

2021 Mercedes-Benz S-Class เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ทันสมัยที่สุด

เอส-คลาสใหม่ ที่หลาย ๆ คนติติงในเรื่องของรูปร่างหน้าตาว่าลดความหรูหราอลังการลงจากรุ่นก่อนหน้า ด้วยความพยายามในการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ที่ปราดเปรียวกว่าเดิม แต่เพิ่มความสะดวกสบายและความน่าใช้งานด้วยฟังชั่นส์ต่าง ๆ มากมาย เรียกได้ว่าเอาใจผู้บริหารที่หัวใจวัยรุ่นมากขึ้น

ถ้าคุณคิดว่าไม่ชอบมันล่ะก็ ตัวรถรุ่นเดิมก็จะยังมีจำหน่ายไปจนถึงปีหน้าอย่างแน่นอน ลองมาอ่านบทความทดสอบเจ้า Mercedes-Benz S560e (เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส560อี) รุ่นปัจจุบัน ท็อปออฟโมเดลเจ้าของค่าตัว 6.999 ล้านบาทดูก็ได้ แถมยังมีออพชั่นทางเลือกเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือกต่างหาก

แต่ถ้าหากไม่ใจร้อนและอยากได้รับที่หน้าตาวัยรุ่นขึ้นกว่าเดิม ก็ไปรอลุ้นกันต่อว่าเวอร์ชั่นผลิตในไทยจะได้เครื่องยนต์ตัวไหนมาใช้บ้าง เพราะเครื่องยนต์ที่เปิดตัวมามีอย่างหลากหลาย แต่ในไทยถ้าให้เดาก็น่าจะเป็นเครื่องยนต์อีคิวบูสต์ 3.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 429 แรงม้า พร้อมแรงบิด 384 ฟุตปอนด์

ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด เป็นเครื่องยนต์หลักในการทำตลาด และแน่นอนว่าต้องมีเครื่องยนต์ดีเซลอีกสักหนึ่งรุ่นเป็นรุ่นขาย และก็น่าจะตกเป็นหน้าที่ของเอส350ดี เหมือนเช่นเคย ขณะที่เครื่องยนต์ไฮบริดนั้นน่าจะหายไปจากการทำตลาด เพราะมีเครื่องอีคิวบูสต์มาทำหน้าที่แทนแล้ว

ระบบความปลอดภัยมีมากมายหลายอย่าง แต่หวังว่าจะได้เห็นระบบ Pre-Safe Impulse Control ที่จะช่วยยกตัวถังรถขึ้นเล็กน้อยเมื่อตรวจจับว่าอาจมีการชนด้านข้าง ระบบ E-Active Body Control ปรับการทำงานของช่วงล่างแบบแปรผัน และถุงลมนิรภัยห้องโดยสารด้านหลังช่วยป้องกันผู้โดยสารเบาะหลัง

ทำไมเอ-คลาสและจีแอลเอถึงล่าช้า

โรลันด์ไม่ปฏิเสธที่เราถามว่าทำไมการเปิดสายการผลิตรถเล็กทั้ง 2 รุ่นถึงล่าช้ากว่ากำหนดการณ์ที่ควรจะเป็น เพราะจีแอลเอนั้นเปิดตัวในตลาดโลกมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 และตามความเป็นจริงแล้ว ไม่น่าจะใช้เวลาเกิน 6 เดือนหลังจากนั้น สำหรับการขึ้นไลน์พวงมาลัยขวาสำหรับรถทั้ง 2 รุ่น

แน่นอนว่าการตัดสินใจให้ประเทศไทยนั้นทำการผลิตรถยนต์ทั้ง 2 รุ่นเป็นเรื่องที่ดี แต่เมื่อพิจารณาจากไลน์ผลิตแล้ว การผลิตรถใหม่ในไลน์เดียวกันเป็นเรื่องที่มีความยุ่งยากและต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเข้ามาให้คำแนะนำ แต่ที่ผ่านมา ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้

"แน่นอนว่าผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลให้การผลิตรถรุ่นใหม่ล่าช้าไป การผลิตรถเอ-คลาสและจีแอลเอในสายการผลิตเดียวกันเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีระดับสูง ทำให้ล่าช้ามาเล็กน้อย แต่ใครที่ถามถึงเอ-คลาส แฮชท์แบ็ค ขอบอกว่าเรายังไม่มีแผนงานสำหรับรถรุ่นนั้นในขณะนี้"

แต่ประเทศไทยผลิต AMG มากถึง 5 รุ่น

อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ได้ทำการผลิตหรือจำหน่ายเอ-คลาสเวอร์ชั่นแฮชท์แบ็ค ฐานการผลิตในประเทศไทยก็ยังเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ที่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า เป็นค่ายรถหรูรายเดียวที่ทำการผลิตรถเวอร์ชั่นแรงอย่าง Mercedes-AMG (เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี) ที่โรงงานในประเทศไทย

ในปัจจุบันนั้น รถยนต์กลุ่มเอเอ็มจีมีส่วนแบ่งยอดขายของค่ายประมาณ 12-15% และเป็นยอดขายที่ไม่ตกไปตามการหดตัวของตลาด เป็นเพราะราคาจำหน่ายที่จับต้องได้ แม้จะเป็นรถยนต์สมรรถนะสูง เป็นผลมาจากการเปิดสายการผลิต ทำให้สามารถวางราคาจำหน่ายได้เหนือกว่าคู่แข่งที่เป็นรถนำเข้า

ในปัจจุบัน โรงงานเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ผลิตรถยนต์ในกลุ่มเอเอ็มจี 5 รุ่น ประกอบไปด้วย Mercedes-AMG C43 (เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ซี43) เวอร์ชั่นซีดานและคูเป้ เจ้าของค่าตัว 4.31 ล้านบาทและ 4.14 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งราคารุ่นคูเป้นั้นถูกกว่าตอนนำเข้ามาอยู่ล้านกว่าบาท

Mercedes-AMG E53 (เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ซี53) เวอร์ชั่นซีดาน ที่วางราคาจำหน่ายที่ 5.26 ล้านบาท Mercedes-AMG CLS53 (เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี53) เวอร์ชั่นคูเป้ ค่าตัว 5.35 ล้านบาท ราคาถูกลงกว่าตอนนำเข้า 1.7 ล้านบาท เรียกว่ามีความน่าใช้งานมากขึ้นอย่างมากมาย

ปิดท้ายกันที่เอสยูวีเพียงรุ่นเดียวของตัวแรงที่ผลิตในประเทศอย่าง Mercedes-AMG GLC43 Coupe (เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีแอลซี43 คูเป้) เจ้าของค่าตัว 4.99 ล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่าการมีรถยนต์ตัวแรงที่หลากหลายในหลายเซกเมนต์ ก็สามารถเอาใจลูกค้าและตอบสนองความต้องการได้อย่างลงตัว 

 

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:
Pisan

หัวหน้าทีมบรรณาธิการ

Head of Content ของ AutoFun Thailand ผู้ใช้ชีวิตกับรถมาตั้งแต่สมัยใส่ขาสั้นไปโรงเรียน ทุกวันนี้รถติดบนถนนมากกว่าวันละ 2-3 ชั่...

ขายรถเก่า-ซื้อคันใหม่ ไม่ยุ่งยาก ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Mercedes-Benz A-Class

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

The New Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic ก้าวแรกสู่โลกของพรีเมี่ยมคอมแพ็คคาร์ ด้วยสมรรถนะสูงสุดในคลาส

Mercedes-Benz S580e ปะทะ The EQS 450+ คันนีงซื้อได้เลย อีกคันต้องรอปลายปี ว่าแต่คันไหนดีนะ | AutoFun เมอร์เซเดส-เบนซ์

พาชม 2021 Mercedes-Benz S-Class มีดีมากกว่าถุงลมด้านหลัง สบาย-ปลอดภัยเหนือใคร กับค่าตัว 7.19 ล้านบาท

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

Mercedes-Benz A-Class
เช็คทันที