ซีดานผู้บริหารไฟฟ้าใหม่เรือธง 2022 BMW i7 (บีเอ็มดับเบิ้ลยู ไอ7) ที่วางขายใประเทศไทยกันเรียบร้อยแล้วด้วยราคาเริ่มต้น 7.599 ล้านบาท
มาพร้อมกันถึง 3 รุ่นย่อยด้วยกัน ซึ่งรุ่นเริ่มต้นกับรุ่นท็อปมีราคาห่างกันถึง 1 ล้านบาท จะมีอะไรแตกต่างกันบ้าง คุ้มไม่คุ้ม เราจะมาบอกกัน
ราคาต่างกันเท่าไร?
BMW i7 นี้จะมาให้คนชอบความใหญ่โตเลือกด้วยกันถึง 3 รุ่นในราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทางแล้ว คือ
ราคา BMW i7 |
รุ่น |
ราคา |
เพิ่ม |
First Edition |
7,599,000 บาท |
- |
M Sport |
7,849,000 บาท |
250,000 |
Gran Lusso |
8,599,000 บาท |
750,000 |
จะเห็นได้ว่าในแต่ละรุ่นนั้นมีราคาท่ตกต่างกันมากเลยทีเดียว แต่ก็มาพร้อมออพชั่นหลายอย่างที่ไปติดตั้งภายหลังไม่ได้
อ่านเพิ่มเติม BMW i7 7.599 ล้าน 625 กม. จอหลัง 31.3 นิ้ว
xDrive60 M Sport (First Edition)
เริ่มกันที่รุ่นแรก ที่ก็มีออพชั่นหลาย ๆ อย่างยังคุ้มค่าคุ้มราคา
- ล้ออัลลอย M ขนาด 21 นิ้ว แบบสลับสี
- ระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว
- ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยไฟฟ้า BMW xDrive Electric
- ระบบช่วยการขับขี่ รุ่น Professional
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop&Go
- ระบบ BMW Head-up Display
- ช่วงล่างถุงลม Adaptive 2-axle
- ระบบช่วยนํารถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus
- หลังคากระจก Panorama เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- ภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดําเงา
- สปอยเลอร์หลังดีไซน์ M
- ชุดตกแต่งภายนอกแบบ M Sport
- กระจังหน้า BMW kidney Iconic Glow
- ระบบไฟหน้า BMW crystal headlights Iconic Glow
- ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ
- ระบบช่วยผ่อนแรงกระแทกขณะปิดประตู
- ระบบ Heate rเบาะนั่งตอนหน้าและหลัง
- ฟังก์ชันนวดผ่อนผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหลัง
- ระบบระบายอากาศทั้งเบาะหน้าและหลัง
- เบาะนั่งตอนหน้า-หลังแบบ multifunctional
- พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M
- ภายในตกแต่งด้วย Carbon Fibre ถักด้วยวัสดุสีเงิน
- คอนโซลกลาง Piano Finish
- ชุดตกแต่งภายใน BMW Individual
- เพดานหลังคาบุด้วย Alcantara สี Anthracite
- Ambient Light
- ม่านบังแดดที่ประตูหลังและกระจกหลัง
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน
- ภายในตกแต่งดีไซน์ M Sport
- BMW Live Cockpit Professional
- ระบบ BMW ConnectedDrive
- ระบบเสียงรอบทิศทาง Bowers & Wilkins Diamond
- ระบบเชื่อมต่อ Smartphone
- ระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์
- BMW Interaction Bar
- แผงควบคุมบริเวณแผงประตู
- ระบบจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง BMW Theatre Screen
อ่านเพิ่มเติม เทียบ 2022 BMW i7 vs Mercedes-EQ EQS
- ถุงลมหน้า-ด้านข้างคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
- ถุงลมศีรษะผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง
- ระบบ Teleservices
- ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน
- ตัวยึดคาร์ซีทเด็ก ISOFIX
- ABS, DSC, DTC, BA
- เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน
- ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง
- ระบบเตือนสถานะของยาง
- ระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง
- ระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
- ชุดปะยางฉุกเฉิน
- ชุดตกแต่ง Sport
xDrive60 M Sport
และในรุ่นกลางที่มีราคาเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็อาจมีของเพิ่มมาไม่มาก กับราคา 250,000 บาท
- คาลิเปอร์เบรก M Sport สีน้ำเงินเข้ม
- ระบบประตูเปิดและปิดอัตโนมัติ
- เ บาะนั่งตอนหลังแบบ Executive lounge
xDrive60 M Sport Gran Lusso
ส่วนรุ่นท็อป ก็อาจมีความพิเศษกว่ารุ่นอื่นเล็กน้อยด้วย
- ล้ออัลลอย M aerodynamic ขนาด 21 นิ้ว สี Titanium Bronze ขัดเงาลาย 3 มิติ
- ระบบควบคุมช่วงล่าง (Executive Drive Pro)
- สีภายนอกแบบ BMW Individual two-tone metallic
- ชุดตกแต่งภายใน BMW Individual Gran Lusso
อะไรแพง?
สิ่งที่เป็นไปได้ที่ทำให้ตัวรุ่น Gran Lusso มีราคาแพงคือสีแบบทูโทนที่ใช้ความเชี่ยวชาญอย่างมากในการผลิต
Bernd Gress วิศวกรเครื่องกลและหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีตัวถังทาสีที่โรงงาน Dingolfing ของ BMW กล่าวว่าการทำสีทูโทนนั้นใช้ทั้งแบบอัตโนมัติและลงสีด้วยมือ โดยเขาต้องดูแลในการผลิตสี รวมถึงการลงสีตัวถังทั้งหมดให้ดำเนินไปอย่างราบรื่น
มีกระบวนการเฉพาะ จึงใช้เวลามากกว่า โดย Gress กล่าวว่าระยะเวลารอสีแบบมาตรฐานนั้นไม่เกิน 10 ชั่วโมง แต่สำหรับงานสีทูโทนเผื่อเวลาไว้อีกหลายชั่วโมง และถูกเคลือบเงาอีกครั้งสุดท้ายเพื่อไม่ให้ดูมีรอยต่อ
อ่านเพิ่มเติม เหตุใดสีทูโทนของ 2023 BMW 7-Series มีราคาแพง
รุ่นกลางคุ้ม
เอาเข้าจริง ๆ อาจเป็นเรื่องที่พูดได้ยากว่ารุ่นไหนจะคุ้มกว่ากัน เนื่องจากในรุ่นเริ่มต้นก็มีอุปกรณ์ความสะดวกมาค่อนข้างครบแล้ว และทุกรุ่นมีพละกำลังที่เหมือนกัน แต่มีข้อแตกต่างกันอย่างเดียว
คือรุ่นแรก First Edition มีอัตราการชาร์จ AC อยู่ที่ 11 kW ใช้เวลาชาร์จเต็ม 100 % 10 ชั่วโมง 30 นาที ส่วนอีก 2 รุ่นจะสามารถรองรับกำลังไฟ 22kW ได้และใช้เวลาชาร์จเต็ม 5 ชั่วโมง 30 นาที
นั่นหมายความว่า หากเราซื้อ First Edition จะมีอัตราการชาร์จจนเต็มที่ช้ากว่ารุ่นอื่น แถมจ่ายมาอีกไม่มากก็ได้ประตูเปิด-ปิดอัตโนมัติ และเบาะนั่งตอนหลังแบบ Executive lounge แล้ว ราคาเท่านี้น่าจะไม่กระทบเหล่าผู้บริหารเท่าไรนัก
อย่างไรก็ตาม ก็ควรไปลองนั่งลองจับกันดูก่อนว่าชอบกันหรือไม่ครับ