BMW (บีเอ็มดับเบิ้ลยู) เผยโฉมรถอย่างเป็นทางการครั้งแรกของซีดานไฟฟ้าขนาดใหญ่ BMW i7 (บีเอ็มดับเบิ้ลยู ไอ7) ไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ด้วยราคาประมาณ 4.7 ล้านบาทในต่างประเทศ

โดยตัวรถได้มีการปรับเปลี่ยนหน้าตามาใหม่ แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ในหลายจุด และพร้อมมาเขย่ากระเป๋าเงินเหล่าผู้บริหารชาวไทยกันแล้วด้วยราคา 7.599 - 8.599 ล้านบาทเท่านั้น

มี 3 รุ่นให้เลือก

โดย 2022 BMW i7 นี้จะมาให้คนชอบความใหญ่โตเลือกด้วยกันถึง 3 รุ่นในราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทางแล้ว คือ

อ่านเพิ่มเติม อดีตนักออกแบบ BMW ชี้ดีไซน์ 7-Series ใหม่น่าสน แต่กระจังหน้าใหญ่ไปนิด

กระจังหน้าใหญ่เหมือนเดิม

ด้านหน้าของ BMW i7 จะยังคงเอกลักษณ์กระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่เอาไว้เพิ่มการเรืองแสงได้ มีการเปลี่ยนทรงไฟหน้าเป็นหลอด LED จำนวน 22 ดวงแบบแยกชั้นอันเรียวบางคล้ายกับ BMW X7 (บีเอ็มดับเบิ้ลยู เอกซ์7) เจเนอเรชั่นใหม่ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

ด้านล่างมีช่องดักลม พาดด้วยเส้นแบ่งกลางสีฟ้า พร้อมล้อลาย 5 ก้านใหม่ ซึ่งชาวไทยจะได้ชุดแต่ง M Sport กันด้วย

ส่วนด้านท้ายจะเปลี่ยนจากแถบไฟที่เคยพาดยาวซ้าย-ขวา มาเป็นแบบแยก จะเห็นได้ว่ามีการเล่นสีตัวรถด้วยสีฟ้าในจุดต่าง ๆ สื่อถึงความเป็นรถยนต์ไฟฟ้า มีช่องชาร์จไฟอยู่ด้านขวา มือจับถูกซ่อนอยู่ในประตูรถ

ความพิเศษภายนอกของ Gran Lusso คือได้สีพิเศษแบบทูโทน BMW Individual two-tone metallic มาพร้อมสีหลังคา 2 สี คือ

• สีดำ Black Sapphire Metallic
• สีเทา Oxide Grey Metallic

และสีตัวถังด้านล่าง 5 สี คือ

• สีดำ Black Sapphire Metallic
• สีเทา Oxide Grey Metallic
• สีแดง Aventurine Red Metallic
• สีน้ำเงิน Tanzanite Blue Metallic
• สีเทา Dravit Grey Metallic

และยังมีล้ออัลลอย M aerodynamic ขนาด 21 นิ้วสี Titanium Bronze ขัดเงาลายสามมิติ ในขณะที่รุ่นอื่นจะเป็นล้ออัลลอย M ขนาด 21 นิ้ว แบบสลับสี
 

ของดีอยู่ภายใน

เรียกได้ว่าจุดเด่นจริง ๆ ของ BMW i7 นั้นจะอยู่ที่ภายใน สำหรับผู้ขับขี่จะมีจอโค้ง BMW Curved Display แบบใน BMW iX (บีเอ็มดับเบิ้ลยู ไอเอกซ์) ที่รวมหน้าจอความบันเทิงขนาด 12.3 นิ้ว เข้ากับหน้าปัดดิจิตอลขนาด 14.9 นิ้ว

นอกจากนี้ทั้งใน BMW i7 และ BMW 7-Series รุ่นเครื่องยนต์สันดาปใหม่ จะยังมีระบบ BMW Interaction Bar ที่ฝังตัวอยู่ที่แดชบอร์ดและแผงประตู ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นไฟห้องโดยสาร Ambient Light และสามารถเปลี่ยนสีเพื่อบอกสถานะต่าง ๆ เช่น ระบบเตือนการชน รวมถึงสายเรียกเข้า

เบาะนั่งแบบมัลติฟังก์ชัน มาพร้อมฟังก์ชันนวดสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหลัง รวมถึงระบบอุ่นเบาะทุกที่นั่ง ระบบระบายอากาศสำหรับเบาะที่นั่ง และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน หลังคากระจกพาโนรามา Sky Lounge เพิ่มความโอ่อ่า

จอ 31.3 นิ้ว

สิ่งที่หน้าสนใจที่สุด ก็คือหน้าจอหลังความชัดระดับ 8K ขนาด 31.3 นิ้ว BMW Theatre Screen รูปแบบ 32:9 สามารถพับเก็บขึ้นบนหลังคาได้ เปลี่ยนที่นั่งหลังให้เป็นโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่

โดยใช้ซอฟท์แวร์ Amazon Fire จากทีวี ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย 

เสริมลำโพง 39 ตัว ระบบเสียงจาก Bowers & Wilkins Diamond กำลัง 2,000 วัตต์ 

อ่านเพิ่มเติม BMW คิดว่าในอนาคต "หน้าจอขนาดใหญ่" จะกลายเป็นอดีต

ขุมกำลัง

สำหรับตัวรถนั้นจะมาด้วยรหัส xDrive60 มาพร้อมกับมอเตอร์คู่ ให้กำลังรวม 544 แรงม้า แรงบิด 745 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า

ตัวรถสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ได้ภายใน 4.7 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 239 กม./ชม. 

ตัวแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนนั้นมีขนาด 105.7 kWh อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 19.6-18.4 kWh/100 กม.

BMW i7 มีระยะวิ่ง 625 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ในสหรัฐอเมริกา 

ในรุ่นแรก First Edition มีอัตราการชาร์จ AC อยู่ที่ 11 kW ใช้เวลาชาร์จเต็ม 100 % 10 ชั่วโมง 30 นาที ส่วนอีก 2 รุ่นจะสามารถรองรับกำลังไฟ 22kW ได้และใช้เวลาชาร์จเต็ม 5 ชั่วโมง 30 นาที

ความปลอดภัยไม่น้อย

มาพร้อมระบบช่วยการขับขี่ที่ระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ และฟังก์ชัน Stop & Go และระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว (Integral Active Steering) ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ทั้งสามรุ่นย่อยมาพร้อมช่วงล่างแบบถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ 

ในขณะที่ระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro ที่ติดตั้งมาเป็นพิเศษเฉพาะใน Gran Lusso สำหรับรุ่นอื่นจะมี

• ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ 
• ระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) 
• ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection) 
• ระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง 
• ระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ 

เดี๋ยวมี PHEV ตามมา

BMW i7 ถือว่ามีราคาที่ทำออกมาได้ไม่แพงเลย และยังมีแพคเกจการดูแลมาให้ด้วยโปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์ BMW Services Inclusive (BSI) Standard สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

ครอบคลุมแพ็คเกจการรับประกัน และการบริการดูแลบำรุงรักษาสูงสุด 4 ปีไม่จำกัดระยะทาง รับประกันแบตเตอรี่แรงดันไฟสูงและอุปกรณ์ร่วมนานสูงสุด 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร 

หลังจากการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู i7 เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ทางค่ายยังเตรียมเปิดตัว BMW 7-Series (บีเอ็มดับเบิลยู 7 ซีรี่ส์) ใหม่ ปลั๊กอินไฮบริด รุ่นประกอบในประเทศ ในปี พ.ศ. 2566 ด้วย