2021 BMW 5-Series (บีเอ็มดับเบิ้ลยู ซีรี่ย์ 5) G30 รุ่นปรับปรุงโฉม LCI (Life Cycle Impulse) เตรียมเปิดตัวในประเทศไทย วันที่ 20 มกราคม 2021 ที่กำลังจะถึงนี้ หลังจากที่ในต่างประเทศเผยโฉมให้เห็นกันตั้งแต่กลางปี 2020
โดยการเปิดตัว BMW 5-Series LCI จะเป็นการเปิดตัวแบบ Digital Premiere หรือเรียกกันตามภาษาทั่วไปว่า ไลฟ์สดผ่านทางออนไลน์ เนื่องจากปัญหา Covid-19 ที่ยังคงความรุนแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ
BMW 5-Series G30 รุ่นปัจจุบันนี้ เปิดตัวกันมาตั้งแต่ปลายปี 2016 โดยในประเทศไทยเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ต้นปี 2017 ก่อนที่จะนำเข้ามาประกอบในประเทศไทยในเดือนสิงหาคม ปี 2017 แน่นอนว่าแม้จะยังคงดูสวยงามโดดเด่น และไม่ล้าหลัง แต่ก็ถึงเวลาอันสมควรแล้วที่จะปรับปรุงโฉมกันบ้าง
BMW 5-Series G30 ใช้พื้นฐาน CLAR (Cluster Architecture) ซึ่งเป็นพื้นฐานที่มีความหลากหลาย และใช้กับรถยนต์หลากหลายรุ่นของ BMW
สิ่งแรกที่จะได้เห็น และเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุด คือรูปลักษณ์ภายนอก แม้ว่าโครงสร้างตัวถังโดยหลักแล้วจะยังคงเหมือนเดิม แต่มีการปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนตัวถังหลายชิ้นด้วยกัน
ไฟหน้า Adaptive LED พร้อม Daytime Running Light และระบบ Selective Beam เพื่อลดการแยงตาผู้ขับขี่อื่นบนท้องถนนอย่างอัตโนมัติ เป็นแบบใหม่ทั้งหมด รูปทรงโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม ความน่าสนใจอยู่ที่ รุ่น Hybrid มีการเติมแต่งเส้นเหนือไฟสีฟ้า ที่ทำให้รถมีความโดดเด่น แสดงถึงความรักษ์โลกของรถ
ในส่วนของด้านท้ายนั้น มีการเปลี่ยนแปลงไฟท้ายเป็นแบบ LED 3 มิติ โดยเป็นชิ้นส่วนใหม่ทั้งหมด ชิ้นที่ติดกับโครงตัวถังยังรูปทรงเดิม แต่ไส้ในเปลี่ยนใหม่ ส่วนชิ้นที่ติดอยู่กับฝากระโปรงท้าย มีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงด้วย
นอกเหนือจากนี้ ยังมีการปรับเปลี่ยนเปลือกกันชนทั้งด้านหน้า (ซึ่งมีกระจังที่ขนาดใหญ่ขึ้นด้วย) และด้านหลัง ตามกับชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน
เมื่อรวมกับล้ออัลลอยลายใหม่หลากหลายแบบแล้ว ทำให้ BMW 5-Series LCI นั้น มีเส้นสายที่คมคายขึ้น สปอร์ตขึ้น แม้เมื่อดูรายละเอียดลึก ๆ แล้ว ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็ไม่ได้เยอะมากมายเสียจนพลิกโลกขนาดนั้น
ในต่างประเทศ ซึ่งตัวเลือกเครื่องยนต์มีความหลากหลายกว่าในประเทศไทย ความเปลี่ยนแปลงนั้นมีอยู่หลากหลายข้อด้วยกัน ทั้งการเพิ่มรุ่น Plug-in Hybrid ให้มีหลากหลายแบบมากขึ้น รวมไปถึงการเพิ่มตัวเลือกของระบบเลี้ยว 4 ล้อมาให้ในรุ่น Plug-in Hybrid อีกทั้งยังมีระบบการปรับไปสู่การใช้ไฟฟ้า ตามพื้นที่สีเขียวที่รัฐเป็นคนกำหนดมาโดยอัตโนมัติ
นอกเหนือจากนี้ ยังมีการเพิ่มระบบ Mild Hybrid หรือมอเตอร์เสริมแรงให้กับรุ่น 4 สูบ และ 6 สูบ อื่น ๆ ซึ่งใช้คู่กับระบบไฟ 48 โวลต์
ในส่วนของเครื่องยนต์สันดาป ก็มีการปรับปรุงการจูนเครื่องให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และรุ่นดีเซล TwinPower Turbo ใช้เทอร์โบแบบแปรผัน 2 จังหวะในทุกรุ่น และผ่านการทดสอบ Euro 6d ซึ่งมีความหินมากขึ้นทุกรุ่น
ส่วนในประเทศไทย รุ่นที่จะได้รับการเปิดตัวนั้น จะเป็นรุ่น BMW 520d และ BMW 530e Plug-in Hybrid อันเป็นรุ่นที่ยังคงมีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งก็จะได้รับการปรับปรุงเหมือนกับตลาดโลกในหลาย ๆ ข้อเลยทีเดียว
รายละเอียดเครื่องยนต์ | ||
---|---|---|
BMW 520d | BMW 530e | |
เครื่องยนต์ | 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ | 4 สูบ เทอร์โบชารจ์ + มอเตอร์ไฟฟ้า |
เชื้อเพลิง | ดีเซล | เบนซิน |
ความจุ | 2.0 ลิตร | 2.0 ลิตร |
พละกำลัง | 190 แรงม้า | 252 แรงม้า/292 แรงม้าในโหมด Xtraboost |
แรงบิด | 400 นิวตันเมตร | 420 นิวตันเมตร |
ระบบส่งกำลัง | เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ | เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ |
การปรับปรุงภายในนั้น ชิ้นส่วนโครงสร้างต่าง ๆ ก็ยังคงเหมือนเดิม แต่มีการปรับปรุง เพิ่มชนิดวัสดุของเบาะแบบ New Sensatec สำหรับเบาะแบบชนิด Comfort
นอกจากนั้น หน้าตา 10.25 นิ้ว ยังถูกทำให้เป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย กับแบบทางเลือกขนาด 12.3 นิ้ว
นอกจากนี้ พวงมาลัยแบบ Sport ก็มีการจัดเรียงปุ่มบนพวงมาลัยใหม่ แม้ว่าตัววงจะยังเหมือนเดิมก็ตาม
เป็นด้านที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เริ่มต้นจากเทคโนโลยีความปลอดภัยต่าง ๆ เช่นระบบ Lane Departure System ตอนนี้สามารถหักพวงมาลัยกลับเข้ามาอยู่ในเลนได้
ถ้าหากท่านเลือกแพคเก็จ Driving Assistant Professional จะได้รับระบบ Active Navigation ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ช่วยระบบ Lane Change Assistant อีกทีนึง โดยสามารถใช้ข้อมูลจาก GPS ในการตรวจสอบเส้นทาง เช่น เลนเบี่ยง หรือทางแยกที่คนขับอาจจะไม่รู้ และมาพร้อมกับภาพ 3 มิติ ขึ้นให้บนแผงหน้าปัด
อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดตัว BMW Maps อันเป็นระบบนำทางที่ใช้ฐานข้อมูล Cloud ในการบอกสภาพการจราจร
ระบบอื่น ๆ อาทิเช่น Android Auto/Apple Car Play รวมไปถึง BMW Digital Key ที่เชื่อมต่อจนโทรศัพท์ iPhone เครื่องเดียวก็ใช้สตาร์ทรถได้ รวมไปถึงยังสามารถอัพเดทระบบผ่านทางออนไลน์ได้
และสุดท้ายนี้ ยังมีระบบ BMW Drive Recorder หรือในภาษาชาวบ้านก็คือ Dashcam มาให้ถ้าหากเลือกตัวเลือก Parking Assistant ที่มาพร้อมระบบช่วยจอด
BMW 5-Series LCI รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ปรับปรุงหนึ่งในรถพรีเมี่ยม Executive ขนาดกลางที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ทันสมัยมากขึ้น สวยงามมากขึ้น และหรูหรามากขึ้น ถ้าหากใครสนใจรถประเภทนี้ แน่นอนครับว่าควรจะติดตามดูกันให้ดีเลยทีเดียว
ส่วนในประเทศไทย ออฟชั่นใดจะอยู่ ออฟชั่นใดจะไป จะจัดรุ่นมาอย่างไร มีรุ่นแปลก ๆ เช่นตัวถังสเตชั่นวากอนหรือไม่ (ไม่น่า) ราคาเท่าไหร่ ข้อมูลจะเปิดเผยกันในอีกไม่ช้า
ติดตามชม งานพรีวิวก่อนเปิดตัววันที่ 18 มกราคม 2021 และงานเปิดตัวจริงวันที่ 20 มกราคม 2021 นี้ได้เลยครับ
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}