ลองขับ BMW M340i ค่าตัว 3.999 ล้านบาท แลก 387 แรงม้า 500 นิวตันเมตร ขับสี่ ขับดี โคตรคุ้ม!!!

2021 BMW M340i xDrive (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม340ไอ เอ็กซ์ไดร์ฟ) คือรถยนต์ที่มาพร้อมโลโก้ M อย่างเป็นทางการแบบไม่ใช่แค่ชุดแต่งหรือแอคเซสซอรี่ ที่ทำการประกอบที่โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทย เรียกเสียงฮือฮาจากเหล่าบิมเมอร์

เพราะไม่ใช่แค่การเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กตัวแรง ที่มีพื้นฐานการพัฒนามาจาก BMW 3-Series (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3) เท่านั้น แต่นี่คือการตอบคำถามของ BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) เกี่ยวกับการเปิดสายการผลิตรถกลุ่มตัวแรงในไทย จากที่คู่แข่งทำไปก่อนแล้ว

แถมเมื่อมีการมาประกอบในไทย ค่ายใบพัดฟ้าขาวยังทำราคาจำหน่ายรถรุ่นนี้ได้อย่างน่าสนใจที่ 3.999 ล้านบาทเท่านั้น เรียกว่าทำราคาท้าชนและดีกว่าคู่แข่งที่ค่าตัวสตาร์ทเกิน 4 ล้านไปเล็กน้อย ทำให้ตัวรถมีความคุ้มค่าน่าคบหามากกว่าเดิมขึ้นไปอีกขั้น

AutoFun Thailand มีโอกาสอยู่กับรถคันนี้ไม่นานเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ดุเดือดในช่วงที่ยืมรถมา แต่ขอบอกเลยว่า นี่คือรถเล็กที่ต้องใช้ทักษะในการควบคุมพอตัว หากคุณคิดจะใช้มันให้สนุกสนาน แต่มันจะตอบสนองได้ในทุกมิติของการใช้งาน

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ทรงพลังระดับ 387 แรงม้า การเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานที่เน้นสมรรถนะในการขับขี่แบบสมบูรณ์แบบ และออพชั่นต่าง ๆ ที่ติดตั้งมาให้มากมายแบบไม่มีกั๊กอะไรกันอีกแล้ว เชื่อว่าใครที่ตามหารถที่ใช้งานได้ทุกรูปแบบคงสนใจรถรุ่นนี้

ขับธรรมดาก็ดี จะซิ่งก็โคตรดี คุ้มจบในคันเดียวเลย...

อ่านเพิ่มเติม: 2021 BMW M340i xDrive รุ่นประกอบไทยเคาะแล้ว 3.999 ล้านบาท แรงขนาดไหนมาชมกัน

Highlight สำหรับ 2021 BMW M340i xDrive

• เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 3.0 ลิตร
• สมรรถนะ 387 แรงม้า 500 นิวตันเมตร
• 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.4 วินาที
• ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive
• เฟืองท้ายและช่วงล่างแบบ M

ความคุ้มค่าในการใช้งานแบบดุดันเต็มพิกัด

ถ้าถามว่าอะไรคือจุดขายที่สำคัญที่สุดของรถคันนี้ ที่มีราคาแพงกว่าซีรี่ส์-3 ทั่วไปพอสมควร แน่นอนว่าคำตอบก็คือการขับขี่ที่ทรงพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร เทอร์โบ ที่ให้กำลังอย่างว่องไวตั้งแต่การเริ่มต้นสตาร์ทไปจนถึงการทำตวามเร็วสูงมาก

แต่แม้จะทำความเร็วสูงระดับมากกว่า 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนทางยกระดับที่มีลมพัดค่อนข้างแรง ตัวรถก็ให้การควบคุมที่ยอดเยี่ยม ด้วยช่วงล่างที่ปรับมาใหม่อย่างนุ่มนวล รวมถึงความสูงของรถที่ช่วยควบคุมการไหลเวียนของอากาศได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ในเรื่องของอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้อย่างครบครันน่าใช้งาน เรียกได้ว่าเหนือกว่าคู่แข่งที่อาจจะมีราคาจำหน่ายแพงกว่าด้วยซ้ำ ทำให้รถคันนี้ สามารถรองรับความต้องการในการใช้งานได้หลากหลาย เรียกว่าจะเป็นรถพ่อบ้านขาซิ่งก็คงไม่ผิดอะไร

การออกแบบภายนอก มองเผิน ๆ ก็ซีรี่ส์ 3 นั่นล่ะ

ตอนที่ผมถ่ายรูปรถคันนี้ลงโซเชียลมีเดียแบบไม่ได้ระบุรุ่นรถให้ชัดเจน เพื่อนผมหลาย ๆ คนทักว่าเอาซีรี่ส์ 3 ไปแต่งเพิ่มมาหรอ จนกระทั่งบอกราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้ฟัง หลายคนร้องเฮ้ย ทำไมเดี๋ยวนี้รถยุโรปไซส์เล็กราคามันไปไกลจากเดิมเยอะ

จนต้องมานั่งเฉลยว่านี่ไม่ใช่ซีรี่ส์ 3 เวอร์ชั่นปกติ เพราะหากดูในรายละเอียดแล้ว ก็จะพบเห็นสิ่งที่แตกต่างไปหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชุดแต่ง M แบบรอบคันที่ดูดุดันและโดดเด่น ทำให้ตัวรถดูสปอร์ตกว่าเดิม ด้วยความสูงของรถที่ลดลงไปสักเล็กน้อย

ติดตั้งหลังคาพาโนรามิกซันรูฟมาให้ พร้อมเพิ่มความโดดเด่นด้วยระบบไฟ BMW Laer Light ที่ส่องสว่างทางไกลในยามค่ำคืน มาพร้อมล้ออัลลอย 19 นิ้ว ลายก้านคู่ของ M เหมือนกัน พร้อมด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีน้ำเงิน ที่เพิ่มตวามโดดเด่นให้กับตัวรถเอง

การตกแต่งด้วยสีสโมกโครมในตำแหน่งของกระจังหน้าและกระจกมองข้าง ติดตั้งกล้องสำหรับระบบ 360 องศาอยู่รอบคัน ด้านท้ายมาพร้อมท่อไอเสียแบบคู่ และมีการติดตั้งโลโก้ M340i และ xDrive ที่ด้านหลังฝากระโปรงเพื่อแสดงสถานภาพของรถ

ฝากระโปรงด้านท้ายเปิด-ปิดแบบไฟฟ้า ที่สามารถได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นจากรีโมต กดปุ่ม หรือการเตะเข้าไปใต้กันชนเพื่อเปิด ห้องเก็บสัมภาระมีขนาดใหญ่และลึก แถมตัวรถที่ไม่สูงมากนัก ทำให้สามารถยกสัมภาระเข้าออกได้โดยสะดวกโยธิน

ภายในสายดุ เน้นเรียบเนี๊ยบ เพียบไปด้วยของเล่น

การออกแบบห้องโดยสารนั้นไม่ได้แตกต่างอะไรจากรถรุ่นอื่น ๆ มากนัก แต่เน้นการตกแต่งที่เพิ่มขึ้นมา เช่น การเลือกใช้พวงมาลัยแบบ M ที่หุ้มหนังเพื่อความกระชับในการควบคุมตัวรถ หรือการตกแต่งด้วยลายคาร์บอนไฟเบอร์ เพิ่มความสปอร์ตดุดันขึ้น

หน้าจอเอนเตอร์เทนเมนต์ตรงกลางรองรับระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหว หรือ Gesture Control ขณะที่หน้าจอแสดงผลการขับขี่ดิจิตอลแบบสี พร้อมฟังชั่นส์ Head-up Display ที่กระจกบังลมด้านหน้า ให้ข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับรถคันนี้อย่างครบครัน

เบาะที่นั่งที่มีการเพิ่มตำแหน่งของปีกเพื่อรองรับน้ำหนักด้านข้างมาเรียบร้อย ให้สัมผัสการนั่งที่สบายและโอบกระชับ หมอนรองศีรษะจะดันด้านหลังหัวเล็กน้อย ขณะที่การจัดวางอุปกรณ์ควบคุมอื่น ๆ ก็ถือว่าเหมาะสม อยู่ใกล้มือและใช้งานได้ง่ายดาย

เข็มขัดนิรภัยของ M ที่จะเดินด้านสีน้ำเงินและแดง เสริมความโดดเด่นให้กับตัวรถ พอพอกับการเลือกใช้อลูมิเนียมและวัสดุตกแต่งสีสโมคโครมที่ดูเนี๊ยบกว่าลายไม้หรือโครเมียมธรรดา ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศของห้องโดยสารให้เงียบขรึมขึ้นไปอีกขั้น

ตำแหน่งการนั่งด้านท้ายนั้น ถูกกดลงไปตามตัวรถ ทำให้มีความเตี้ยลงไปจากปกติอีก ส่งผลต่อการเข้า-ออกห้องโดยสารอยู่เหมือนกัน แต่ข้อดีคือจุดศูนย์ถ่วงที่ลดลงไป ทำให้ตัวรถไม่โยกโยนเท่าไรนัก เดินทางไกลได้สบาย ๆ แถมที่รองเข่าก็รองรับอย่างดี

ติดตั้งที่เท้าแขนพร้อมที่วางแก้วมาให้เรียบร้อย ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังอยู่ที่หลังคอนโซลกลาง สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ และมาพร้อมช่องชาร์จไฟแบบ USB-C 2 ช่อง พร้อมด้วยช่องเสียบไฟแบบที่จุดบุหรี่ ติดตั้งมาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

การเชื่อมต่อภายในรถรองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายทั้งคู่ รองรับการเชื่อมต่อ BMW Connect ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน รวมถึงมีระบบโทรออกฉุกเฉิน เพื่อขอความช่วยเหลือในกรณีที่ประสบอุบัติเหตุหรือมีปัญหาต่าง ๆ 

ดีที่สุดคือเครื่องยนต์ จะหรูจะซนก็พร้อมทุกโหมด

แน่นอนว่าหัวใจของการพัฒนารถคันนี้ให้มีความโดดเด่นและแตกต่าง ก็คือการเลือกใช้เครื่องยนต์สมรรถนะสูงติดตั้งมาให้เป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ต้องการพละกำลังอย่างเหนือชั้น จากรถยนต์ขนาดเล็ก เพื่อการใช้งานที่เหนือกว่ารถยนต์ทั่ว ๆ ไป

พวกเขาทำการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร ที่มาพร้อมเทคโนโลยี TwinPower Turbo อันเลื่องชื่อ ซึ่งถือเป็นรถยนต์รุ่นท้าย  ๆ ของค่าย ที่เน้นการเบ่งกล้ามให้กับเครื่องยนต์โดยไม่ใช้ระบบไฟฟ้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ได้ฟีลการขับเต็มที่

ตัวเครื่องยนต์นั้น ให้กำลังสูงสุดที่ 387 แรงม้าที่ 5,800–6,500 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,800–5,000 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นสมรรถนะที่ M Performance เป็นคนทำการพัฒนาและเซตอัพมาให้อย่างลงตัว ให้ใช้งานในทุกย่านความเร็ว

การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive ที่ทางบีเอ็มดับเบิลยูคุยว่าเป็นเวอร์ชั่นที่พัฒนาเพื่อรถยนต์นั่งโดยเฉพาะ ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยม ด้วยอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.4 วินาที

เราลองทำการทดสอบจริง ๆ ในสถานการณ์การขับขี่จริง จะเห็นว่า 0-100 นั้นทำได้ประมาณ 5.4 วินาทีในโหมดสปอร์ตและ 5.8 วินาทีในโหมดธรรมดา ซึ่งเชื่อว่าหากมีโอกาสทดสอบหลายรอบให้ชินกับเกียร์และรถกว่านี้ ก็น่าจะทำเวลาได้ดีขึ้นเหมือนกัน

การส่งกำลังของระบบส่งกำลังทำได้อย่างต่อเนื่อง ความรู้สึกของการตอบสนองของเครื่องยนต์นั้นสนุกสนานและดีงามกว่าเครื่องยนต์ไฟฟ้าหรือลูกครึ่งไฟฟ้าอย่างเห็นได้ชัด การสับเกียร์ด้วยแพดเดิลชิฟท์นั้นทำได้อย่างว่องไว ไม่มีเสียอาการของรถ

อย่างที่พูดไปผ่าน ๆ ด้านบนว่ามีแอบทำความเร็วสูงสุดไปบ้าง ก็พบว่าเป็นรถที่ขับขี่ยิ่งเร็วยิ่งสนุก เพราะตัวรถเก็บอาการได้ค่อนข้างดี ทั้งเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอก หรือแรงสะเทือนจากยางและช่วงล่าง ไม่ได้ทำให้เกิดอาการหวาดกลัวแม้แต่น้อย

เสริมให้เพียบทั้งความปลอดภัยและความสบาย

หากบอกว่าเครื่องยนต์คือจุดขายหลัก สิ่งที่เป็นจุดขายไม่แพ้กันก็คือบรรดาอุปกรณ์และระบบที่ติดตั้งมาให้นั้นถือว่าครอบคลุมและครบครัน เรียกว่าให้มากันแบบไม่ต้องคิดหาแล้วว่ามันขาดอะไรอีกไหมสำหรับความช่วยเหลือต่าง ๆ ที่ติดตั้งเพิ่มให้ได้อีก

ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบคัน พร้อมเซนเซอร์กะระยะ ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ พร้อมด้วยระบบถอยหลังอัตโนมัติ 50 เมตร และยังมาพร้อมระบบควมคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อม Stop&Go Function ครบครัน

การออกแบบรถนั้นให้ความแตกต่างจากรถเวอร์ชั่นปกติ ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive ระบบเฟืองท้าย M Sport ช่วงล่างแบบ M Adaptive Suspension พร้อมด้วยพวงมาลัยไฟฟ้า ปรับน้ำหนักตามความเร็วขณะขับขี่ ที่ทำให้ควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ

ติตตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ อันประกอบไปด้วย ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ที่ความเร็วต่ำ และขณะถอยจอด เพิ่มความปลอดภัยรอบด้าน

รวมไปถึงระบบพื้นฐานมากมาย ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง เบรกมือไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชั่น Hold อัตโนมัติ เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน

ทั้งหมดนี้ทำให้ BMW M340i xDrive กลายเป็นรถยนต์อีกรุ่นที่ให้การตอบสนองต่อการขับขี่และการใช้งานที่ยอดเยี่ยม ไม่ได้มีดีแค่เรื่องของความแรงแต่เพียงอย่างเดียว แต่จัดว่าเป็นรถที่มีอุปกรณ์และระบบคุ้มค่าตัวมากที่สุดรุ่นหนึ่งในขณะนี้กันเลยทีเดียว

เอาเป็นว่าหากคุณต้องการซื้อรถสักคันที่ราคา 4 ล้านบาทบวกลบ และอยากได้รถที่ใช้งานได้อย่างครบครันที่สุดคันหนึ่ง รถคันนี้ก็ถือเป็นคำตอบที่ดีอีกรุ่น เพราะคุณจะใช้มันขับไปจ่ายตลาดหรือเอาไปซิ่งกับเพื่อน ๆ ก็ทำได้แบบเนียน ๆ ไม่มีอะไรติดขัด

ถ้าจ่ายไหว บอกเลยว่ารถคันนี้คุ้มค่าแน่นอน!!!