เครือข่ายพันธมิตรรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Renault-Nissan-Mitsibishi ตกเป็นข่าวว่าเตรียมประกาศแผนลงทุนเพิ่มสำหรับการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าอีกกว่า 2 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 7.5 แสนล้านบาท) ในการร่วมมือกันพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า
แผนการลงทุนดังกล่าวจะเกิดขึ้้นภายในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งนอกจากการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ออกมาทำตลาดแล้ว พวกเขายังมีแผนที่จะร่วมมือกันพัฒนารถยนต์ต่างแบรนด์บนแพลตฟอร์มเดียวกัน เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้แข่งขันได้มากขึ้นด้วย
นี่ไม่ใช่การประกาศแผนการลงทุนครั้งแรกของพันธมิตรรายนี้ ที่ก่อนหน้านี้มีการลงทุนด้านการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้ามาแล้วไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านยูโร ซึ่งก็ดูเหมือนว่าทุกแบรนด์ก็มีแผนงานที่ชัดเจนในการลงทุนและเดินหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่ของตัวเอง
แล้วแผนการใหม่จะมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยบ้างไหมนะ???
ตัวเลขการลงทุนดังกล่าวนั้นมีรายงานว่าจะเน้นไปที่การเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่จำนวนมากถึง 35 รุ่น ภายในอีก 8 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ที่หลากหลาย บนแพลตฟอร์มที่จะแบ่งกันใช้งาน 5 รุ่น ซึ่งแพลตฟอร์มใหม่นี้จะถูกใช้ในรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 90% ที่จะเปิดตัวในช่วงเวลาดังกล่าว
นอกจากนี้ มีรายงานระบุว่าไฮไลท์ในการเปิดตัวสินค้าใหม่ของพันธมิตรในครั้งนี้ ก็คือการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กรุ่นใหม่ ที่ราคาสามารถจับต้องถึงได้อย่างง่ายดาย โดยมีเป้าหมายที่จะทำสมรรถนะและราคาจำหน่ายให้เทียบเท่ากับรถยนต์นั่งขนาดเดียวกันที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในให้ได้เลยทีเดียว
นอกเหนือจากแพลตฟอร์มรถยนต์ใหม่ที่จะถูกใช้งานร่วมกัน พวกเขายังจะแชร์เทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่ และชิ้นส่วนในการผลิตร่วมกัน โดยความร่วมมือกันครั้งนี้จะก่อให้เกิดโครงข่ายโรงงานแบตเตอรี่ขนาด 220 กิกะวัตต์ชั่วโมงในฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร จีนและประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว
แน่นอนว่าการร่วมมือกันจะต้องมีผู้นำที่ชัดเจน เพราะการร่วมมือกันพัฒนาไปในทิศทางเดียวกันจะก่อให้เกิดการลดต้นทุนอย่างเป็นรูปธรรม และนิสสันก็จะเป็นผู้นำด้านการพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบโซลิดสเตท ที่แน่นอนว่าเรโนลต์และมิตซูบิชิคงต้องศึกษาหาทางปรับมาใช้ในการผลิตรถยนต์ของตนเอง
ในฐานะของแบรนด์นั้น ทั้ง 3 ค่ายต่างมีแผนงานที่ชัดเจน เรโนลต์ประกาศว่าจะบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในยุโรปในปี 2030 นิสสันได้ประกาศแผน Ambition 2030 ในการส่งรถไฟฟ้า 15 รุ่นออกตีตลาด และมิตซูบิชิก็มีแผนงานด้านนี้เช่นเดียวกัน จึงน่าจับตาว่าความร่วมมือกันในครั้งนี้จะส่งผลดีอย่างไรกับพวกเขาในอนาคต
แน่นอนว่านิสสันในประเทศไทยนั้นพยายามเดินหน้ารถยนต์ไฟฟ้ามาก พวกเขาจำหน่าย Nissan Leaf (นิสสัน ลีฟ) มาอย่างยาวนาน และมีข่าวว่าจะผลิตและจำหน่าย Nissan Ariya (นิสสัน อารียะ) ในประเทศไทยตามแผนงานที่วางเอาไว้ ที่แม้จะดูไม่ชัดเจน แต่ก็ถือว่าเป็นค่ายรถที่ให้ความสนใจด้านนี้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่มิตซูบิชิ แม้จะเคยโด่งดังในอดีตกับรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กมาก่อน แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้มีส่วนร่วมในแวดววงรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันเสียเท่าไรนัก ที่ใกล้เคียงที่สุดก็คงจะเป็น Mitsubishi Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) ที่มาพร้อมระบบปลั๊กอินไฮบริดที่พอจะเรียกว่ายานยนต์ไฟฟ้าได้
ดังนั้น หากโครงการรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กของพันธมิตรรายนี้เกิดขึ้นจริง และมีการนำเข้ารถยนต์ขนาดเล็กเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยจริง ๆ ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย และหากเป็นรถที่มาพร้อมราคาที่จับต้องได้ เชื่อเลยว่าจะมีลูกค้าที่พร้อมเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่จาก 2 ค่ายนี้อยู่บ้าง
หวังว่าคงไม่นำเข้ามาราคาแพงกว่าชาวบ้านชาวช่องอีกก็พอ...
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}